เป็นไปตามคาด ชาวต่างชาติที่ผมบลอนด์ตาฟ้าอายุประมาณห้าสิบกว่าปีได้ปรากฏตัวในสายตาของทุกคน
เขาโค้งคํานับให้กับทุกคน แล้วยิ้มให้กับฉีเติ่งเสียนและพูดว่า "สวัสดีครับ คุณฉีที่เคารพรัก"
ฉีเติ่งเสียนจับมือกับสวิฟต์และพูดอย่างราบรื่นว่า "ขอแนะนําให้ทุกคนรู้จัก คนนี้ก็คือผู้รับผิดชอบธนาคารรุ่ยกั๋วในเขตหัวกั๋วนะครับ คุณสวิฟต์ครับ!"
"คุณสวิฟต์จริงๆด้วย ผมโชคดีที่เคยเห็นเขามาครั้งหนึ่ง"
"เอ๊ะ ถ้าพูดแบบนี้ ฉีเติ่งเสียนนําเงินมาหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อลงทุนกับเซี่ยงกรุ๊ป ไม่ใช่เรื่องโกหกใช่ไหม?!"
"ไร้สาระ! ไม่แปลกที่เซี่ยงตงฉิงจะใช้เขาเป็นไพ่ใบสุดท้ายของตัวเอง ที่แท้เขามีเงินมากมายขนาดนี้เลย"
หลังจากทุกคนเห็นสวิฟต์ ก็ต่างตกตะลึง
สวีเอ้าเสวี่ยเคยเห็นสวิฟต์มาหลายครั้ง สีหน้าของเธอตึงขึ้นทันที ถ้าฉีเติ่งเสียนสามารถเชิญสวิฟต์มาได้ เห็นได้ชัดว่าเงินหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ไม่มีทางเป็นเรื่องโกหกแน่นอน!
"ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นพยานคนนี้ และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำเพื่อประธานฉี" สวิฟต์หันมาพูดกับฉีเติ่งเสียนโดยเฉพาะ
"คุณเกรงใจไปแล้ว รบกวนช่วยจัดการด้วยนะครับ โอนเงินพวกนี้เข้าบัญชีของเซี่ยงกรุ๊ป" ฉีเติ่งเสียนพูดขึ้น
สวิฟต์หยิบแท็บเล็ตออกมาจากกระเป๋าของเขาโดยไม่พูดอะไรสักคํา และเริ่มจัดการทันที
หลังจากที่สวิฟต์จัดการเสร็จ ก็วางแท็บเล็ตไว้ตรงหน้าของฉีเติ่งเสียนและพูดว่า "เชิญท่านสแกนลายนิ้วมือได้เลยครับ"
ฉีเติ่งเสียนสแกนลายนิ้วมือของตัวเอง จากนั้น ดำเนินการโอนเงินสําเร็จ
"ท่านประธานฉี และคุณเซี่ยง เงินหมื่นล้านดอลลาร์ได้ถูกโอนไปยังธนาคารของเซี่ยงกรุ๊ปโดยบัญชีธนาคารรุ่ยกั๋วของประธานฉีแล้วครับ สามารถเช็คได้เลยครับ" สวิฟต์พูด
เซี่ยงตงฉิงพยักหน้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู และพูดว่า "เข้าบัญชีแล้ว และขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือที่คุณสวิฟต์ในวันนี้ด้วยนะคะ"
สวิฟต์ตอบด้วยรอยยิ้มว่า "การบริการด้วยความจริงใจเป็นสโลแกนของเรา คุณเซี่ยงไม่ต้องเกรงใจครับ!"
หลังจากที่สวิฟต์โค้งคํานับให้กับทุกคนอย่างสุภาพ เขาก็จากไปเลย
ทุกคนต่างอึ้งจนพูดไม่ออก เดิมทีคิดว่าฉีเติ่งเสียนเป็นแค่ตัวตลกที่คุยโวเท่านั้น
ใครจะไปรู้ว่าเขาเอาเงินหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์มาจริงๆ และยังเชิญสวิฟต์ผู้รับผิดชอบธนาคารรุ่ยกั๋วในเขตหัวกั๋วมาดําเนินการโอนเงินด้วยตนเองอีกด้วย!
การกระทำแบบนี้ แหกหน้าทุกคนที่อยู่ในงานไปเลย
"ว้าว เมิ่งเมิ่ง ทําไมประธานฉีถึงรวยขนาดนี้? เมื่อก่อนคุณไม่รู้เหรอ?!" หยางกวนกวนดึงแขนของเฉียวชิวเมิ่งและเขย่าไปมาพูดอย่างตกใจ
"ฉัน ฉันไม่รู้!" เฉียวชิวเมิ่งปากสั่นและไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
ภายในงานมีคนมากมาย ในขณะนี้ คนที่มีความรู้สึกซับซ้อนที่สุดคงเป็นเฉียวชิวเมิ่ง
ตั้งแต่ฉีเติ่งดสียนก้าวเข้ามาบ้านตระกูลเฉียว ก็เผชิญกับการเยาะเย้ยถากถางของเธอและครอบครัวมาเยอะ ทุกคนต่างคิดว่าเขาคงเป็นอย่างดอกฟ้ากับหมาวัด แค่คนบ้านนอกเท่านั้น
แต่ฉีเติ่งเสียนในวันนี้ สามารถควักเงินหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อลงทุนให้กับเซี่ยงกรุ๊ป แม้กระทั่งสวิตฟ์ที่เป็นผู้รับผิดชอบของธนาคารรุ่ยกั๋วในเขตเมืองหัวกั๋วก็ยังเชิญมาได้
พอมองกลับกัน กลับเป็นตัวเองที่ไม่คู่ควรกับเขา?!
นาทีนี้เธอเข้าใจแล้วว่าทําไมเยี่ยเฟิงถึงได้พูดกับเธอแบบนั้นตอนอยู่ในบาร์ ที่สงสัยว่าทำไมเธอถึงปลอมตัวเป็นภรรยาของฉีเติ่งเสียน
เฉียวชิวเมิ่งไม่รู้ตัวเลยว่ากัดริมฝีปากของตัวเองเป็นแผลแล้ว เลือดไหลลงมาที่มุมปาก ทั้งเค็มทั้งคาว รู้สึกขมขื่นมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...