มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 252

สรุปบท บทที่ 252 โอกาสชนะ: มังกรผู้ทรงพลัง

ตอน บทที่ 252 โอกาสชนะ จาก มังกรผู้ทรงพลัง – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 252 โอกาสชนะ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง มังกรผู้ทรงพลัง ที่เขียนโดย จาง หลงหู เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เป็นไปตามคาด ชาวต่างชาติที่ผมบลอนด์ตาฟ้าอายุประมาณห้าสิบกว่าปีได้ปรากฏตัวในสายตาของทุกคน

เขาโค้งคํานับให้กับทุกคน แล้วยิ้มให้กับฉีเติ่งเสียนและพูดว่า "สวัสดีครับ คุณฉีที่เคารพรัก"

ฉีเติ่งเสียนจับมือกับสวิฟต์และพูดอย่างราบรื่นว่า "ขอแนะนําให้ทุกคนรู้จัก คนนี้ก็คือผู้รับผิดชอบธนาคารรุ่ยกั๋วในเขตหัวกั๋วนะครับ คุณสวิฟต์ครับ!"

"คุณสวิฟต์จริงๆด้วย ผมโชคดีที่เคยเห็นเขามาครั้งหนึ่ง"

"เอ๊ะ ถ้าพูดแบบนี้ ฉีเติ่งเสียนนําเงินมาหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อลงทุนกับเซี่ยงกรุ๊ป ไม่ใช่เรื่องโกหกใช่ไหม?!"

"ไร้สาระ! ไม่แปลกที่เซี่ยงตงฉิงจะใช้เขาเป็นไพ่ใบสุดท้ายของตัวเอง ที่แท้เขามีเงินมากมายขนาดนี้เลย"

หลังจากทุกคนเห็นสวิฟต์ ก็ต่างตกตะลึง

สวีเอ้าเสวี่ยเคยเห็นสวิฟต์มาหลายครั้ง สีหน้าของเธอตึงขึ้นทันที ถ้าฉีเติ่งเสียนสามารถเชิญสวิฟต์มาได้ เห็นได้ชัดว่าเงินหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ไม่มีทางเป็นเรื่องโกหกแน่นอน!

"ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นพยานคนนี้ และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำเพื่อประธานฉี" สวิฟต์หันมาพูดกับฉีเติ่งเสียนโดยเฉพาะ

"คุณเกรงใจไปแล้ว รบกวนช่วยจัดการด้วยนะครับ โอนเงินพวกนี้เข้าบัญชีของเซี่ยงกรุ๊ป" ฉีเติ่งเสียนพูดขึ้น

สวิฟต์หยิบแท็บเล็ตออกมาจากกระเป๋าของเขาโดยไม่พูดอะไรสักคํา และเริ่มจัดการทันที

หลังจากที่สวิฟต์จัดการเสร็จ ก็วางแท็บเล็ตไว้ตรงหน้าของฉีเติ่งเสียนและพูดว่า "เชิญท่านสแกนลายนิ้วมือได้เลยครับ"

ฉีเติ่งเสียนสแกนลายนิ้วมือของตัวเอง จากนั้น ดำเนินการโอนเงินสําเร็จ

"ท่านประธานฉี และคุณเซี่ยง เงินหมื่นล้านดอลลาร์ได้ถูกโอนไปยังธนาคารของเซี่ยงกรุ๊ปโดยบัญชีธนาคารรุ่ยกั๋วของประธานฉีแล้วครับ สามารถเช็คได้เลยครับ" สวิฟต์พูด

เซี่ยงตงฉิงพยักหน้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู และพูดว่า "เข้าบัญชีแล้ว และขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือที่คุณสวิฟต์ในวันนี้ด้วยนะคะ"

สวิฟต์ตอบด้วยรอยยิ้มว่า "การบริการด้วยความจริงใจเป็นสโลแกนของเรา คุณเซี่ยงไม่ต้องเกรงใจครับ!"

หลังจากที่สวิฟต์โค้งคํานับให้กับทุกคนอย่างสุภาพ เขาก็จากไปเลย

ทุกคนต่างอึ้งจนพูดไม่ออก เดิมทีคิดว่าฉีเติ่งเสียนเป็นแค่ตัวตลกที่คุยโวเท่านั้น

ใครจะไปรู้ว่าเขาเอาเงินหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์มาจริงๆ และยังเชิญสวิฟต์ผู้รับผิดชอบธนาคารรุ่ยกั๋วในเขตหัวกั๋วมาดําเนินการโอนเงินด้วยตนเองอีกด้วย!

การกระทำแบบนี้ แหกหน้าทุกคนที่อยู่ในงานไปเลย

"ว้าว เมิ่งเมิ่ง ทําไมประธานฉีถึงรวยขนาดนี้? เมื่อก่อนคุณไม่รู้เหรอ?!" หยางกวนกวนดึงแขนของเฉียวชิวเมิ่งและเขย่าไปมาพูดอย่างตกใจ

"ฉัน ฉันไม่รู้!" เฉียวชิวเมิ่งปากสั่นและไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร

ภายในงานมีคนมากมาย ในขณะนี้ คนที่มีความรู้สึกซับซ้อนที่สุดคงเป็นเฉียวชิวเมิ่ง

ตั้งแต่ฉีเติ่งดสียนก้าวเข้ามาบ้านตระกูลเฉียว ก็เผชิญกับการเยาะเย้ยถากถางของเธอและครอบครัวมาเยอะ ทุกคนต่างคิดว่าเขาคงเป็นอย่างดอกฟ้ากับหมาวัด แค่คนบ้านนอกเท่านั้น

แต่ฉีเติ่งเสียนในวันนี้ สามารถควักเงินหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อลงทุนให้กับเซี่ยงกรุ๊ป แม้กระทั่งสวิตฟ์ที่เป็นผู้รับผิดชอบของธนาคารรุ่ยกั๋วในเขตเมืองหัวกั๋วก็ยังเชิญมาได้

พอมองกลับกัน กลับเป็นตัวเองที่ไม่คู่ควรกับเขา?!

นาทีนี้เธอเข้าใจแล้วว่าทําไมเยี่ยเฟิงถึงได้พูดกับเธอแบบนั้นตอนอยู่ในบาร์ ที่สงสัยว่าทำไมเธอถึงปลอมตัวเป็นภรรยาของฉีเติ่งเสียน

เฉียวชิวเมิ่งไม่รู้ตัวเลยว่ากัดริมฝีปากของตัวเองเป็นแผลแล้ว เลือดไหลลงมาที่มุมปาก ทั้งเค็มทั้งคาว รู้สึกขมขื่นมาก

หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนพูดจบ เซี่ยงตงชิงก็พยักหน้าแล้วพูดว่า "ธุรกิจก็คือธุรกิจ ในเมื่อเพื่อนบางคนไปอยู่ฝั่งตรงข้ามของฉันแล้ว งั้นก็อย่าโทษฉันแล้วกันนะ!"

ทุกคนนึกถึงความเลือดเย็นและไร้ความปราณีของเซี่ยงตงฉิง ก็รู้สึกตัวสั่น

แต่ทว่า เมื่อนึกถึงการเพิ่มทุนของผู้ประกอบการจํานวนมากในพันธมิตรธุรกิจของสวีกรุ๊ป แถมสวีเอ้าเสวี่ยยังมีเมืองหลวงเป็นภูมิหลัง และได้รับความช่วยเหลือจากอวี้เสี่ยวหลง ถึงได้รู้สึกว่าพวกเขาเองจะไม่มีทางแพ้เด็ดขาด

พอไพ่ลับของตงฉิงได้เปิดตัว ก็พอทําให้คนบางคนตกใจบ้าง เดิมทีพวกเขามีความตั้งใจที่จะลงทุนในพันธมิตรธุรกิจของสวีกรุ๊ป แต่ในเวลานี้กลับรู้สึกว่ารอดูกันก่อนดีกว่า ถ้าไม่ได้จริงๆก็ไม่เข้าร่วมสงครามครั้งนี้

"เกมนี้ จนถึงตอนนี้ เริ่มน่าสนใจขึ้นบ้างแล้ว! แต่ไม่ว่ายังไง ผู้ชนะคนสุดท้าย ต้องเป็นฉันเท่านั้น" สวีเอ้าเสวี่ยพูดอย่างมั่นใจ

ฉีเติ่งเสียนยิ้มอย่างเฉยเมย เขาขี้เกียจพูดกับสวีเอ้าเสวี่ย เดี๋ยวความเป็นจริงจะทําแหกหน้าเธอเอง ให้เธอได้เรียนรู้วิธีลดความเย่อหยิ่งของตัวเองและพูดคุยกับคนอื่นดีๆ

หวงเหวินเทามองฉีเติ่งเสียน รู้สึกว่าไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายจะมีความมั่นใจขนาดนี้ แต่มีเงินทุนหมื่นล้านดอลลาร์นี้ เซี่ยงกรุ๊ปจะมีโอกาสชนะจริงๆเหรอ? ไม่แน่นอนหรอก!

ไม่ว่าจะมองยังไง พันธมิตรทางธุรกิจของสวีกรุ๊ปก็มีโอกาสชนะที่เยอะกว่า

หลี่อวิ๋นหว่านพูดกับฉีเติ่งเสียนว่า "ทําไมถึงมีแค่หมื่นล้านล่ะ นายมีเงินจํานวนนี้อยู่ไม่ใช่เหรอ?"

"ผมกลัวว่าพวกเขาจะกลัวจนหนีไป ถึงเวลานั้นก็ไม่ได้กำไรน่ะสิ" ฉีเติ่งเสียนมองหลี่อวิ๋นหว่านที่ชูมือออกมา จึงยิ้มออกมา ยื่นมือไปแตะจมูกของเธอด้วยความเอ็นดู

"ฮ่าฮ่า นายนี่นิสัยไม่ดีเลยน้า" หลี่อวิ๋นหว่านรู้สึกขำ

ถ้าสวีเอ้าเสวี่ยรู้ว่าเซี่ยงตงฉิงมีเงินห้าหมื่นล้านดอลลาร์ที่สามารถใช้ได้ตามใจชอบล่ะก็ เธอคงจะเก็บข้าวของหนีเตลิดกลับไปที่เมืองหลวงในชั่วข้ามคืนแน่เลยมั้ง?

"แต่เมื่อกี้ที่นายออกมาประกาศว่าจะลงทุนหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ให้กับเซี่ยงกรุ๊ป เท่มากจริงๆ" หลี่อวิ๋นหว่านชื่นชม

เฉียวชิวเมิ่งมองทั้งสองคนที่พูดไปหัวเราะไป ในใจของเธอยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เธอเม้มปาก ไม่ทักทายใครเลย และออกจากงานเลี้ยงไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง