มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 410

เฉินหยูรู้สึกว่าอดทนอดกลั้นไม่ไหวแล้ว

"ผมได้รับข่าวว่าคนของคนตระกูลหวงกำลังจะเข้าไปโจมตีที่บริษัทคุณ คุณคงไม่สามารถรับมือได้อย่างเพียงพอและคงเกินกำลัง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ตระกูลเฉินของเรามาที่นี่เพื่อช่วยเหลือ”

เฉินหยูหยิกกุมขมับตัวเองและขมวดคิ้วแล้วพูด ราวกับมีอะไรบางอย่างที่ไม่เข้าใจ

เมื่อพูดตามหลักเหตุผล ด้วยความสามารถของตระกูลเฉินหนานหยาง แต่ไม่รู้ว่าพวกเขาจะได้ยินถึงข่าวที่ไม่เป็นความจริง

ฉีเติ่งเสียนหัวเราะและพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นคุณคงไม่ได้ยินข่าวนี้มาว่าผมลงทุนทองคำจำนวน 50 พันล้านในเซี่ยงกรุ๊ป เพื่อจัดการกับอิทธิพลของตระกูลหวง ตอนนี้พวกเขาแทบจะทนไม่ไหวแล้ว"

เฉินหยูอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขินอายเล็กน้อยและพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นฉันอาจจะทำผิดพลาดจริงๆ และทำให้กลายเป็นเรื่องตลกที่น่าขำขันขึ้นมาก็ได้!"

ฉีเตีงเสียนโบกมืออย่างสบายๆ และพูดว่า "นั่นมันไม่เป็นความจริง ยังไงซะตระกูลเฉินก็ถือว่าเป็นเพื่อนของผมและเต็มใจที่จะช่วยเหลือผมฉัน ผมนั้นรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก"

“ถึงแม้ว่าครั้งนี้ผมอาจจะยังไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกคุณ แต่ครั้งหน้าผมอาจจจะต้องถามพึ่งพาพวกคุณในครั้งต่อไป”

“ถ้าหากภายหลังจากนี้มีอะไรเกิดขึ้นกับตระกูล พวกคุณก็สามารถขอความช่วยเหลือจากผมได้ ผมจะทำทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้อย่างเต็มที่”

รอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฉินหยู เขาพยักหน้าและขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า "คุณฉีไม่เจอกันนานเลย อย่าโกรธเคืองกันไปเลย ถ้าหากคุณต้องการอะไร เพียงแค่เอ่ยปากออกมาถาม พวกเราจะช่วยเหลืออย่างแน่นอน"

เฉินชิงเป็นบุคคลสำคัญสำหรับตระกูลเฉินเป็นอย่างมาก แต่ทว่าการมีชีวิตรอดของเขาในเรือนจำโยวตูนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อตระกูลเฉินทั้งหมด

เมื่อผู้บริหารที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้มองเห็นแววตาของฉีเติ่งเสียนก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความกลัวออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ และรู้สึกว่าฉีเติ้งเสียนนั้นคาดเดาไม่ได้จริง ๆ อีกทั้งยังคาดไม่ถึงว่าจฉีเติ่งเสียนนั้นจะะมีความสัมพันธ์แบบนี้เช่นนี้กับตระกูลเฉิน ซึ่งเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ในเมืองงหนานหยาง มันน่าทึ่งมาก

“ถ้าหากคุณเฉินสนใจจะกรุณามาเยี่ยมชมบริษัทของพวกเรา ผมจะเชิญคุณมารับประทานอาหารค่ำ”ฉีเติ่งเสียนยิ้มและพูดกล่าวอยางเชื้อเชิญ

“ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นประธานของบริษัทระหว่างประเทศขนาดใหญ่ ถ้าหากคุณรู้สึกว่าเกิดเรื่องอะไรผิดปกติ คุณสามารถชี้ให้เห็นได้ นั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพวกเราเช่นกัน”

“หยางกวงกวน หน้าที่งานนี้ผมมอบหมายให้คุณ”

หยางกวนกวนพยักหน้าและตอบตกลงพร้อมที่จะปฏิบัติทันที ซึ่งฉีเติ่งเสียนนั้นรู้อยู่แล้วว่านี่เป็นโอกาสที่ดีมอบให้เธอในการพัฒนา

“นี่เป็นผู้หญิงจากตระกูลเฉินของหนานหยางใช่ไหม ทุกการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นทุกคำพูดและการกระทำของเธอนั้นมีเสน่ห์มากและงดงาม!”

“นิสัยของผู้หญิงคนนี้มันช่างทำให้ทุกคนที่เข้ามาต่างพากันหลงใหลมาก อะ อะอะ ผมนี่อยากจะย้ายไปทำงานที่บริษัทของเธอและทำงานเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอจริงๆ!”

“ผู้หญิงที่มาจากตระกูลชั้นสูงนั้นมันช่างแตกต่างกัน แต่ไม่เหมือนกัน พวกเขาน่าจะมองมาก ผมบอกได้คำเดียวว่าพวกเธอนั้นอยู่ระดับสูงสุด”

เมื่อผู้บริหารของเทียนไล่แคปปิตอลกรุ๊ปกำลังจะเดินจากไป มีผู้ชายจำนวนสามถึงห้าคนมารวมตัวพูดคุยกันด้วยเสียงแผ่วเบา ในใจของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยจินตนาการ

แต่พวกเขาก็เข้าใจดีว่าผู้หญิงประเภทนี้คือเทพธิดาจริงๆ เมื่อมานึกดูก็ลืมเรื่องเพ้อฝันไปซะ ถ้าเธออยากจะลงมือจริงก็คงขาหักแน่ๆ

หลี่อวิ๋นหว่านที่เป็นผู้นำเทรนด์มาโดยตลอด แต่หลังจากวันนี้เมื่อดูเฉินหยูแล้วก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วคิดว่าเธอใส่ชุดราตรีมาทำงาน

ความงามนั้นสวยงามจริงๆ แต่ส่วนสำคัญนั้นมาจากนิสัย

“คุณฉี ดูไม่ออกเลยหรอ ไม่คาดคิดว่าคุณจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มนักธุรกิจระดับมหาเศรษฐีอย่างตระกูลเฉินหนานหยาง แท้ที่จริงแล้วเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน มันยอดเยี่ยมมาก!” หลี่อวิ๋นหว่านยิ้มให้ฉีเติ่งเลียน

"นั้นนะสิ ไม่ได้ดูเลยว่าเหล่าจื่อคุณฉีเป็นใครกันละ" ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างภาคภูมิใจ และนั่งไขว่ห้าง เชิดหน้าเงยขึ้นและจมูกของเขาก็เงยขึ้นเช่นกัน

หลี่หวิ๋นหว่านพูดอย่างระมัดระวัง "มีเรื่องหนึ่งที่ฉันจะต้องเตือนสติคุณ ไม่รู้ว่าคุณสังเกตเห็นหรือไม่!"

ทันใดนั้นสีหน้าท่าทางของฉีเติ่งเสียนพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมและพูดว่า "ผมรู้ว่าคุณต้องการพูดอะไร"

หลี่อวิ๋นหว่านกระพริบตาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "มีความเข้าใจเฉียบไวเลยจริงๆนะ!"

“ใช่ สิ่งนั้นที่ผมอยากจะพูดก็คือ...”

ฉีเติ่งเสียนถอนหายใจ "คุณอยากจะบอกว่าทำไมขาของเธอถึงยาวขนาดนี้ใช่ไหม?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง