มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 442

สวีเอ้าหลงคิดไม่ถึงว่า แนวโน้มของตระกูลสวี จะถูกฉีเติ่งเสียนสืบจนรู้ชัดเจนขนาดนี้

พวกเขาคิดว่าเรื่องนี้จัดการได้อย่างลับๆ แต่คิดไม่ถึงว่าฉีเติ่งเสียนยังคงรู้เรื่องนี้ได้ เขาสงสัยมาก ฉีรอเสียนรู้ผ่านช่องทางไหนกันแน่

หรือว่า คนในตระกูลสวีมีคนทรยศเหรอ?

ไม่น่าจะเป็นไปได้ ฉีเติ่งเสียนออกจากเมืองหลงเป็นเวลาหลายปี ไม่มีอิทธิพลใดๆเลย และในเมืองหลวงไม่มีใครจะช่วยเขา

สวีเอ้าเสวี่ยก็ตกใจเหมือนกัน ไม่คิดว่าการเคลื่อนไหวโดยส่วนตัวของตระกูลสวีจะใหญ่ขนาดนี้ ถึงกับไปขอความช่วยเหลือจากวิโนกราดอฟ ผู้มีอํานาจของประเทศเสวี่ย

"ถึงนายจะรู้แล้วยังไงต่อ? เซี่ยงกรุ๊ปของเรา ตอนนี้มีหลักประกันแล้ว อยากทําอะไรก็ทํา!" สวีเอ้าหลงพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา

"เหรอ? พวกคุณรู้สึกว่ามั่นคงแล้วจริงๆเหรอ?" ฉีเติ่งเสียนหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาและยิ้มเล็กน้อย

สวีเอ้าหลงพูดอย่างเรียบเฉยว่า "กบในกะลายังไงก็เป็นกบในกะลาวันค่ำ นายออกจากเมืองหลวงไปหลายปี กลายเป็นคนบ้านนอกไปแล้ว แม้แต่เรื่องไร้สาระแบบนี้ก็สามารถพูดออกมาได้"

สวีเอ้าเสวี่ยที่ยืนอยู่ข้างๆเงียบไปเลย ถ้าตระกูลสวีได้หาวีธีรับมือไว้จริงๆล่ะก็ เธอก็คงจะไม่จําเป็นอีกต่อไก

ไปตายตอนนี้ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับตระกูลสวี

ฉีเติ่งเสียนมองสวีเอ้าหลง สีหน้าพูดติดตลกว่า "ในเมื่อฉันรู้เรื่องนี้แล้ว งั้นนายคิดว่า ฉันจะไม่มีวีธีรับมือกันไว้เหรอ?"

สวีเอ้าหลงทำหน้านิ่งไม่โต้ตอบ แต่ในใจเริ่มรู้สึกไม่สบายใจแล้ว

ฉีเติ่งเสียน "ผู้มีอํานาจของประเทศเสวี่ย ถ้าบอกว่าเป็นศัตรูกัน จริงๆแล้วก็เป็นหนึ่งเดียวกันนั้นแหละ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาซับซ้อนเกินไป สำหรับนายที่ไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ อาจจะเข้าใจยากหน่อยนะ?"

หลังจากพูดเสร็จ เขาก็โทรออกทันที

"ลดราคาหุ้นของสวีกรุ๊ปลงอีกห้าเปอร์เซ็นต์!" ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเย็นชา

สวีเอ้าหลงพูดอย่างดูถูกว่า "นายบอกว่าลดห้าเปอร์เซ็นต์ก็จะลดห้าเปอร์เซ็นต์งั้นเหรอ? งั้นฉันก็พูดได้ว่า วันนี้หุ้นของสวีกรุ๊ปต้องขึ้นตลอดทางแน่ๆ!"

ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างชิวๆว่า "ถ้าอยากจะรักษาสวีกรุ๊ปไว้ล่ะก็ ต้องพึ่งพาสวีเอ้าเวี่ย ให้เธอเชื่อฟังคำสั่งฉันในช่วงนี้ด้วย ไม่งั้นละก็ ฉันจะให้ทั้งครอบครัวของนายไม่มีอันจะกิน!"

สวีเอ้าหลงกําลังจะสวนกลับ ทันใดนั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากทางครอบครัว

"เอ้าหลง แย่แล้ว หุ้นของสวีกรุ๊ปของเราตกฮวบห้าเปอร์เซ็นต์อย่างกะทันหัน! ตอนนี้นักลงทุนรายย่อยต่างก็พากันขายออก ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป คงจะตกฮวบจนไม่เหลือแน่ๆ!"

หลังจากสวีเอ้าหลงได้ยินคําพูดเหล่านี้ ก็เบิกตาโตกว้าง มองฉีเติ่งเสียนอย่างไม่น่าเชื่อ

เป็นไปได้ไง เขาบอกว่าลดห้าเปอร์เซ็น ก็ลดห้าเปอร์เซ็นต์จริงๆเหรอเนี่ย?!

ฉีเติ่งเสียนใช้วิธีโยนอิฐล่อหยก ดูเหมือนว่าจะลดแค่ห้าเปอร์เซ็นต์ แต่ช่วงนี้สถานการณ์ของสวีกรุ๊ปไม่ค่อยดีนัก หลายคนต่างไม่สบายใจ เหล่านักลงทุนรายย่อยที่เห็นสถานการณ์เริ่มไม่ดีก็ต่างขายหุ้นออก ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคาดว่าคงจะลดฮวบจนล้มละลายแน่

สวีเอ้าหลงรีบโทรออก และพูดเป็นภาษาต่างประเทศว่า "คุณวิโนกราดอฟ วันนี้หุ้นของสวีกรุ๊ปของเราลดลงห้าเปอร์เซ็นต์ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ? คุณบอกว่าจะช่วยเราและกอบกู้ไว้ไม่ใช่เหรอ?"

วิโนกราดอฟพูดอย่างเฉยเมยว่า "คุณสวี ประเทศหัวกั๋วของพวกคุณมีสุภาษิตโบราณที่ว่า แผนการตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลง ทางฝั่งผม มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ฉะนั้นไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้แล้ว!"

สวีเอ้าหลงพูดอย่างตื่นตระหนกว่า "คุณวิโนกราดอฟ คุณจะไม่รักษาสัญญาไม่ได้นะ!"

วิโนกราดอฟตอบว่า "ขอโทษนะ ผมช่วยพวกคุณไม่ได้จริงๆ พวกคุณหาวิธีแก้ด้วยตัวเองเถอะ!"

หลังจากพูดจบ วิโนกราดอฟก็วางสายไปเลย!

สัญญา? หากผู้มีอํานาจอย่างพวกเขารักษาสัญญาละก็ งั้นตอนนี้คงตายไปนานแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง