มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 552

“เทควันโด?”

“นับเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ไม่เลว แต่น่าเสียดายที่เน้นการใช้ขามากไป การใช้ร่างกายส่วนบนในการต่อสู้เลยอ่อนด้อยไปหน่อย”

“ถ้าผนึกรวมกับมวยไท่เก๊กก็คงจะดีไม่น้อย”

ฉีเติ่งเสียนประเมินด้วยสีหน้าที่เฉยเมยหลังจากจัดการหลี่เฮ่าหมินเรียบร้อย

เฉินหยูเม้มปากและเอ่ยว่า “ทำหน้าแบบนี้แล้วดูหล่อมาก กิริยาท่าทางเหมือนปรมาจารย์ ผู้ชายคนนี้ เวลาแบบนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่น่ารักที่สุดแล้วไหม”

หลี่อวิ๋นหว่านพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า “ประมาณนั้น ปกติน่ะมักจะน่าทุบ!"

ทันใดนั้นสีหน้าเหล่าผู้คุ้มกันของซุนอิ่งซูก็เปลี่ยนไป พวกเขารีบมารุมล้อมตัวเธอไว้ คอยป้องกันเธออย่างแน่นหนา ไม่ปล่อยให้ฉีเติ่งเสียนมีโอกาสฉวยประโยชน์

“ทักษะของพวกนายแย่เกินไป ปกป้องคุณนายใหญ่สติ๊กไม่ได้หรอก ถ้าฉันจะฆ่าเธอจริงๆ ให้พยายามเพิ่มอีกเท่าตัวก็ยังเปล่าประโยชน์” ฉีเติ่งเสียนเอ่ยเรียบๆ เรื่อยๆ ในแววตาแฝงไปด้วยความเหยียดหยามและเยาะเย้ย

ปากของภู่ซิงซ่านแทบจะตกลงมากองอยู่บนพื้น แม้แต่อดีตแชมป์เทควันโดสากลก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉีเติ่งเสียนงั้นหรือ? อะไรจะแพ้ง่ายขนาดนี้ นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน!

เขาเองก็รู้สึกหวาดกลัวอยู่ครู่ใหญ่เช่นกัน ก่อนหน้านี้มีอยู่หลายครั้งที่เขาเกือบจะเป็นฝ่ายไปลงมือกับฉีเติ่งเสียนก่อน โชคดีที่เขาทำไม่สำเร็จ ไม่อย่างนั้นคนที่ถูกทุบเป็นหมูเป็นหมาก็คงจะเป็นเขาเอง

ใบหน้าสวยๆ ของซุนอิ่งซูเหยเก ปกติเธอเป็นระดับบอสแถวหน้าของนายทุนซ่านซิง นึกไม่ถึงเลยว่าจะถูกฉีกหน้าแบบนี้

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ซุนอิ่งซูก็กล่าวว่า “ก็แค่ต่อสู้เป็น ไร้ประโยชน์”

ฉีเติ่งเสียนกล่าวว่า “ไร้ประโยชน์ แต่ผมไม่ได้แค่สู้เป็น แต่ยังฆ่าเป็นอีกด้วย! ถ้าคุณอยากตายละก็ บอกผมได้ทุกเมื่อ”

ว่าแล้วฉีเติ่งเสียนก็ยิ้มและเอ่ยอีกว่า “กระบองน้อย อย่าเดิมพันน้อยกว่าร้อยล้านเลยดีกว่า ไม่อย่างนั้น ฉันจะทำให้นายได้รู้ ว่ายมบาลหน้าตาเป็นอย่างไร”

ภู่ซิงซ่านกลืนน้ำลาย ภายในใจรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย

ซุนเจ๋ออวี่ผู้เป็นเถ้าแก่ของบาร์แห่งนี้เพิ่งจะวิ่งเข้ามาตอนนี้นี่เอง เมื่อเห็นสภาพเหตุการณ์ตรงหน้าเขาก็รีบร้อนถามว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับ คุณนายซุน”

ซุนเจ๋ออวี่นามสกุลซุนเหมือนกัน แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดเกี่ยวข้องกับซุนอิ่งซู ตระกูลของซุนอิ่งซูมาจากอาณาจักรโคกูรยอ

“เถ้าแก่ซุน หมอนี้หยาบคายมาก เวลาฉันมาใช่จ่ายเงินที่บาร์ของคุณ ฉันไม่อยากเห็นคนต่ำๆ ประเภทนี้” ซุนอิ่งซูชี้นิ้วไปทางฉีเติ่งเสียนและเอ่ยอย่างมีเสน่ห์

ฉีเติ่งเสียนเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย ซุนอิ่งซูคนนี้ช่างเป็นสาวใหญ่ที่มีเสน่ห์จริงๆ ทุกการเคลื่อนไหวล้วนเต็มไปด้วยเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของผู้หญิงที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผู้ชายตบะต่ำเห็นแล้วคงแทบจะควักลูกตาออกมายัดใส่อ้อมแขนของเธอ

ซุนเจ๋ออวี่ได้ยินซุนอิ่งซูบอกดังนั้น สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นทันที เขากล่าวว่า “คุณนายซุนคือคนที่จะมาเป็นบอสใหญ่ของบาร์เราในอนาคต ในเมื่อนายทำให้เธอไม่พอใจ งั้นก็อย่าหวังว่าจะเข้ามาที่บาร์แห่งนี้อีก ไสหัวไปซะ!"

ฉีเติ่งเสียนบอกว่า “เกิดมายังไม่เคยเห็นเถ้าแก่คนไหนเป็นฝ่ายไล่ลูกค้ามาก่อนเลย”

ซุนเจ๋ออวี่เอ่ยเสียงเย็นว่า “หยุดพูดพล่ามแล้วไสหัวไปซะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันใช้วิธีโหดร้าย!"

ตอนนี้เองที่เฉินหยูก้าวออกมาและเอ่ยเรียบๆ ว่า “ตอนไหนกัน คุณนายซุนเป็นเจ้าของบาร์จินเฉิงตอนไหนกัน ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่อง”

เมื่อเห็นเฉินหยู ซุนอิ่งซูก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ จากนั้นจึงเอ่ยอย่างใจเย็นว่า “พวกเรานายทุนซ่านซิงตกลงลงทุนกับเถ้าแก่ซุน เปลี่ยนบาร์จินเฉิงมาทำเป็นแฟรนไชส์ ดังนั้นยังไงฉันก็ต้องกลายเป็นบอสเขาอยู่แล้ว”

“อ๋อเหรอ ขอโทษทีนะ ฉันซื้อบาร์จินเฉิงแล้ว ฉันจะขอพูดตรงนี้เป็นครั้งสุดท้าย” เวลานี้เฉินหยูยิ้มและยื่นมือออกไปทางบอดี้การ์ด “หนึ่งร้อยล้าน”

บอดี้การ์ดชะงักไปนิดหนึ่ง จากนั้นจึงหยิบเช็กหนึ่งใบออกมาให้เฉินหยูเซ็น

หลังจากเซ็นเช็ก เฉินหยูก็เดินไปตรงหน้าซุนเจ๋ออวี่และยัดเช็กลงในกระเป๋าเสื้อของเขาทันที จากนั้นจึงบอกว่า “เข้าใจแล้วใช่ไหม”

สีหน้าของซุนเจ๋ออวี่เปลี่ยนไป เขาเอ่ยเสียงเย็นว่า “ล้อเล่นอะไรกัน แค่เธอบอกว่าจะซื้อก็ซื้อเลยงั้นเหรอ ฉันไม่ยอม!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง