มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 59

“เอาสัญญาทั้งหมดของพวกคุณออก ผมจะซื้อมันในราคาเดิม!”

ฉีเติ่งเสียนหยิบบัตรเครดิตของตัวเองออกมา และพูดกับเหล่าบรรดาญาติพี่น้องตระกูลเฉียว

ญาติคนหนึ่งเดินออกมาข้างหน้าและมอบสัญญาของเขามูลค่ากว่า 3.8 ล้านให้กับฉีเติ่งเสียน เขาไม่พูดอะไรก่อนจะก้มหน้าเริ่มดําเนินการโทรศัพท์มือถือของเขาเพื่อโอนเงิน

“ฮ่าฮ่า แสดงได้เรียบเนียนเชียวนะ!” ใบหน้าของเฉียวชิงอวี่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย เธอเฝ้าดูการแสดงของฉีเติ่งเสียนอย่างเงียบๆ

เฉียวชิวเมิ่งที่อยู่ข้างๆ รู้สึกว่าเรื่องนี้มันบ้าไปหน่อย เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่ฉีเติ่งเสียนยังมีอารมณ์จะมาสร้างความอวดเก่งที่นี่อีก

พั่งซิ่วอวิ๋นพูดกับเฉียวกั๋วเทาด้วยความโกรธว่า: “ดูลูกเขยตัวดีที่คุณเลือกมาสิ สถานการณ์เคร่งเครียดแบบนี้ เขายังเอาแต่กระโดดโลดเต้นลงเหมือนตัวตลกอยู่เลย!”

เฉียวกั๋วเทาก็รู้สึกพูดไม่ออก การกระทำของฉีเติ่งเสียน ก็ทำให้เขารู้สึกเสียหน้าเช่นกัน

ท้ายที่สุด เขาคือคนที่พยายามอย่างเต็มที่ให้ฉีเติ่งเสียนเข้ามาแต่งงานกับเฉียวชิวเมิ่งเอง

“ติ๊ง!”

เสียงโทรศัพท์มือถือของญาติคนนั้นดังขึ้น เขาคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจเมื่อมีเงิน 3.8 ล้านเข้าบัญชีแล้ว

ฉีเติ่งเสียนให้เขาเซ็นสัญญาโอน จากนั้นโบกมือและพูดว่า “คนต่อไป!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ขอบคุณมาก” ญาติคนนั้นพูดออกมาด้วยความดีใจ

เมื่อญาติคนอื่นๆเห็นว่าฉีเติ่งเสียนรวยพอที่จะซื้อสัญญาขยะเหล่านี้ในมือของพวกเขาได้ พวกเขาก็โบกสัญญาในมือทันทีและรีบวิ่งไปล้อมรอบเขา

เฉียวชิงอวี่ตกตะลึง 3.8 ล้านหยวน ฉีเติ่งเสียนบอกว่าเขาสามารถเอาออกมาได้? เขาเป็นเพียงผู้คุมเรือนจำไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมีเงินได้มากขนาดนี้?

เฉียวชิวเมิ่งก็ตกตะลึงและสงสัยว่าฉีเติ่งเสียนเอาเงินมาจากไหน

“เฉียวชิงอวี่ ถึงเวลาที่คุณจะทําตามสัญญาแล้ว!” ฉีเติ่งเสียนพูดเบาๆ กับเฉียวชิงอวี่

“นายซื้อแค่สัญญาเดียว ยังมีสัญญาที่เหลืออีก 20-30 ล้าน ยังไม่ได้รับการดําเนินการเลยนะ เหอะ!” เฉียวชิงอวี่ตะคอกอย่างเย็นชาและยังคงดูถูกเหยียดหยาม

ญาติคนหนึ่งออกมาพร้อมกับสัญญามูลค่ามากกว่า 8 ล้านหยวนและขอให้ฉีเติ่งเสียนโอนเงินให้เธอ

“เมื่อกี้คุณด่าทอเฉียวชิวเมิ่งอย่างรุนแรง ผมไม่อยากรับสัญญาของคุณ แต่ถ้าหากคุณต้องการแลกเปลี่ยนกับฉัน คุณต้องขอโทษชิวเมิ่งก่อน” ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างเย็นชา

ญาติคนนี้จู่ๆก็โกรธฉีเติ่งเสียนขึ้นมา เธอหันหลงให้เขาก่อนจะไปดูสัญญาของญาติอีกคน สัญญานี้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้าน ก็มีเสียง “ติ๊ง” เงินโอนเข้าบัญชีดังขึ้น

หลังจากเห็นฉากนี้ เธอจึงทําได้เพียงกัดฟันและหันหน้ากลับไปเฉียวชิวเมิ่งและพูดว่า : “ชิวเมิ่ง ฉันขอโทษ เมื่อกี้ฉันพูดแรงเกินไป โปรดอย่าใส่ใจ!”

เฉียวชิวเมิ่งก็ตกตะลึงและไม่คาดคิดว่าป้าที่หยิ่งผยองจะยอมขอโทษตัวเอง

ทันทีที่เธอกำลังจะตอบกลับ แต่อีกฝ่ายก็หันกลับไปพูดตะคอกกับฉีเติ่งเสียน: “ฉันขอโทษแล้ว ถ้านายไม่ซื้อสัญญาของฉัน ฉันจะทําให้ครอบครัวของนายไม่อยู่สุขแน่นอน!”

ฉีเติ่งเสียนก็รู้เช่นกันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะโน้มน้าวให้คนแบบนี้ขอโทษ แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะให้อีกฝ่ายพูดขอโทษ หลังจากเขารับสัญญามาแล้ว และเมื่อเธอได้ลงนามในสัญญาโอน เขาก็โอนเงิน 8.2 ล้าน

“เงินเข้าแล้ว เงินเข้าแล้ว! 8.2 ล้านไม่ขาดแม้แต่สตางค์เดียว! ฮ่าฮ่าฮ่า……”

“ครั้งนี้ฉันถูกอสังหาริมทรัพย์ตระกูลจังโกง แต่ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีคนโง่ที่เต็มใจซื้อสัญญาของฉัน คนที่เสียประโยชน์ไม่ใช่ฉัน!”

“ฉันจะไปก่อน พวกนายอยู่ต่อไปนะ……มีคนโง่ที่เต็มใจเอาเงินไปซื้อสัญญาของพวกเรา ดีจริงๆ!”

หลังจากที่เธอได้เงินแล้ว เธอก็หันหลังเดินจากไป โดยไม่ลืมที่จะเยาะเย้ยว่าฉีเติ่งเสียนเป็นคนโง่

เฉียวกั๋วเทาทนไม่ไหวแล้ว เขาขึ้นมากระแอมและพูดว่า: “เติ่งเสียน เงินนี้เป็นหนี้ของเรา นายไม่จําเป็นต้องเอาเงินของนายมาชําระคืน พวกเราจะหาทางออกเอง!”

“ยิ่งไปกว่านั้น ดินแดนแห่งความตายไม่คุ้มกับปากกาเลย ถ้าซื้อสัญญาพวกนี้ก็เท่ากับเอาเงินของตัวเองออกมาทิ้งเปล่า...…”

ฉีเติ่งเสียนส่ายหัวและยิ้มให้เฉียวกั๋วเทา ก่อนจะพูดว่า: “ลุงเฉียว ผมบอกไปแล้วว่าดินแดนแห่งความตายนี้จะต้องคุ้มค่าอย่างแน่นอน หากพวกเขาไม่เชื่อ พวกเขาจะต้องขอร้องให้ผมคืนดินแดนให้พวกเขาด้วยซ้ำ ซึ่งมันไม่ง่ายแน่นอน!”

“ตอนนี้การซื้อในราคาที่ต่ำก็เท่ากับการสร้างโชคลาภ อย่าหยุดให้ผมรวยเลยครับ!”

“ยิ่งไปกว่านั้น คนในครอบครัวเดียวกันไม่ต้องเกรงใจกัน พวกเขาทำให้พวกคุณลุงลําบาก ผมนั่งอยู่เฉยไม่ได้หรอกครับ”

พั่งซิ่วอวิ๋นก็รีบพูดว่า : “ถูกต้องแล้ว เหล่าเฉียว! ตอนนี้ฉีเติ่งเสียนรวยมากและสามารถช่วยเราแก้ปัญหาได้ คุณอย่าได้ไปขัดขวางสิ”

หลังจากพูดจบฉีเติ่งเสียนก็ยังคงรับสัญญาต่อไป

เฉียวชิวเมิ่งมองไปที่ฉากนี้และพูดไม่ออก จังเซ่าเจี๋ยที่เธอรู้จักนั่นกลับหอบเงินวิ่งหนีหายไป แต่ฉีเติ่งเสียนที่เธอดูถูกมาตลอดกลับยืนอยู่ข้างๆช่วยแก้ไขปัญหาให้กับครอบครัว

สิ่งนี้ทําให้เธอเริ่มสงสัยว่าในวันที่เธอเมาตอนไปทานอาหารเย็นกับอวี๋ไคเหอ สรุปแล้วใครเป็นคนช่วยเธอไว้กันแน่!

ใช่ จังเซ่าเจี๋ยจริงหรือ? เขาหอบเงินหนีไปแบบนั้น ทำให้เฉียวชิวเมิ่งไม่อยากจะเชื่อ

ใช่ ฉีเติ่งเสียนไหม? แต่หลี่อวิ๋นหว่านเพื่อนสนิทของเธอบอกอย่างชัดเจนว่า จังเซ่าเจี๋ยเป็นผู้ช่วยเธอ

เฉียวชิงอวี่หน้าดำเคร่งเครียด ในขณะที่เธอเฝ้าดูฉีเติ่งเสียนซื้อสัญญาของญาติของพวกเธอโดยไม่ปฏิเสธเลย

“เฉียวชิวเมิ่ง วันนี้ถือว่าเธอโชคดี!” เฉียวชิงอวี่ตะคอกอย่างเย็นชา ก่อนจะจากไปอย่างเงียบๆ

ฉีเติ่งเสียนเห็นฉากนั้น แต่เขาขี้เกียจพูดและแสร้งทําเป็นไม่เห็นมัน

ถึงเฉียวชิงอวี่จะยังอยู่ เธอก็ต้องหาเหตุผลต่างๆนานาในการปฏิเสธอย่างแน่นอน

ทองคำ 5 ล้านที่ฉีเติ่งเสียนได้มาจากการเดิมพันกับแจ็คซุน เขาใช้หมดไปกับการซื้อสัญญาทั้งหมดของญาติตระกูลเฉียว ตอนนี้สัญญาทั้งหมดตกอยู่ในมือของเขา

หลังจากที่เหล่าบรรดาญาติพี่น้องได้รับเงินแล้ว ต่างก็พากันยิ้มหัวเราะขึ้นมาได้ แล้วไปยกย่องลูกเขยกับเฉียวกั๋วเทา

หลังจากที่เหล่าญาติพี่น้องกลับไปหมดแล้ว พั่งซิ่วอวิ๋นก็ยิ้มและพูดว่า: “เดี๋ยวก่อน บ้านเรายังมีสัญญามากกว่า 30 ล้าทําไมนายไม่ซื้อด้วยล่ะ?!”

ฉีเติ่งเสียนตกตะลึง แต่ยังไม่ทันได้พูด เฉียวกั๋วเทาที่อยู่ด้านข้าง ก็ดุว่า: “ซิ่วอวิ๋น เติ่งเสียนใช้เงินจำนวนมากเพื่อช่วยเราแก้ไขปัญหา คุณยังมีจิตใจจะไปโกงเขาอีกเหรอ?”

“เขาบอกเองว่าที่ดินตรงนั้นจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น!” พั่งซิ่วอวิ๋นเม้มปากและพูดว่า “ฉันก็กำลังช่วยให้เชารวยอยู่นี่ไง”

เมื่อเห็นว่าเฉียวกั๋วเทาโกรธมาก พั่งซิ่วอวิ๋นก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก เขาพูดได้แค่ไม่กี่คําในใจและเดินออกไปอย่างช่วยไม่ได้

เฉียวกั๋วเทาถอนหายใจใส่ฉีเติ่งเสียนและพูดว่า: “พวกเราไม่ได้ฟังนายในตอนแรก มันเป็นความผิดของพวกเรา ตอนนี้นายยังกลับมาช่วยพวกเราอีก ไม่รู้จะขอบคุณนายยังไงดี”

“ลุงเฉียวไม่ต้องเกรงใจ ที่จริงในครั้งนี้คุณก็ได้รับโชคลาภเช่นกัน รอเวลาสักพักแล้วพวกคุณจะรู้ว่าดินแดนแห่งความตายในมือพวกคุณมีค่าแค่ไหน!” ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยรอยยิ้ม

พั่งซิ่วอวิ๋นรีบพูดขึ้นว่า: “คุณได้ยินไหม รีบเอาสัญญาทั้งหมดออกมาแล้วให้เขาซื้อด้วยสิ”

เฉียวชิวเมิ่งยังรู้สึกว่ามันมากเกินไปที่จะรื้อสะพาน เธอกระแอมและพูดว่า: “แม่ ลืมเรื่องนี้ไปเถอะ เราถือสัญญามากกว่า 30 ล้านด้วย บางทีอาจจะเป็นอย่างที่เขาพูดก็ได้ พื้นที่ตรงนั้นอาจจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น……”

“ดินแดนแห่งความตายกับผีอะไรจะมามีมูลค่าเพิ่มขึ้น!” พั่งซิ่วอวิ๋นกลอกตาด้วยความโกรธ

ฉีเติ่งเสียนทําอะไรไม่ถูก เมื่อกี้นายกหวงได้บอกกับเขาเป็นการส่วนตัวว่าดินแดนแห่งความตายจะพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์และมูลค่าของที่ดินจะกลายเป็นทองคําอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!