มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 639

สรุปบท บทที่ 639 หลู่ถีเสียทุบตีเจิ้นกวนซี: มังกรผู้ทรงพลัง

อ่านสรุป บทที่ 639 หลู่ถีเสียทุบตีเจิ้นกวนซี จาก มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู

บทที่ บทที่ 639 หลู่ถีเสียทุบตีเจิ้นกวนซี คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง มังกรผู้ทรงพลัง ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จาง หลงหู อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

คนที่ฉีเติ่งเสียนอยากจะเตะในกั่วเชี่ยวกรุ๊ป ผลสุดท้ายทำให้ผู้บริหารระดับล่างรวมกลุ่มก่อเรื่องกบฎต่อนายพล ในไม่ช้าก็เร็วข่าวก็ไปถึงเซี่ยงตงชิง

สามารถพูดได้ว่า เรื่องดีไม่เป็นที่กล่าวขาน เรื่องเลวมักกระจายไปไกล

แต่ทว่า การแสดงออกของเซี่ยงตงชิงไม่มีการกังวล เขาเชื่อในความสามารถของฉีเติ่งเสียน ว่าสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดได้

ในเวลานี้ ฉีเติ่งเสียนมาถึงนายทุ่นซ่างสาขาย่อยประเทศจีนในเมืองโมตูแล้ว

“ฉันมาหาชุยเจิ้งสิง ไม่ได้นัดล่วงหน้า คุณแค่บอกว่าฉันคือบอสใหญ่ของกั่วเชี่ยว ฉีเติ่งเสียนพูดกับพนักงานต้อนรับอย่างใจเย็น

ชุยเจิ้งสิงได้รับข้อความอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นให้คนพาฉีเติ่งเสียนขึ้นมา

พริบตาเดียวที่เห็นฉีเติ่งเสียน เขาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง พูด:“ทำไมเป็นคุณได้?”

ฉีเติ่งเสียนพูดไปหัวเราะไป พูด:“เพราะฉันคือบอสใหญ่ของกั่วเชี่ยวยังไง่ละ!”

นี่ทำให้ชุยเจิ้งสิงคิดไม่ถึงว่า เขารู้ว่ากั่วเชี่ยวเปลี่ยนเจ้าของใหม่ แต่เจ้าของใหม่มักจะปรากฎตัวตามงานสังคมอย่างล่าช้า

“อ้อ? ร้อนใจหรอ?เตรียมตัวมาขอร้องฉัน?”

“เงื่อนไขเมื่อวานของฉัน จะไม่มีทางแก้ ความเป็นพี่น้องหญิง ขาดคนเดียวก็ไม่ได้”

“อีกอย่าง คุณควรจะมีมารยาทกับเรื่องเมื่อวานและขอโทษด้วย ตอนนี้ เริ่มการแสดงของคุณเถอะ”

ชุยเจิ้งสิงนั่งเก้าอี้บอสอย่างตรงไปตรงมา พูดกับฉีเติ่งเสียน

ฉีเติ่งเสียนยิ้มเล็กน้อยและพยักหัว เอ่ย:“ถ้าอย่างงั้นฉันจะเริ่มแล้ว!”

ชุยเจิ้งสิงหัวเราะเยาะเย้ย กั่วเชี่ยวกรุ๊ปวางแผนที่จะพัฒนาธุรกิจคอมพิวเตอร์พกพา หากไม่มีการสนับสนุนของเทคโนโลยีและวัสดุของซ่านซิงมันคือการก้าวที่ยากลำบาก ยังไงก็ตาม ได้มีการประกาศออกไปแล้ว หากต้องการเปลี่ยนเพื่อนที่ทำธุรกิจด้วยกันชั่วคราว หากคุณภาพไม่ได้ดีเหมือนที่โฆษณาไว้ สำหรับธุรกิจทั้งหมดแล้ว มันจะกลายเป็นการโจมตีที่มีพลังทำลายล้างมาก!

เขากุมเกมอำนาจของนายทุ่นซ่านซิง คนที่ไม่เคยกลุ้มใจกับกั่วเชี่ยวเลยกล้าที่จะระเบิดหนามในมือตัวเอง

ชุยเจิ้งสิงเห็นฉีเติ่งเสียนเดินมาที่หน้าของเขา และอดไม่ได้ที่จะไขว้ขา ยิ้มเยาะแล้วแอ่ย:“รู้แต่แรกก็คงไม่ทำ?”

คิดไม่ถึงว่า ฉีเติ่งเสียนยื่นมือออกมาอย่างเต็มที่ และคว้าคอเสื้อของชุยเจิ้งสีทันทีทันใด

“ปัง!”

ฝ่ามือเดิมประทะเข้าที่หน้าของชุยเจิ้งสีอย่างโหดเหี้ยม ราวกับเคาะซีอี๊วตามร้านค้า ทุบจนหน้าของชุยเจิ้งสิงเบ่งบาน

ชุยเจิ้งสิงรู้สึกสับสนในหัว ถูกฝ่ามือนี้เข้าที่หัวจนมึน หึ่งหึ่ง ตอบโต้ไม่ทันเลยสักนิด และเห็นฝ่ามือที่สองพุ่งเข้ามา

ฉีเติ่งเสียนปล่อยสองฝ่ามือนี้ลงไป ค่อนข้างเหมือนกับที่หลู่ถีเสียทุบตีเจิ้นกวนซีเลย

บ้าไปแล้วเถอะแม่คุณ……”ชุยเจิ้งสีตะโกนเสียงแหลมออกมา เจ็บจนตาลืมไม่ขึ้นแล้ว น้ำตาก็ไหลลงมา

ฉีเติ่งเสียนกัดฟันและหัวเราะไม่หยุด เอ่ย:ล้อเล่น ฉันใจถึงเกิน!คุณให้ฉันเริ่มเองนะ ไอดอล!”

หลังจากพูดคำนี้จบ อีกครั้ง เขาตบไปที่กระดูกจมูกของชุยเจิ้งสิงอย่างดัง

ฝ่ามือนี้ ตีไปที่จมูกของชุยเจิ้งสิงจนแตกหักแล้ว เลือดกำเดาไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ไหลจนคอเสื้อของเขาเต็มไปด้วยเลือด

“อา.....”ชุยเจิ้งสีปิดหน้าและกรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา คุกเข่าลงไปกับพื้น

ฉีเติ่งเสียนคลายมือออกจากคอเสื้อของชุยเจิ้งสิง ดึงกระดาษทิชชู่หนึ่งแผนออกมาจากโต๊ะเช็ดมืออย่างช้าๆ และยิ้มอย่างเย็นชาเอ่ย:“คุณกล้ามีความคิดรังแกเลขาหยางของฉันหรอ? ดีที่ไม่ระเบิดมันสมองของคุณออกมา !ยังอยากที่จะเล่นความสัมพันธ์พี่น้อง คุณเล่นเก่งจริงๆนะเออ?”

ชุยเจิ้งสิงตะโกนร้องด้วยควมโมโห:“กั่วเชี่ยงของพวกคุณจบเห่แล้ว ฉันพูดจริง!”

ฉีเติ่งเสียนพยักไหล่ เช็ดเลือดที่อยู่ในมือต่อไป

ชุยเจิ้งสีกัดฟัน ทันใดนั้นรู้สึกปวดร้าวในปาก ฟันไม่ได้ถูกกัด และฟันหลุดออกมาสองซี่

จ้องมองไปที่มัน เป็นฟันที่ตัวเองโดนทุบจนหลุด มันทำให้เขาโกรธมากยิ่งขึ้น จนขึ้นไปถึงหัว

“ทำไมไม่พูดอะไรล่ะ?”ฉีเติ่งเสียนยิ้มและลูบหัวสุนัข

ชุยเจิ้งสิงปากกำลังสั่นมากๆ ตั่วสั่นงันงก พูด:“ค คุณ คุณ......คุณรู้ไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่? คุณรู้ว่าฉันเป็นใครมั้ย?”

ฉีเติ่งเสียนหัวเราะไปพูดไป:“รู้สิ แต่มันหยุดฉันที่จะตีคุณไม่ได้นะ!คนประเภทนี้ ฉันมักชอบทำความสะอาดขยะสังคม”

ชุยเจิ้งสิงสาปแช่งในใจ และไม่รู้ว่าใครคือขยะสังคม......

“ชุย......”

ประตูของห้องทำงานในเวลานี้ได้เกิดเสียงดัง แค้ก เงาคนร่างหนึ่งผลักประตูเข้าไป

คนที่สามารถบุกเข้าไปในห้องทำงานของชุยเจิ้งสิงได้โดยตรงโดยไม่ต้องเคาะประตู ไม่ต้องสงสัยเลย ยังไงก็ต้องเป็นคนที่ระดับสูงกว่าเขาหลายระดับอย่างแน่นอน

ชุยเจิ้งสิงเมื่อเห็นคนนี้ มันเหมือนกับการคว้าฟางช่วยชีวิตเขาอย่างงั้น ร้องเสียงดัง:“คุณป้า รีบช่วยฉันอา.....ไอ้บ้านี่เป็นบอสใหญ่กั่วเชี่ยว ฉันยกเลิกความร่วมมือกับพวกเขา เขาก็มาทีนี่ในห้องทำงานทุบตีฉัน จะเอาชีวิตฉันอ่า!”

ซุนอิ่งซูที่ผลักประตูเข้าไปก็ตกตะลึงงงงันทันที ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าฉีเติ่งเสียนจะมาปรากฎตัวอยู่ที่นี่ อีกอย่าง ยังทุบตีหลานชายของเธอจนอยู่ในสภาพเละเทะย่างนี้อีก

“คุณป้า คุณกำลังทำอะไรน่ะ? รีบแจ้งผู้บริหาร ไม่ก็ติดต่อไปยังสถานทูตของพวกเขาโดยตรง......”เสียงของชุยเจิ้งสิงเปลี่ยนไปจนไม่มีแรง ร้องไห้จนไม่คิดว่าจะเป็นผู้ชาย

แต่ทว่า ช่วงเวลาสั้นๆต่อมา เขาได้ยินฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็น:“คุณนายซุน ไม่ได้เจอกันนานนะ!”

ชุยเจิ้งสิงตะลึงตาค้างทันที นึกไม่ถึงว่าฉีเติ่งเสียนรู้จักกับซุนอิ่งซูมาก่อน?!

บนใบหน้าที่สวยงามของซุนอิ่งซู พริบตาเดียวก็เต็มไปด้วยหน้าตาที่หวาดกลัว

ฉีเติ่งเสียนเจ้าสารเลวคนนี้ นึกไม่ถึงว่าจะไปที่สาขาย่อยนายทุนซ่านซิง เอาชนะหลานชายของเธอชุยเจิ้งสินและทุบตีจนยับขนาดนี้?หรือว่านายทุนซ่านซิงสายขาย่อยคือร้ายขายหมู ชุ้ยเจิ้งสิง เป็นเจิ้นกวนซีหรอ?

ซุ่นอิ่งซูพูดด้วยท่าทีสุขม:“ประธานฉี ทำเกินไปหน่อยแล้วมั้ย?”

ฉีเติ่งเสียนเหยียบไปที่หลังของชุยเจิ้งสิง เอ่ย:“นี่คือหลานชายของคุณหรอ ไม่สมกับเป็นคนเลย เห็นฉันที่เป็นอาคนนี้ ยังไม่รู้ว่าควรจะต้องกล่าวทักทายด้วยตัวเองอีก”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง