สรุปตอน บทที่ 727 อวดเส้นสาย – จากเรื่อง มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู
ตอน บทที่ 727 อวดเส้นสาย ของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองเรื่องดัง มังกรผู้ทรงพลัง โดยนักเขียน จาง หลงหู เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
หลังจากได้ยินคำพูดของฉีเติ่งเสียน โจวจื่อหลินก็ไม่กล้าพูดอะไร แต่แอบก่นด่าอยู่ในใจ
จะชวนดาราเบอร์ใหญ่มาเนี่ยนะ ดาราดังขนาดนั้นจะรับงานสตูดิโอเล็กๆ อย่างคุณได้ยังไง เชิญดาราปลายแถวมาได้ก็ถือว่าบุญแล้ว!
เจียงชิงเย่ว์ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “มันได้อยู่แล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเชิญใครมา”
ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉู่ปิงก็น่าจะไม่เลวใช่ไหม ระดับของเธอก็นับว่าอยู่อันดับต้นๆ”
เจียงชิงเย่ว์พูดว่า “ถ้าเป็นฉู่ปิงก็ได้อยู่แล้ว! ถ้าคุณเชิญเธอมาได้ นั่นคงดีสุดๆ”
บางทีฉีเติ่งเสียนก็อยากจะอวดเบ่งต่อหน้าเจิ้งโหยวปิน ดังนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและต่อสายหาหลงจงฉวนโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
“อาฮ่า สวัสดีครับประธานฉี...มีเรื่องอะไรเหรอครับ” หลังจากรับสายของฉีเติ่งเสียน หลงจงฉวนก็ประจบประแจงทันที เพราะกลัวว่าตนอาจไปทำอะไรให้พญายมคนนี้ไม่พอใจอีกรึเปล่า
เขาถูกฉีเติ่งเสียนเล่นงานจนหมดสภาพและไม่กล้าก่อปัญหาอีก
ฉีเติ่งเสียนพูดว่า “ประธานหลง ฉันจำได้ว่าคนที่ชื่อฉู่ปิงอะไรนั่นเป็นลูกบุญธรรมของคุณใช่ไหม”
หลงจงฉวนตอบ “ใช่ครับ ใช่ ถ้าประธานฉีสนใจเธอ ผมให้เธอไปหาท่านคืนนี้ดีไหมครับ”
แต่ฉีเติ่งเสียนกลับพูดอย่างไม่พอใจ “ฉันดูเหมือนคนที่จะชอบผู้หญิงกร้านโลกพรรค์นั้นเหรอ”
หลงจงฉวนรีบพูด “แน่นอนว่าไม่ใช่ครับ...หรือจะให้ผมหาคนที่เพิ่งเข้าวงการดีครับ รับประกันว่าสะอาดสะอ้าน”
ฉีเติ่งเสียนต่อว่า “คิดว่าฉันโทรหาคุณเพื่อถามเรื่องนี้ นี่คุณคิดว่าฉันอยากมั่วผู้หญิงหรือไง”
หลงจงฉวนไม่กล้าพูดอะไรอีกและทำได้เพียงหัวเราะแห้งๆ
“ฉันอยากให้ฉู่ปิงช่วยอะไรสักหน่อย อยากให้เธอมาช่วยถ่ายรูปโปรโมทให้เพื่อนฉัน คุณไปถามเธอทีว่าเต็มใจหรือเปล่า” ฉีเติ่งเสียนพูดเสียงเย็น
“ไม่มีปัญหาครับ! เธอต้องเต็มใจอย่างแน่นอน ผมให้เธอติดต่อคุณตอนนี้เลยดีไหม” หลงจงฉวนรับปากแทนฉู่ปิงโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
ก็เขาเป็นพ่อบุญธรรมของฉู่ปิง อย่าว่าแต่ฉีเติ่งเสียนจะให้ฉู่ปิงถ่ายรูปโปรโมตให้เลย ถ้าฉีเติ่งเสียนจะให้เธอถ่ายหนังเรทอาร์ เขาก็ไม่กล้าขัดอยู่ดี
ฉีเติ่งเสียนกล่าวว่า “โอเค งั้นก็ตามนี้ ให้เธอติดต่อฉันมาโดยเร็วที่สุด ตอนนี้ฉันอยู่ในโมตู”
เมื่อเห็นฉีเติ่งเสียนวางสาย เจิ้งโหยวปินก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยรอยยิ้มว่า “ประธานฉีโทรหาประธานหลงแห่งหลงกรุ๊ปใช่ไหม”
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า “ใช่แล้ว”
เหตุผลที่เขาพูดแบบนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้โจวจื่อหลินทำตามสัญญาสำเร็จ เพราะเขาต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อแสดงเส้นสายของเขาต่อหน้าเจิ้งโหยวปิน นี่ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นเพื่อให้คนคนนี้มาอยู่ฝั่งเดียวกับเขาให้เร็วที่สุดและขายจ้าวมั่นเอ๋อร์ให้
เจิ้งซานหมิงกลัวจ้าวมั่นเอ๋อร์ราวกับกลัวเสือ ส่วนเจิ้งโหยวปินดีกว่าเขาเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะกลัว แต่เขาก็อยากแก้แค้นมากกว่า
เจิ้งโหยวปินได้ยินเสียงโทรศัพท์เมื่อครู่อย่างชัดเจน
หลงจงฉวนคือใคร
เขาก็คือนายใหญ่แห่งเมืองหลวงไงล่ะ!
เจ้านายใหญ่ขนาดนี้แสดงความเคารพนับถือต่อฉีเติ่งเสียน แถมยังพูดจาเอาอกเอาใจและยินดีจะยกลูกสาวบุญธรรมให้อีกฝ่าย มันก็พอจะทำให้จินตนาการได้ว่าฉีเติ่งเสียนน่าเกรงขามแค่ไหน!
“ถ้าคุณฉู่ปิงมาที่สตูดิโอตามที่คุณบอก งั้นเราก็ไม่มีอะไรต้องข้องเกี่ยวกับโจวจื่อหลินแล้ว” เจิ้งโหยวปินพูดก่อนจะชายตามองโจวจื่อหลินอย่างไม่ยี่หระ “ตอนนี้คุณรู้แล้วใช่ไหมว่าตัวเองไปทำให้ใครไม่พอใจ”
โจวจื่อหลินหดคอ แค่ฉีเติ่งเสียนโทรกริ๊งเดียวก็เรียกให้ดาราแนวหน้าอย่างฉู่ปิงมาถ่ายรูปโปรโมทที่สตูดิโอเล็กๆ ได้
เจียงชิงเย่ว์พอใจอย่างอดไม่ได้ เธอรู้สึกว่าแฟนหนุ่มราคาถูกของเธอคนนี้ค่อนข้างทรงพลัง แถมยังช่วยเธอได้มาก
ผู้คนที่หัวเราะเยาะว่าฉีเติ่งเสียนช่างอีคิวต่ำที่มอบตุ๊กตาให้เจียงชิงเย่ว์เมื่อครู่เข้าใจในทันที พวกเขาต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ จริงๆ แล้วมันเป็นตุ๊กตาลิมิเต็ดที่จะมอบให้เมื่อซื้อเฟอร์รารีเท่านั้น...
ดูเหมือนว่านอกจากท่านผู้นี้จะมีเบื้องลึกเบื้องหลังไม่ธรรมดา เขายังมีเงินด้วยงั้นเหรอ!
ส่งผลให้นางแบบแต่ละคนเริ่มสะดีดสะดิ้งและขยิบตาให้ฉีเติ่งเสียน โดยหวังว่าจะดึงดูดความสนใจของเขาได้
เจียงซิงเย่ว์จัดห้องรับแขกให้ทั้งสอง จากนั้นก็ชงชาแล้วยกเข้าไปให้
“ขอบคุณครับคุณเจียง” เจิ้งโหยวปินพูดกับเจียงชิงเย่ว์ด้วยความสุภาพอย่างยิ่ง
“พวกคุณคุยกันตามสบาย คุยเสร็จเมื่อไร ฉันขอเลี้ยงมื้อค่ำนะคะ” เจียงชิงเย่ว์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกไป
ฉีเติ่งเสียนพยักหน้าเบาๆ สมแล้วที่เจียงชิงเย่ว์เป็นนางสาวของมวลชน เธอมีวิธีที่ดีในการสื่อสารกับผู้คนและทำให้ผู้อื่นรู้สึกสบายใจ
ทันทีที่นั่งลง เจิ้งโหยวปินก็ถามอย่างอดใจไม่ไหว “คุณฉีได้พบกับคนที่จ้าวมั่นเอ๋อร์เชิญมาหรือยัง”
ฉีเติ่งเสียนชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็นึกถึงจ้าวหงซิ่วและพยักหน้าเบาๆ “คุณรู้ได้ยังไง”
“วันนั้นจ้าวมั่นเอ๋อร์โมโหมากเมื่อเธอกลับถึงบ้าน แล้วเธอก็บอกว่าคุณตายแน่ ผมเลยรู้ว่าเธอคงไปเชิญจ้าวหงซิ่วมา” เจิ้งโหยวปินพูด
จ้าวหงซิ่วเป็นผู้หญิงที่รู้จักกันในชื่อ “เทียนฟา” ฉีเติ่งเสียนได้รับบาดเจ็บหลังจากสู้กับหงเทียนตู เมื่อเห็นเธอเขาจึงรีบหนี
แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้หนีและถูกจ้าวหงซิ่วจับตัวไว้
ถ้าซุนอิ่งซูไม่ปรากฏตัวอย่างทันเวลาและไถ่ทวงบุญคุณที่จ้าวหงซิ่วเคยติดค้างเธอไว้ ตอนนี้ฉีเติ่งเสียนคงได้ตัวเย็นเฉียบไปแล้ว
ผู้หญิงคนนี้สามารถทำให้คนจำนวนนับไม่ถ้วนรู้สึกหวาดกลัว และไม่ได้เป็นแบบนั้นอย่างไร้เหตุผล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...