มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 730

หยางกวนกวนก็ตกตะลึงและพูดไม่ออกเช่นกัน

ถ้าสมุดบัญชีเล่มนี้ออกสู่ภายนอก ไม่รู้ว่าจะเกิดกระแสลูกใหญ่ขนาดไหน...

ต้องขอบคุณคุณนายเหอที่รู้ว่าเธอไม่ควรอ่านเนื้อหาในแฟลชไดรฟ์นี้ ไม่อย่างนั้น หากเธอรู้เรื่อง เธอจะถูกปิดปากไม่ช้าก็เร็ว

อวี้เสี่ยวหลงกล่าวอย่างเคร่งขรึม: “รายชื่อพวกนี้ไม่สามารถหลุดออกไปได้! ฉันจะหารือเรื่องนี้กับคุณฟู่ รอดูว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง”

แน่นอนว่าฉีเติ่งเสียนก็รู้ดีว่าความมั่นคงคือสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่กลับดูถูกความคิดของอวี้เสี่ยวหลง

เขารู้สึกว่าเมื่อทำผิดพลาดเขาก็ต้องดึงหัวแครอทออกมา โคลนมันออก เป็นวิธีเดียวที่จะทำได้คือเปิดเผยเรื่องนี้ทั้งหมด!

บางทีการทำแบบนี้อาจทำให้เกิดความวุ่นวายมากมาย แต่ถ้าไม่ทำ ก็เหมือนต้มกบในน้ำอุ่น แม้ว่ากบจะถูกต้มจนตายได้ จะมีอีกสักกี่คนที่ต้องทนทุกข์ทรมานในเรื่องนี้?

“ฉันรู้ว่านายกำลังคิดอะไร เพราะนายไม่ใช่สมาชิกของเครือข่ายนี้ เพราะงั้นนายถึงไม่เข้าใจผลที่ตามมา” อวี้เสี่ยวหลงมองไปที่ฉีเติ่งเสียน ดวงตาฉายแววจริงจัง

“ถ้าไม่ชอบระบบปัจจุบัน ก็เข้าร่วมและเปลี่ยนแปลงมันซะ!”

ฉีเติ่งเสียนหัวเราะเยาะ: “ถ้าคิดว่าตู้เย็นที่บ้านมันไม่ดี ฉันควรเรียนรู้วิธีสร้างตู้เย็นอย่างนั้นเหรอ?”

“ฉันมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้ อย่ามองว่าความคิดเห็นของฉันมันผิด เพราะมันแตกต่างจากเธอ หรือพยายามใช้อำนาจของเธอเพื่อปิดปากฉัน”

อวี้เสี่ยวหลงกล่าวว่า: “เพราะถึงยังไง เรากำลังทำงานกันอย่างหนัก และนายได้เข้าร่วมทีมของเราแล้ว ฉันหวังว่านายจะมุ่งเน้นไปที่ผลประโยชน์ส่วนร่วมมากกว่า”

ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างขี้เกียจ: “มันขึ้นอยู่กับพวกเธอ พวกเธอมีพลังอยู่ในมือ แม้ว่าฉันต้องการทำ แต่ก็ไม่มีใครอยากจะสนับสนุนหรอก!”

ฉีเติ่งเสียนรู้ดีว่าหากมีรายชื่อมากมายในสมุดบัญชีนี้ หนึ่งในสามจะถูกฆ่า เพื่อความมั่นคง อีกสองในสามจะไม่กล้าเคลื่อนไหว พวกเขาจะรู้สึกกลัวและยับยั้งชั่งใจ

การเขย่าคนจำนวนมากในคราวเดียวก็เหมือนกับการเขย่ารากฐานของตระกูลจ้าวเพราะไม่มีใครอยากจะเผญิชหน้ากับสิ่งเลวร้าย

“ดูสิว่าวิดีโอนี้เกี่ยวกับอะไร” ฉีเติ่งเสียนพูดกับอวี้เสี่ยวหลงในขณะที่เขาเบื่อกับสมุดบัญชีพวกนั้นแล้ว

“ได้” อวี้เสี่ยวหลงคลิกที่วิดีโอ

จากนั้นหงเทียนตูก็ปรากฏตัวในวิดีโอ เขายืนอยู่กลางทุ่งหญ้าโล่งเอ่ยปากพูดอย่างใจเย็น: “ในชีวิตฉันเรียนศิลปะการต่อสู้มาหลายปี ฉันไม่ต้องการให้สิ่งเหล่านี้ถูกฝังหลังจากที่ฉันตายไป ฉันบันทึกวิดีโอไว้เพื่อถ่ายทอดให้กับคนที่ชมได้... ต่อไป ฉันจะสาธิตและอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับความลับของมวยเผิงสิงและวิธีที่ฉันใช้และฝึกฝนมัน”

เมื่อฉีเติ่งเสียนเห็น เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดว่า: “จิตวิญญาณแห่งปรมาจารย์!”

ในวิดีโอหงเทียนตูอธิบายรายละเอียดเทคนิคของเขาในการออกแรงและการฝึกกล้ามเนื้อหลัง ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับฉีเติ่งเสียนเป็นอย่างมาก

เขาศึกษาว่ากล้ามเนื้อหลังของหงเทียนตูได้รับการฝึกฝนถึงในระดับนั้นอย่างไร เมื่อมีเวลาว่างก็จะพยายามทำตามความรู้สึกนั้นขึ้นมา

ครั้งนี้ เขาได้รับประโยชน์มากมายจากการสามารถฟังคำอธิบายส่วนตัวของ หงเทียนตู

อวี้เสี่ยวหลงกับหยางกวงกวนก็ฟังอย่างตั้งใจ และหลังจากฟังจบแล้ว พวกเขาก็แสดงความรู้สึกชื่นชมทันที

“หงเทียนตู เป็นอัจฉริยะจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เขาเดินทางผิด” อวี้เสี่ยวหลงกล่าว

“ฉันไม่คิดว่าเขาจะเดินทางผิด แต่สภาพแวดล้อมทำให้เขากลายเป็นแบบนั้น ถ้าเขาไม่ทำ ฉันเกรงว่าเขาจะไม่สามารถปีนขึ้นไปถึงจุดสูงสุดได้” ฉีเติ่งเสียนเหลือบมออวี้เสี่ยวหลงเบา ๆ “คนมีกำลังไม่สามารถลุกขึ้น ส่วนคนไร้กำลังก็ไม่เหลืออะไรกิน รอคอยแต่โชคลาภ”

“อย่าใช้ตัวเองเป็นบรรทัดฐาน ถ้าภูมิหลังของเธอไม่ได้มาจากตระกูลอวี้ คงไม่มีดาวมังกรสองดวงตั้งแต่อายุยังน้อยขนาดนี้?”

อวี้เสี่ยวหลงกล่าวว่า: “นายมีส่วนช่วยอย่างมากในเรื่องนี้! ฉันขอตัวก่อน หากนายต้องการอะไร ติดต่อฉันมาได้เลย”

ขณะที่เธอกำลังจะเดินออกไป โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอจึงหยุดและรับสาย หลังจากฟังอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ถามด้วยความตกใจว่า “อะไรนะ”

หลังจากวางสายแล้วฉีเติ่งเสียนก็ถามว่า: “มีเรื่องอะไรทำไมเธอร้อยรนขนาดนี้?”

อวี้เสี่ยวหลงกล่าวด้วยใบหน้าที่มืดมน: “เฉินกรุ๊ปถูกสงสัยว่าลักลอบขนยาเสพติด และฟอกเงิน ธุรกิจที่ผิดกฎหมาย คพวกกำลังกลายเป็นคนไร้กฎหมายมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขายังกล้าแสร้งสวมหมวกหลายใบ!”

ฉีเติ่งเสียนหัวเราะ จากนั้นขมวดคิ้วและพูดว่า “เรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อหลูมอเตอร์ไหม?”

อวี้เสี่ยวหลงกล่าวว่า: “พูดไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับเกมด้านบน... เพราะถึงยังหลูมอเตอร์ได้รับการลงทุนจากตระกูลเฉิน มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบ ขึ้นอยู่กับว่าสาขาของเฉินกรุ๊ปในเมืองโมตู ที่ทนรับมือกับความกดดันได้ไหม”

ฉีเติ่งเสียนยิ้มและพูดว่า: “รู้สึกเหมือนว่ามันอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ! ให้ตายเถอะ โลกภายนอกมันอันตรายเกินไป ฉันอยากกลับโยวตู”

ขณะที่เขาพูด เขาก็กังวลถึงเฉินอวี๋จากหนานหยาง

ตอนนี้ดูเหมือนว่าคนพวกนั้นกำลังดำเนินการแล้ว ไม่เช่นนั้นเฉินกรุ๊ปคงจะไม่ถูกตราหน้าว่าเป็นฉากหน้าที่ยิ่งใหญ่

“โชคดีที่เงินทุนส่วนใหญ่ของเซี่ยงกรุ๊ปถูกโอนไปต่างประเทศแล้ว หากหลูมอเตอร์มีส่วนเกี่ยวข้อง มันจะเกี่ยวข้องถึงเซี่ยงกรุ๊ป มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่” ฉีเติ่งเสียนคิดกับตัวเอง

เขารู้ดีว่าเมื่อการต่อสู้เพื่ออำนาจอธิปไตยของเมืองหนานหยางเข้มข้นแค่ไหน คนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินจะทนทุกข์ทรมาน

ดังนั้นเขากับเซี่ยงตงฉิงจึงได้หารือเกี่ยวกับแผนการที่ยอดเยี่ยมไว้แล้ว