เสวี่ยกุยคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับการเรียกคนสองสามคนภายในไม่กี่นาที่ แต่จะคิดถึงได้ยังไง นี่คือร้อยกว่าคน อีกทั้งยังเป็นลูกศิษย์ของหลงเหมิน ทุกๆคนก็สามารถสู้ได้
เสวี่ยกังก็รู้ว่าถ้าไม่ลงมือตอนนี้ก็สายไปแล้ว ตัดสินใจทันทีว่าลงมือจัดการกับตัวหลักก่อน
เขามีอาการกำเริบ ด้วยการพุ่งปราดบุกเข้าไปข้างหน้าหาฉีเติ่งเสียนอย่างรวดเร็ว เตรียมการที่จะจับเขาไว้ หลังจากนั้นใช้เพื่อข่มขู่
“แปะ!”
ฉีเติ่งเสียนยกมือขึ้นมา แล้วโบกมือ ขนาดที่ผู้คนมองไม่ออกว่าท่าอะไร
ใบหน้าของเสวี่ยกังได้รับการตบอย่างหนักเข้าไปที่ปาก ทั้งตัวคนหมุนกระเด็นออกไป หน้าเต็มไปด้วยเลือด
ฉีเติ่งเสียนลุกขึ้นยิ้มอย่างมีความสุขและพูด:“ไอ้เด็กนี่ไม่สนใจจริยธรรมการต่อสู้ มาโกง มาซุ่มโจมตี ฉันหนุ่มหล่อวัยยี่สิบ......”
เสวี่ยกังมองไปที่ฉีเติ่งเสียนด้วยความที่ไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตัวเองถึงถูกการโจมตีนี้เข้า ท่าทางนั้นมันเหมือนกับฟ้าแลบ ทำให้เส้นประสาทของเขาโต้ตอบไม่ทัน
ผู้ชมทั้งหลายพูดไม่ออกหลังจากที่ได้ยินคำพูดของฉีเติ่งเสียน มีการชมตัวเองแบบนี้ด้วยหรอ?
“สกุลฉี ให้ความเมตตาต่อผู้คนและให้อภัยผู้คน เรื่องในวันนี้ก็ช่างมันเถอะ”เสวี่ยกุยกัดกัดฟัน เขาพูดพร้อมกับยืดอกขึ้น
“แกบอกช่างมันก็ช่างมันหรอ?”ฉีเติ่งเสียนพูดขรึมๆ
เจียงชิงเยว่พูดเสียงต่ำ:“ยังไงเขาก็เป็นคนของตระกูลเสวี่ย จัดการเขาจนอนาถเกินไปล่ะก็ ตระกูลเสวี่ยจะมาสร้างความวุ่นว่าย ก็จะไม่ง่ายที่จะจัดการ”
ฉีเติ่งเสีนหัวเราะแล้วพูด:“ฉันไม่กลัว คุณมีอะไรให้ฉันกลั่วล่ะ ฉันสนับสนุนคุณ ในเมืองโมตูทั้งหมด คุณเดินไปข้างหน้าแบบขวานผ่าซากไม่เป็นไร!”
หลังจากพูดคำนี้ เขาโบกมือ ชี้ไปที่เสวี่ยกุย
“จัดการมัน!”
เสียงที่เขาสั่งไป ทหารนับแสน เชอะ......ลูกศิษย์นับร้อยคนเข้าไปข้างหน้า และรุมโจมตีอย่างหนัก
เสวี่ยกังยังไม่ทันคลานขึ้นมาเลยล่ะ แต่ช้อนใส่รองเท้าก็ถูกประทับบนหน้าผากเขาแล้ว เหยียบย่ำเขาลงไปที่พื้น หลังจากนั้นสองเท้าที่ใหญ่จำนวนมากพุ่งเข้ามา......
เสวี่ยกุยและกลุ่มที่เขาพามาจัดการ เผชิญกับเหตุการณ์เหยีบย่ำไร้มนุษยธรรม
ฉีเติ่งเสียนอยู่ในใจของลูกศิษย์หลงเหมินพวกนี้ มีอำนาจบารมีสูงส่ง ยังไงก็ตามเขาคือชายดุร้ายที่เอาชนะปรมจารย์ผู้ญิ่งใหญ่หลิวจงเหยียนซุ่น ดังนั้น คำสั่งของเขา ทุกคนทำตามอย่างดีโดยธรรมชาติ
ทุกๆท้าวย่างก้าวไม่เบา อวัยวะภายในของคนพวกนี้แทบจะระเบิดแตกออกมาแล้ว
“พอแล้ว หยุด ”ฉีเติ่งเสียนโบกมือ พูดขรึมๆ
ผู้คนถึงจะหยุด หลังจากนั้นค่อยๆเปิดออก
มองดูผู้คนที่อยู่บนพื้นพวกนั้นอย่างใกล้ชิด ทั้งหมดหวาดกลัวอยู่รวมกัน ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด รอยเท้าประทับทั่วร่างกาย สภาพดูแย่จนถึงขีดสุดเมื่อมองเข้าไป
เพราะว่าเสวี่ยกังพึ่งจะลงมือกับฉีติ่งเสียน ดังนั้นจุดสำคัญคือการดูแลอีกฝ่าย มือเท้าที่ถูกเหยียบทั้งหมดหักไปแล้ว ทั้งหมดทรุดตัวลงเป็นก้อนโคลนจนไม่สามารถขยับตัวได้
ภายในใจของเขาอับอายไม่ไหว......
ถ้าหากว่าหนึ่งต่อหนึ่ง คนพวกนี้ ไม่มีใครสักคนที่เป็นคู่ต่อสู้ของตัวเอง
แต่ว่าพวกเขาสนับสนุนรุมเข้ามา อย่างงั้นแม้แต่โอกาสต่อต้านของตัวเองยังไม่มี
เสวี่ยกุยเจ็บจนฮึฮึคิกคิก ชักอย่างต่อเนื่องบนพื้น
เจียงชิงเยว่เห็นฉากนี้ที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกลิ้นของตัวเองช้าขึ้นมาแล้ว คุณชายตระกูลเสวี่ยที่สง่างาม นึกไม่ถึงว่าจะโดนทุบตีจนเป็นแบบนี้......
ที่นี่ยังเป็นเมืองโมตูอยู่อีกหรอ?
ตระกูลเสวี่ยเป็นหนึ่งในสามตระกูลยักษ์ใหญ่ในเมืองโมตูเลย งูประจำถิ่นที่ร้ายแรง ฉีเติ่งเสียนตนนอกนี้ กลับสามารถปราบพวกงูท้องถิ่นพวกนี้ในเมืองจนโงหัวไม่ขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...