มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 762

สรุปบท บทที่ 762 ใส่ร้าย: มังกรผู้ทรงพลัง

บทที่ 762 ใส่ร้าย – ตอนที่ต้องอ่านของ มังกรผู้ทรงพลัง

ตอนนี้ของ มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยายโรแมนติกในเมืองทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 762 ใส่ร้าย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“นี่มันเรื่องอะไร?”

ลู่จ้านหลงเห็นฉากนั้น เขาก็ตกตะลึงก่อนจะถามขึ้นอย่างเคร่งขรึม

ฉีเติ่งเสียนก็ไม่เข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เขาขมวดคิ้วและมองไปยังหัวหน้าตำรวจที่นำกำลังมา

“ฉันคือสารวัตรสือฮ่าวของโมตู มีคนรายงานว่าพวกนายมีค้าของสิ่งผิดกฎหมาย โปรดให้ความร่วมมือในการตรวจสอบด้วย! อย่าได้ทำอะไรที่ไม่เหมาะสม ไม่อย่างงั้นพวกเราจะใช้มาตรการบีบบังคับ!”เขาทำสีหน้าที่เคร่งขรึม

ลู่จ้านหลงได้ฟังหัวเราะขึ้นมา : “น้องชาย นายเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? ใครเป็นคนรายงานนายว่าพวกเราค้าของสิ่งผิดกฎหมาย……”

สือฮ่าวตะโกนอย่างเสียงแข็ง : “หุบปากเดี๋ยวนี้ นายควรเรียกฉันว่าสารวัตรสือ! อย่ามาเรียกฉันแบบสนิทอย่างนั้น มันใช้ไม่ได้ผลหรอก!”

ลู่จ้านหลงรู้สึกงุนงงนิดหน่อย เขาไม่ค่อยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้

ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคําเตือนของอวี้เสี่ยวหลงกับเขา และเขาก็หัวเราะขึ้นทันที ดูเหมือนว่ามีคนต้องการกล่าวหาว่าเขาละเมิดกฎหมายจริงๆ!

“เปิดท้ายรถให้พวกเราตรวจสอบ เร็ว! เดี๋ยวนี้!” สือฮ่าวชี้นิ้วไปที่รถ SUV ของหยางกวนกวน อย่างหน้าตาเมินเฉย

หยางกวนกวนยักไหล่ พร้อมกับกดปลดล็อกกุญแจเปิดท้ายรถ

เจ้าหน้าที่สองคนรีบเข้าไปตรวจสอบทันที

“แล้วก็ท้ายรถของนายด้วย!” สือฮ่าวหันมาสั่งลู่จ้านหลง

เมื่อนายทหารผู้ช่วยเสี่ยวเฉินได้ยินก็รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองโมตูกำลังทำอะไรกัน ทำไมพวกเขาถึงสงสัยว่าลู่จ้านหลงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าของสิ่งผิดกฎหมาย? แล้วยังต้องการค้นรถของเขาด้วย!

ลู่จ้านหลงกลับพูดอย่างเรียบเฉยว่า : “เสี่ยวเฉิน เปิดรถให้พวกเขาค้นเถอะ พวกเราไม่มีอะไรที่ต้องกลัวอยู่แล้ว”

เสี่ยวเฉินฟังแล้วก็ทำได้เพียงแค่รู้สึกโมโห จากนั้นก็ไปเปิดรถให้พวกเขาตรวจสอบ

“นายทำอะไร เอาอะไรมายัดในรถฉัน?!” หยางกวนกวนเห็นเจ้าหน้าที่จงใจยัดของในมือเอาไว้ใต้แผ่นรองของท้ายรถ และอดไม่ได้ที่จะคํารามด้วยใบหน้าสีดำ

ตำรวจรายนั้นดึงมือกลับ ในมือนั้นหยิบพัสดุห่อหนึ่งที่มีลักษณะเป็นเม็ดๆห่ออยู่ถุงพลาสติกใสอีกที

จากนั้นเขาก็พูดเสียงดังว่า : “รายงานสารวัตร ตรวจสอบเจอของวัสดุต้องสงสัยแล้วครับ!”

หยางกวนกวนทำสีหน้าไม่พอใจ : “ก็เห็นๆกันอยู่ว่านายเป็นคนยัดถุงอันนี้เข้าไปเอง แล้วจะมาบอกว่าตรวจเจอในรถฉันงั้นเหรอ?”

เวลานั้นสือฮ่าวหัวเราะเยาะขึ้นและพูดว่า : “นี่คือสิ่งที่ตรวจค้นเจอในรถของเธอ อย่ามาแก้ตัวมันไม่มีประโยชน์หรอก! แถมยังบอกว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการค้าของผิดกฎหมายอีก? ลองดูสิว่านี่คืออะไร!”

ฉีเติ่งเสียนไม่ได้พูดอะไร เขายืนมองอย่าเย็นชา

ลูกน้องของสือฮ่าวรีบยกปืนเล็งไปที่พวกเขา แล้วสั่งว่าอย่าขยับ

“สารวัตรสือ นายรู้ใช่ไหมว่านายกำลังทำอะไร?” ลู่จ้านหลงเปิดปากพูดด้วยน้ําเสียงและแววตาที่ไม่พอใจ

“นายมีสิทธิ์พูดด้วยเหรอ? เนื่องจากนายก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย ฉันก็ขอเชิญให้นายไปที่สถานีตำรวจกับฉันเพื่อสอบสวนด้วย!” สือฮ่าวมองไปที่ลู่จ้านหลงด้วยความดูถูกและเยาะเย้ย

ผู้ช่วยเสี่ยวเฉินโกรธมากและกำลังจะเอื้อมมือหยิบบัตรประจำตัวออกจากกระเป๋าของเขา แต่เขายังไม่ทันจะยื่นมือออกมา เขาก็ถูกทุบที่ศีรษะด้วยด้ามกระบอกปืน

ทำให้ศีรษะมีเลือดออกและเขาก็ล้มลงกับพื้นโดยตรง

เมื่อเห็นฉากนี้ลู่จ้านหลงก็ตกตะลึงและพูดอย่างโกรธเคืองว่า: “พวกนายกล้ามากนะ รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ถึงกล้ามาทำร้ายคนของฉันแบบนี้!”

สือฮ่าวหัวเราะเยาะและพูดว่า : “ฉันไม่สนหรอกว่านายจะเป็นใคร วันนี้นายเกิดเรื่องแล้ว!”

“อืม? ตรวจเจอถุงใหญ่ขนาดนี้……”

“น้ำหนักน่าจะประมาณ 5 กิโลกรัมได้ไหม?”

“แค่นี้ก็โทษถึงประหารชีวิตแล้ว!”

ลู่จ้านหลง, ผู้ช่วยเสี่ยวเฉิน, ฉีเติ่งเสียน,หยางกวนกวนทั้งสี่คนถูกสือฮ่าวพากลับไปที่สถานีตำรวจโดยตรง

ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ: “เคยเจอคนรนหาที่ตาย แต่ก็ไม่เคยเจอใครที่อยากรีบรนหาที่ตายอย่างนี้มาก่อน! อีกเดี๋ยวคนใหญ่คนโตของทั้งโมตูจะต้องอับอายขายหน้า”

ชื่อเสียงของลู่จ้านหลงไม่ธรรมดา อีกทั้งเขายังเป็นคนที่ทำให้คนอื่นไว้วางใจได้ เขาถือเป็นหัวใจของคนกรมยุทธการ!

มีใครบางคนกำลังใส่ร้ายให้ฉีเติ่งเสียนเป็นผู้มีส่วนร่วมกับการค้าของผิดกฎหมาย เลยทำให้ลู่จ้านหลงโดนหางเลขไปด้วย ทำให้เขารู้สึกกลัวไปด้วยเมื่อคิดถึงเรื่องนี้

หลังจากมาถึงสถานีตำรวจแล้ว สือฮ่าวก็มาสอบปากคำลู่จ้านหลงเป็นการส่วนตัว

“เป็นอะไรไป สารภาพได้แล้ว? จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว”ทันทีที่สือฮ่าวเข้ามา เขาพูดจาอย่างเย่อหยิ่ง

“สารภาพ? นายปล่อยเขาไปได้แล้ว แล้วบอกฉันมาว่าใครเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง ฉันจะทำเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น” ลู่จ้านหลงมองไปที่สือฮ่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย

หลังจากที่สือฮ่าวได้ยิน ก็อดที่จะกระแอมออกมาไม่ได้ พร้อมกับยืนขึ้นยกถ้วยน้ําตรงหน้าสาดใบหน้าของลู่จ้านหลงทันที

จากนั้นเขาก็พูดด้วยรอยยิ้มที่เคร่งขรึม : “นายคงไม่รู้ใช่ไหมว่าที่นี่ที่ไหน? ฉันขอเตือนสตินายหน่อย!”

ลู่จ้านหลงไม่สามารถหลบได้เลย น้ำจึงหกไปทั่วใบหน้าของเขา จากนั้นเขาก็หรี่ตาลงและยิ้มด้วยความโกรธ : โอเค ดีมาก ดีมาก! นายชื่อสือฮ่าวใช่ไหม ฉันจะจํานายไว้!”

สือฮ่าวโบกมือและเรียกลูกน้องเข้ามาและพูดว่า : “บันทึกประจำวัน!”

เจ้าหน้าที่ตำรวจพยักหน้าอย่างรวดเร็ว นั่งลงตรงข้ามกับลู่จ้านหลงด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย และพูดด้วยเสียงต่ําว่า: “ชื่อ!”

“ลู่จ้านหลง”ลู่จ้านหลงแสดงสีหน้าอย่างไร้ความรู้สึก และตอบอย่างตรงไปตรงมา

เมื่อสือฮ่าวได้ยินชื่อ เขาก็รู้สึกคุ้นเคยเพียงเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่สนใจอะไร

เมื่อเห็นว่าลู่จ้านหลงยอมให้ความร่วมมือ เขาอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยและพูดว่า : “ควบคุมไว้! พวกนายจัดการกับมันที่นี่ เดี๋ยวฉันจะจัดการฝั่งนายฉี”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง