“นี่มันเรื่องอะไร?”
ลู่จ้านหลงเห็นฉากนั้น เขาก็ตกตะลึงก่อนจะถามขึ้นอย่างเคร่งขรึม
ฉีเติ่งเสียนก็ไม่เข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เขาขมวดคิ้วและมองไปยังหัวหน้าตำรวจที่นำกำลังมา
“ฉันคือสารวัตรสือฮ่าวของโมตู มีคนรายงานว่าพวกนายมีค้าของสิ่งผิดกฎหมาย โปรดให้ความร่วมมือในการตรวจสอบด้วย! อย่าได้ทำอะไรที่ไม่เหมาะสม ไม่อย่างงั้นพวกเราจะใช้มาตรการบีบบังคับ!”เขาทำสีหน้าที่เคร่งขรึม
ลู่จ้านหลงได้ฟังหัวเราะขึ้นมา : “น้องชาย นายเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? ใครเป็นคนรายงานนายว่าพวกเราค้าของสิ่งผิดกฎหมาย……”
สือฮ่าวตะโกนอย่างเสียงแข็ง : “หุบปากเดี๋ยวนี้ นายควรเรียกฉันว่าสารวัตรสือ! อย่ามาเรียกฉันแบบสนิทอย่างนั้น มันใช้ไม่ได้ผลหรอก!”
ลู่จ้านหลงรู้สึกงุนงงนิดหน่อย เขาไม่ค่อยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคําเตือนของอวี้เสี่ยวหลงกับเขา และเขาก็หัวเราะขึ้นทันที ดูเหมือนว่ามีคนต้องการกล่าวหาว่าเขาละเมิดกฎหมายจริงๆ!
“เปิดท้ายรถให้พวกเราตรวจสอบ เร็ว! เดี๋ยวนี้!” สือฮ่าวชี้นิ้วไปที่รถ SUV ของหยางกวนกวน อย่างหน้าตาเมินเฉย
หยางกวนกวนยักไหล่ พร้อมกับกดปลดล็อกกุญแจเปิดท้ายรถ
เจ้าหน้าที่สองคนรีบเข้าไปตรวจสอบทันที
“แล้วก็ท้ายรถของนายด้วย!” สือฮ่าวหันมาสั่งลู่จ้านหลง
เมื่อนายทหารผู้ช่วยเสี่ยวเฉินได้ยินก็รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองโมตูกำลังทำอะไรกัน ทำไมพวกเขาถึงสงสัยว่าลู่จ้านหลงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าของสิ่งผิดกฎหมาย? แล้วยังต้องการค้นรถของเขาด้วย!
ลู่จ้านหลงกลับพูดอย่างเรียบเฉยว่า : “เสี่ยวเฉิน เปิดรถให้พวกเขาค้นเถอะ พวกเราไม่มีอะไรที่ต้องกลัวอยู่แล้ว”
เสี่ยวเฉินฟังแล้วก็ทำได้เพียงแค่รู้สึกโมโห จากนั้นก็ไปเปิดรถให้พวกเขาตรวจสอบ
“นายทำอะไร เอาอะไรมายัดในรถฉัน?!” หยางกวนกวนเห็นเจ้าหน้าที่จงใจยัดของในมือเอาไว้ใต้แผ่นรองของท้ายรถ และอดไม่ได้ที่จะคํารามด้วยใบหน้าสีดำ
ตำรวจรายนั้นดึงมือกลับ ในมือนั้นหยิบพัสดุห่อหนึ่งที่มีลักษณะเป็นเม็ดๆห่ออยู่ถุงพลาสติกใสอีกที
จากนั้นเขาก็พูดเสียงดังว่า : “รายงานสารวัตร ตรวจสอบเจอของวัสดุต้องสงสัยแล้วครับ!”
หยางกวนกวนทำสีหน้าไม่พอใจ : “ก็เห็นๆกันอยู่ว่านายเป็นคนยัดถุงอันนี้เข้าไปเอง แล้วจะมาบอกว่าตรวจเจอในรถฉันงั้นเหรอ?”
เวลานั้นสือฮ่าวหัวเราะเยาะขึ้นและพูดว่า : “นี่คือสิ่งที่ตรวจค้นเจอในรถของเธอ อย่ามาแก้ตัวมันไม่มีประโยชน์หรอก! แถมยังบอกว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการค้าของผิดกฎหมายอีก? ลองดูสิว่านี่คืออะไร!”
ฉีเติ่งเสียนไม่ได้พูดอะไร เขายืนมองอย่าเย็นชา
ลูกน้องของสือฮ่าวรีบยกปืนเล็งไปที่พวกเขา แล้วสั่งว่าอย่าขยับ
“สารวัตรสือ นายรู้ใช่ไหมว่านายกำลังทำอะไร?” ลู่จ้านหลงเปิดปากพูดด้วยน้ําเสียงและแววตาที่ไม่พอใจ
“นายมีสิทธิ์พูดด้วยเหรอ? เนื่องจากนายก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย ฉันก็ขอเชิญให้นายไปที่สถานีตำรวจกับฉันเพื่อสอบสวนด้วย!” สือฮ่าวมองไปที่ลู่จ้านหลงด้วยความดูถูกและเยาะเย้ย
ผู้ช่วยเสี่ยวเฉินโกรธมากและกำลังจะเอื้อมมือหยิบบัตรประจำตัวออกจากกระเป๋าของเขา แต่เขายังไม่ทันจะยื่นมือออกมา เขาก็ถูกทุบที่ศีรษะด้วยด้ามกระบอกปืน
ทำให้ศีรษะมีเลือดออกและเขาก็ล้มลงกับพื้นโดยตรง
เมื่อเห็นฉากนี้ลู่จ้านหลงก็ตกตะลึงและพูดอย่างโกรธเคืองว่า: “พวกนายกล้ามากนะ รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ถึงกล้ามาทำร้ายคนของฉันแบบนี้!”
สือฮ่าวหัวเราะเยาะและพูดว่า : “ฉันไม่สนหรอกว่านายจะเป็นใคร วันนี้นายเกิดเรื่องแล้ว!”
“อืม? ตรวจเจอถุงใหญ่ขนาดนี้……”
“น้ำหนักน่าจะประมาณ 5 กิโลกรัมได้ไหม?”
“แค่นี้ก็โทษถึงประหารชีวิตแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...