ฉีเติ่งเสียนได้ขอให้หยางกวนกวนก่อตั้งมูลนิธิในนามของลู่จ้านหลง ต้องบอกว่าช่วงนี้ความสารมารถของเลขาอย่างหยางกวนกวนเริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
แน่นอนว่าเงินสามารถสร้างความแตกต่างได้ และด้วยเงินจำนวนมหาศาลที่ทุ่มเทไป ทุกอย่างจะออกมาอย่างราบรื่น
เพื่อป้องกันไม่ให้เงินตกเป็นเป้าหมายของพวกแมลงหวี่แมลงวัน หยางกวนกวนจึงเพิ่มการคุ้มกันหลายชั้น การควบคุมที่หลากหลายและสร้างความสัมพันธ์กับลู่จ้านหลง
ใครก็ตามที่กล้าแตะต้องเงินนี้ จะถูกคนของลู่จ้านหลงหักมือทิ้ง!
“พี่ใหญ่ลู่บอกว่า เขารู้สึกขอบคุณพวกเราเป็นอย่างมาก และอยากเลี้ยงอาหารเย็นพวกเราเป็นการขอบคุณ” หยางกวนกวนที่นั้งอยู่ในรถพูดเรื่องนี้ขึ้นมา
"ฮ่าฮ่าฮ่า... เขาชวนเราไปทานอาหารเย็นเหรอ ลืมว่าเคยได้ยินไปจะดีกว่า ฉันว่าครั้งนี้เขาคงเลี้ยงบาร์บีคิวเราอีกเหมือนเดิม" ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดติดตลกออกมา
แม้ว่าลู่จ้านหลงจะชอบสั่งบาร์บีคิวราคาถูกๆ แต่เขาก็ยังถือว่าเป็นชายชราที่น่าเคารพ และตัวเขาเองก็เคารพคนๆนี้จากก้นบึ้งหัวใจ
ผู้คนที่อยู่ในตำแหน่งสูง ย่อมมีฐานะที่มั่งคั่งและใช้ชีวิตอย่างหรูหรา แต่เขากลับเลือกใช้ชีวิตเรียบง่ายเช่นนี้
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การใช้ชีวิตของเขาเรียกได้ว่าเป็นการใช้ชีวิตอย่างสมถะ!
หยางกวนกวนกล่าวว่า "คนอย่างเขาหาได้ยากแล้ว! ดูสิ เขาเป็นถึงข้าราชการชั้นผู้ใหย่ แต่กลับใช้ชีวิตอย่างพอมีพอกิน"
ฉีเติ่งเสียนกล่าวขึ้นด้วยท่าทีสบายๆ: "เขาเคยผ่านความทุกข์ยากมาก่อน เขาจึงไม่ต้องการให้ใครประสบพบเจอเช่นเดียวกับเขา คนอย่างเขาถือว่ายอดเยี่ยม ฉันนับถือและชื่นชมเขามาก!"
ลู่จ้านหลงอาจจะไม่สามารถบริจาคเงินหลายล้านหรือหลายสิบล้านได้เหมือนกับพวกนักการเมืองพวกนั้น แต่ทุกสิ่งที่เขาทำควรค่าแก่การเคารพจากก้นบึ้งหัวใจ
ความยิ่งใหญ่ของคนไม่ได้อยู่ที่สถานะที่สูงส่ง แต่อยู่ที่สิ่งที่เขาทำ!
หากไร้ซึ่งเจตนารมย์ อำนาจและความมั่งคั่งก็เป็นเพียงเปลวไฟแห่งความปรารถนา ที่สุดท้ายจะเหลือเพียงเถ่าถ่านจากการเผาไหม้
หากปราศจากการตั้งคำถามแห่งมโนธรรม อำนาจบารมีที่สูงส่งจะเป็นเพียงลมพัดผ่านในความว่างเปล่า
“เขาเขียนบทกลอนแล้วให้คนส่งมา บอกให้ฉันแขวนมันไว้ในมูลนิธิ” หยางกวนกวนพูดขึ้น
“เขียนเกี่ยวกับอะไร” ฉีเติ่งเสียนถามอย่างสงสัย
“ข้าพเจ้าเพียงหวังว่าความยุติธรรมจะเปรียบเป็นดั่งหยดน้ำ และความชอบธรรมจะเปรียบเป็นดั่งแม่น้ำไหล!” หยางกวนกวนประทับใจกับคำพูดของลู่จ้านหลงเป็นอย่างมาก
เมื่อฟังจบฉีเติ่งเสียนพยักหน้าด้วยท่าทีสงบ ทั้งสองคนกำลังพูดถึงลู่จ้านหลงในขณะที่เดินทางมาที่ห้องจัดงานศพ
ฮอลล์หมายเลข 8 เป็นห้องไว้อาลัยที่ใหญ่ที่สุด จะเห็นได้ว่าล้วนมีแต่คนที่มีชื่อเสียงและมีหน้ามีตาเข้าออกที่นี้
ฉีเติ่งเสียนและหยางกวนกวนมาถึง เมื่อตระกูลหยางเห็นพวกเขา สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
“หยางกวนกวน เธอเข้าไปไม่ได้!” ด้านนอกที่ประตู มีใครบางคนยืนขวางเอาไว้ ปฏิเสธไม่ให้หยางกวนกวนเข้าไป
หยางกวนกวนพูดออกไปอย่างไม่แยแส: "เขาเป็นปู่ของฉัน ฉันจะเข้าไปเคารพและส่งเขาเดินทางเป็นครั้งสุดท้าย ทำไมถึงไม่ให้ฉันเข้าไป?"
ในขณะเดียวกัน หยางจิ้งก็ได้เดินออกมาและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา: "นั้นก็เพราะว่า เราเป็นคนรับผิดชอบ และเพราะว่าเราไม่รู้จักคุณ! คุณไม่สมควรที่จะก้าวเข้าไปในห้องไว้อาลัยตระกูลหยางของเรา"
หยางกวนกวนหรี่ตาและพูดขึ้นว่า "ร่างกายของคุณปู่ยังอยู่ที่นี้ คุณจะขัดขวางความกตัญญูที่เปรี่ยมล้นของฉันอย่างนั้นหรอ?"
“หยางกวงกวน อยากเข้าไปอย่างนั้นหรอ? น่าเสียดายที่มันไม่มีประตูสำหรับคุณ! คุณถูกถอดออกจากวงศ์ตระกูลไปแล้ว คนอย่างคุณไม่สมควรเรียกเขาว่าปู่ด้วยซ้ำ” หยางหยวนซานโผล่ออกมาและต่อว่าทันที
“และคุณ...อย่าหวังว่าจะได้ส่วนแบ่งอะไรจากมรดก! ตราบใดที่คนตระกูลหยางของเรายังอยู่ อย่าได้สะเออะริอาจเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง!”
หยางกวนกวนพูดอย่างใจเย็นออกมา: "ไม่ว่าฉันจะมีส่วนหรือไม่มีส่วนในมรดก มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกคุณ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...