มังกรผู้ทรงพลัง นิยาย บท 788

สรุปบท บทที่ 788 รับไม้ต่อ: มังกรผู้ทรงพลัง

อ่านสรุป บทที่ 788 รับไม้ต่อ จาก มังกรผู้ทรงพลัง โดย จาง หลงหู

บทที่ บทที่ 788 รับไม้ต่อ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายโรแมนติกในเมือง มังกรผู้ทรงพลัง ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จาง หลงหู อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ในการประเมินสนามแรกของการต่อสู้ของฉีเติ่งเสียน ผู้คุมทั้งสี่ ล้วนถูกเขาจัดการหมดแล้ว

ถึงแม้ว่าฮว่าโต๋จะฟื้นกลับมาได้ ทั้งชีวิตนี้ของพวกเขาก็อย่าได้หวังว่าจะได้กลับไปจุดสูงสุดอีก

ร้านอาหารมีชื่อว่า“หมิงยื่อ” ชื่อนี้ แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ตอนนั้นของสวี่ไป๋หลิวไม่มากก็น้อย

อวี้เสี่ยวหลงพาฉีเติ่งเสียนเดินเข้าไป หาที่นั่ง แล้วจึงสั่งอาหาร

หลังจากที่อาหารมาเสิร์ฟ “ชิมไหม?” อวี้เสี่ยวหลงถาม

ฉีเติ่งเสียนก็ไม่เกรงใจ หยิบตะเกียบขึ้นมาชิมปลากะพงก่อนหนึ่งคำ สดใหม่ ถึงรสมาก

หลังจากนั้น เขาก็ชิมซุปไก่ต่อ ไม่เค็มและไม่จืด รสชาติยอดเยี่ยม......

ถัดมาก็ค่อยๆไล่ชิมอาหารสองสามอย่างที่อยู่บนโต๊ะ อย่างน้อยอวี้เสี่ยวหลงก็ไม่เหมือนลู่จ้านหลง เวลาเธอสั่งอาหาร เธอมักจะสั่งเกินเสมอ นอกจากนั้นอาหารส่วนมากเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงไขมันต่ำ

“รสชาตินี้เรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งแล้ว ไป๋หลิวได้เชฟฝีมือดีมา?!” ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความตะลึง

อวี้เสี่ยวหลงกลับส่ายหน้าพูด “ไป๋หลิวนั่นแหละเชฟ”

ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยความตะลึง “เธอไม่ได้ถูกผมแทงตาบอดไปแล้วหรอ?นี่ยังทำอาหารได้อีก!”

“เธอไม่ได้ลงมือทำด้วยตัวเอง แค่ออกคำสั่งเฉยๆ แต่เดิมฝีมือการทำอาหารของเธอก็ไม่เลว หลังจากที่โดนนายแทงจนตาบอด ฝีมือการทำอาหารก็ดีขึ้นไปอีก” อวี้เสี่ยวหลงพูด

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่ามันก็สมเหตุสมผลอยู่เหมือนกัน ตาของไปหลิวบอดแล้ว ศิลปะการต่อสู้จะฝึกก็ฝึกได้ แต่ฝึกไปก็ไร้ประโยชน์ ยังไงก็มีเพียงความว่างเปล่า......

หลังจากที่ค่อนชีวิตของเธออยู่ที่ จึงเปลี่ยนความตั้งใจหันมาศึกษาด้านการทำอาหารแทน

ทั้งสองที่พึ่งจะกินไปได้ไม่กี่คำ ไป๋หลิวก็ออกมา

ใบหน้าสวมใส่แว่นดำที่ทั้งหนาและหนัก โดยพื้นฐานแล้วมองไม่เห็นดวงตาภายใต้แว่นอันนั้น

ราวกับว่าเธอสามารถมองเห็นอย่างไรอย่างนั้น เดินมาอยู่ข้างโต๊ะได้อย่างชำนาญ “อาจารย์ฉี อาหารของฉันถูกปากอาจารย์ไหม?”

“ไม่เลวเลย เธอไม่ได้ใส่ยาพิษใช่ไหม?” ฉีเติ่งเสียนกล่าว

ไป๋หลิวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ถึงแม้ว่าอาจารย์จะทำให้ฉันตาบอด แต่ฉันไม่ถือโทษโกรธแค้น ฉันฝึกศิลปะการต่อสู้ อีกทั้งยังได้สู้กับอาจารย์ อย่างนั้นก็ต้องเตรียมใจที่จะยอมรับผลตอบแทนไว้หมดแล้ว”

ฉีเติ่งเสียนพยักหน้า ไป๋หลิวจุดนี้ถือว่าเข้าใจได้ดี เมื่อเทียบกับคนประเภทเซี่ยขวางหลงแล้วแข็งแกร่งกว่าร้อยเท่า

“ฉันขอแนะนำอาจารย์ด้วยเมนู ผักกาดขาวต้มน้ำเปล่า นี่เป็นเมนูที่ฉันไปเรียนมาจากเชฟระดับประเทศ......” ไป๋หลิวพูดพร้อมชี้นิ้วไปที่อาหารจานหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะ

ฉีเติ่งเสียนเลิกคิ้ว “เธอมองเห็น?!”

ไป๋หลิวส่ายหน้า “ลูกตาสองดวงนี้ก็เสียไปหมดแล้ว จะเห็นอะไรได้อีก? ถึงแม้ว่าการมองเห็นของฉันจะใช้ไม่ได้แล้ว แต่การดมกลิ่นกลับดีกว่าเดิมมาก”

ฉีเติ่งเสียนคีบผักกาดขึ้นมาหนึ่งใบ แล้วนำเข้าปาก สดและกรอบมาก แฝงด้วยรสหวานประจำตัวของผัก อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมเครื่องเทศของน้ำแกง มีเอกลักษณ์เป็นที่สุด

เขากำลังจะเอ่ยปากชม ทันใดนั้นประตูบานใหญ่ของร้านก็ถูกแรงถีบจนกระจาย

หลังจากนั้น ก็มีคนจำนวนหนึ่งเดินจ้ำเข้ามาในร้าน

“ไป๋หลิว นังสารเลว สุดท้ายก็มีวันนี้!” หลังจากชายที่อายุประมาณสามสิบที่เป็นหัวหน้าได้เห็นไป๋หลิวแล้ว จึงตะโกนพูดพร้อมแสยะยิ้ม

“เหวินชางหวู่?” หลังจากที่ไป๋หลิวได้ยินน้ำเสียงนี้ คิ้วค่อยๆขมวดเข้าหากัน จากนั้นจึงเรียกชื่อฝ่ายตรงข้ามออกมาอย่างช้าๆ

ขณะที่พูด เขาเห็นฉีเติ่งเสียนกับอวี้เสี่ยวหลงยังคงนั่งกินข้าวอยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้น พร้อมกับสาวเท้าเข้าไป

“ที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ พวกแกไม่ได้ยินหรือไงวะ?ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!” เหวินชางหวู่พูดด้วยความหงุดหงิด พร้อมกับยื่นมือออกไปยกโต๊ะ เตรียมพร้อมที่จะเรียนแบบพี่อูยาคว่ำโต๊ะ

ฉีเติ่งเสียนเพียงแค่กดมือเบาๆลงบนโต๊ะ เสียงดัง ตึ้ง บนโต๊ะราวกับถูกกดทับด้วยไท่ซานไม่ปาน ไม่แม้แต่จะขยับ!

เหวินชางหวู่รีบถอยหลังกลับอย่างรวดเร็ว แววตาเย็นเยือก “โอ๊ะ?ก็ว่าอยู่ว่าทำไมไอ้บอดนี่ถึงได้โอ้อวดนัก ที่แท้ก็ได้ยอดฝีมือมาคอยหนุนหลังนี่เอง!”

ไป๋หลิวตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เรื่องระหว่างฉันกับแก ก็ให้ฉันกับแกเป็นคนจัดการ อย่าลามไปที่คนอื่น”

แต่ฉีเติ่งเสียนกับขำพร้อมยืนขึ้นถาม “ฉันหาเรื่องแกหรอ ถึงได้มาถึงก็จะมาคว่ำโต๊ะ?หรือไม่รู้ว่า ฉันกินอิ่มหรือยัง?”

“แกตั้งใจที่จะรับไม้แทนไป๋หลิว?” เหวินชางหวู่หลี่ตา พร้อมกับแสยะยิ้ม

“อาจารย์ฉี......”ไป๋หลิวอ้าปากเหมือนจะอยากพูดอะไร

“ไม่ต้องพูดแล้ว ไม้นี้ฉันจะช่วยเธอรับไว้ก็แล้วกัน!ก็ดีฉันก็อยากจะรู้ว่า ขยะที่ชอบรักแกคนที่อ่อนแอกว่า จะมีความสามารถขนาดไหน” ฉีเติ่งเสียนพูดไปหัวเราะไป

ยังไงซะเขาก็ทนดูคนที่มีคุณธรรมอย่างเหวินชางหวู่ไม่ได้เหมือนกัน ตอนที่ไป๋หลิวยังดีๆ ก็ไม่กล้าที่จะมาหาเรื่อง พอรู้ว่าเขาตาบอด ก็ได้ทีขี่แพะไล่

นอกจากนั้น โต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารรสเลิศ กลับกล้าที่จะมาถึงก็คว่ำโต๊ะไล่คน?

คงจะคิดว่าตัวเองเป็นพี่อูยาจริงๆแล้วสินะ?

“เหอะ เหอะ เหอะ แกนี่มันปากเก่งซะจริง! จะว่าไป แกกล้าที่จะรับไม้ของฉันกับไป๋หลิว งั้นจงเตรียมใจที่จะถูกซ้อมจนพิการได้เลย” เหวินชางหวู่พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง