วันนี้สมาชิกตระกูลซ่างกวนมารวมตัวกันที่เบเวอร์ลีฮิลส์ โดยมีซ่างกวนชังไห่ผู้ก่อตั้งตระกูลนั่งอยู่ที่ตำแหน่งกลางสุด
“ปัญหาที่โมตูวุ่นวายถึงขนาดนี้แล้ว เราก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งอีกต่อไป ให้คนถอนทรัพย์สินทั้งหมดออกมาจากที่นั่นซะ” ซ่างกวนชังไห่อายุแปดสิบแล้ว แต่ดูเผินๆ เหมือนคนอายุหกสิบ มีผมสั้นสีดอกเลา นัยน์ตาเป็นประกายมีชีวิตชีวา น้ำเสียงเต็มไปด้วยพลัง
“หืม? จริงด้วย แล้วซ่างกวนจิงเทาไปไหนซะล่ะ”
“จิงเทาไปจัดการเรื่องเอนท์กรุ๊ปที่อวี้สือกั๋ว หนานหยางเฉินกรุ๊ปคิดจะแทรกแซงเรื่องของอวี้สือกั๋ว ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต่อรองได้ไหม” ซ่างกวนหยวนจี๋กล่าว
“วันนี้เฮ่าเย่ว์ไปงานปาร์ตี้ที่บ้านจิมมี่ใช่ไหม” ซ่างกวนชังไห่ถามต่อ
ซ่างกวนหยวนจี๋พยักหน้าและบอกว่า “ครับ จิมมี่จัดงานปาร์ตี้และเชิญคนระดับสุดยอดไปที่งานหลายคน วันนี้เขาจะประกาศให้บุคคลภายนอกรู้เรื่องของเขากับเฮ่าเย่ว์”
ซ่างกวนชังไห่ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มเล็กน้อย เขากล่าวว่า “ไม่เลว แม้ปัญหาที่โมตูจะทำให้ตระกูลของเราพบเจอกับอุปสรรคไปบ้าง แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง”
“คุณพ่อ คนแซ่ฉีนั่นไม่ได้เรื่องสุดๆ หลังจากได้รับสิบแปดล้านจากจิงเทาไปแล้ว ไม่ใช่แค่ไม่จัดการปัญหา หนำซ้ำยังจงใจมายุ่งกับคนของเราอีก”
“ล่าสุดมีประกาศให้รางวัลค่าหัวเขาถึงแปดสิบล้าน แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหว เราลองคิดหาวิธีจัดการเพิ่มเติมหน่อยดีไหมครับ”
มีใครคนหนึ่งในตระกูลซ่างกวนเอ่ยถึงฉีเติ่งเสียน
ซ่างกวนชังไห่ยิ้มเยาะและเอ่ยว่า “คนคนนี้เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ทั้งยังไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี กระทำการสร้างปัญหา ทั้งหัวกั๋วไม่มีใครทนได้ สบายใจเถอะ ฉันคิดหาวิธีไว้แล้วและพร้อมจะส่งคนไปหาซ่างกวนจิงเทา! ขอเพียงน้องสาวของลู่จ้านหลงยังอยู่ในมือของเอนท์กรุ๊ป ไม่ช้าก็เร็วหมอนั่นจะกินเหยื่อล่อ”
ซ่างกวนหยวนจี๋อดตกใจไม่ได้และเอ่ยว่า “ฉีเติ่งเสียนคนนี้จัดการได้ยากมาก คู่หูเซี่ยขวางหลงกับเหยียนมู่หลง คนหนึ่งถูกเขาฆ่าตาย คนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ทราบว่าคุณพ่อจะเตรียมจะส่งใครไปหรือครับ”
“ดิน น้ำ ลม ไฟ พวกแกออกมาได้!” ซ่างกวนชังไห่หัวเราะหึๆ และเอ่ยพร้อมปรบมือ
มีเงาของคนสี่คนปรากฏตัวออกมาที่กลางห้องโถงใหญ่ราวกับผีที่หายตัวมา พวกเขาประสานมือทำความเคารพซ่างกวนชังไห่และเอ่ยว่า “คารวะนายท่าน!"
หลังจากเห็นทั้งสี่คน ซ่างกวนหยวนจี๋ก็สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่และเอ่ยอย่างประหลาดใจว่า “คุณพ่อเลี้ยงดูสี่คนนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อไรกัน”
นึกไม่ถึงว่าทั้งสี่คนจะเป็นยอดฝีมือระดับตานจิ้งจริงๆ
“คนพวกนี้คือดิน น้ำ ลม ไฟ สี่มหาทูตพิเศษที่ฉันตั้งใจทุ่มเทแรงกายแรงใจฝึกฝนเลี้ยงดูอย่างลับๆ มาหลายปี! พวกเขาคือระดับตานจิ้ง แต่ทุกคนเป็นตานเทียม ยังนับว่ามีช่องว่างอยู่พอสมควรเมื่อเทียบกับตานจิ้งแท้ แต่ถึงอย่างนั้น แค่พวกนี้สี่คนก็เหลือเฟือแล้วที่จะซุ่มโจมตีฉีเติ่งเสียน!” ซ่างกวนหยวนจี๋เอ่ยพลางยิ้มน้อยๆ “ต่อให้พ่อมันมาเอง ก็น่ากลัวว่าจะถูกทุบจนตายเหมือนกัน!”
ตานจิ้งคือระดับฝีมือที่ผู้มีฝีมือด้านการต่อสู้จะเข้าถึงได้ก็ต่อเมื่อฝึกฝนการต่อสู้จนเข้ากระดูกและถึงแก่นพลัง ต้องใช้เลือดลมภายในร่างกายได้อย่างอิสระ สามารถรวบรวมเลือดลมเข้าไปในจุดตันเถียนได้ จากนั้นก็ระเบิดออกมาในพริบตาเดียว อาศัยพลังงานของเลือดลมที่สูบฉีดออกมาจากจุดตันเถียนระเบิดพลังที่น่ากลัวออกมา
ประโยคที่ซ่างกวนชังไห่บอกว่าทั้งสี่คนเป็น “ตานเทียม” ทำให้ซ่างกวนหยวนจี๋รู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่าตานจิ้งมีแบบของเทียมได้ด้วยหรือ?
ซ่างกวนชังไห่อธิบายว่า “ตานจิ้งที่แท้จริงสามารถลำเลียงเลือดลมได้ การบังคับจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากเลย ส่วนที่บอกว่าพวกนั้นเป็นตานเทียมก็เป็นเพราะว่า...”
“เพราะพวกนั้นจำเป็นต้องใช้ยาหู่หลังรักษาการไหลเวียนของเลือดลมในร่างกายใช่ไหมล่ะ?!”
ทันใดนั้นเสียงใครคนหนึ่งก็ดังมาจากประตู นอกจากนี้ในมือของคนผู้นั้นยังหิ้วเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนไว้ด้วย
เมื่อหันไปมองจึงเห็นว่าฉีเติ่งเสียนกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูในชุดกีฬาสีดำ มองซ่างกวนชังไห่พร้อมด้วยรอยยิ้มเยาะ
เมื่อเห็นว่าเป็นเขา รูม่านตาของซ่างกวนชังไห่ก็หดตัวลงทันที เขาเอ่ยอย่างตกใจว่า “เป็นแกเองหรือ? แกคือไอ้เด็กเปรตลูกของไอ้ใบ้ฉีกับจ้าวซือชิงสินะ? มีทางไปสวรรค์อยู่แท้ๆ ไม่คิดเลยว่าแกจะไม่เลือก กล้ามาหาถึงประเทศมี่ มาที่ตระกูลของพวกฉัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรผู้ทรงพลัง
ตั้งแต่ตอนที่ 217 ถ้าไม่อัพให้เต็มตอนก็คงต้องเลิกอ่านถาวรแล้ว...
อัพอีกวันไหนคะรับ...
ตอนละ6/7บรรทัด อัพใหม่ที...
ข้อความหายอีกแล้วครับ 280-284...
คนอัพไม่ดูเลยเหรอครับมันมาไม่กี่บรรทัดเอง...
ขาดตอนเลยครับ เนื้อหาไม่ครบแบบนี้...
ทำไมแต่ละตอนมันสั้นจัง...
253-264 ทำไมสั้นจังครับ...
ถ้าอัพมาแค่4, 5บรรทัดเลิกอัพเถอะ...
242 - 246 ข้อความขึ้นไม่ครบครับ...