Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม นิยาย บท 11

สรุปบท บทที่ 11: Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม

ตอน บทที่ 11 จาก Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 11 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายMartial Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม ที่เขียนโดย ShanLiangdeMiFeng เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

  "นั่นมันวรยุทธ์ระดับที่หนึ่ง หมัดพันกรขั้น สมบูรณ์!"

  เสียงร้องระงมดังไปทั่วห้องโถง ทุกคนที่เห็นกระบวนท่าต่างล้วนเป็นประจักษ์พยานว่าฉู่เจินสำเร็จกระบวนท่านั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

  แม้ว่าหมัดพันกรจะเป็นเพียงวรยุทธ์ระดับที่หนึ่ง แต่ก็ นับได้ว่าเป็นกระบวนท่าที่หากใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญ จะแข็งแกร่งมากเช่นเดียวกัน

  หากคู่ต่อสู้อยู่ในระดับวรยุทธ์เดียวกัน และไม่มีวรยุทธ์ที่พอจะต่อกรได้ มันก็มิอาจมีโอกาสเอาชัยได้เลย นั่นคือ เหตุผลที่ทุกคนเชื่อว่าฉู่เฟิงจะพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย

  ฉู่เยว่คิ้วผูกปม นางเดินออกมาข้างหน้าสองก้าวอย่างเงียบงัน เพราะต้องการขัดขวางเจตนาร้ายของฉู่เจิน

  "ฉู่เยว่ เจ้าควรจะรู้กฎมิใช่หรือ? ผู้สังเกตการณ์ห้ามยื่นมือเข้ามายุ่งกับการประลอง"

  ทันทีที่ฉู่เยว่ได้ยินเสียงดังขึ้นข้างหู นางก็หันกลับไปทางต้นเสียงและเห็นฉู่เฉิงจ้องมองนางพร้อมรอยยิ้มบนใบ หน้าของมัน

  ฉู่เยว่รู้ว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก เพราะนางไม่คิดว่าฉู่เฉิงจะจ้องมองนางอยู่

  สถานการณ์เช่นนี้ย่อมหมายความว่า สองพี่น้องจะไม่ยอมปล่อยฉู่เฟิงไปอย่างง่ายดายแน่นอน นั่นยิ่งสร้างความ กังวลแก่ฉู่เยว่มากขึ้นไปอีก

  "ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ"

  หมัดที่รัวจนแทบมองตามไม่ทันพุ่งไปทุกทิศทาง ปก คลุมในอากาศจนมืดมิดและบดบังทัศนวิสัยของฉู่เฟิงเกือบทั้งหมด เมื่อได้ยินเสียงหมัดแหวกอากาศมา การโจมตีก็เดินทาง มาถึงมัน

  ฉู่เฟิงรู้สึกได้ว่าหมัดของฉู่เจินไม่ธรรมดาและมันก็มิได้ลงมือโดยออมวิชาไว้แต่อย่างใด แสดงถึงความเหี้ยมโหดของมันยิ่งนัก

  ทว่าฉู่เฟิงมิรู้สึกหวั่นเกรงใด ๆ มันยังคงยืนหยัด มิได้หลบเลี่ยงหรือหลีกหนี มันเพียงแค่รอการโจมตีอย่างสงบเท่านั้น

  "ฉู่เฟิงมันบ้าไปแล้วรึ? ทำไมมันถึงมิคิดหลบ?"

  "ข้าว่ามันอยากหลบ แต่มันคงมิอาจทำ? ด้วยวรยุทธ์ระดับมัน การหลบคงมิอาจทำได้ มันอาจจะทำตัวไม่ถูกไป แล้วก็เป็นได้"

  "จริง ข้าก็คิดเช่นนั้น มันเป็นแค่ไอ้ขยะไร้ค่าที่ใช้เวลาตั้งห้าปีกว่าจะก้าวเข้ามายังสำนักฝ่ายในได้"

  เมื่อเห็นว่าฉู่เฟิงมิหลบเลี่ยง เหล่าฝูงชนที่มุงล้อมล้วนคิดว่าฉู่เฟิงกลัวการโจมตีของฉู่เจินจนตัวแข็งทื่อไปเสียแล้ว ใบหน้าของพวกมันปรากฏด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าคนอื่นอับจนหนทาง

  "ย่าห์"

  แต่เมื่อฉู่เจินลงมือเข้ามาใกล้ ฉู่เฟิงพลันชักมือออกไปด้านหน้าด้วยความเร็วเหลือเชื่อ ก่อนที่ใครจะสังเกตุเห็น ความเร็วเหลือเชื่อนั้น ฝ่ามือของมันก็ซัดเข้าที่อกของฉู่เจิน

  "ปึง" เมื่อฝ่ามือนั้นกระทบกับอกของมัน ฉู่เจินสัมผัสถึงความปั่นป่วนของกำลังภายในและเลือดเนื้อภายในร่าง คลื่นความเจ็บปวดทะลักออกมาจากอกของมัน

  "ฟึบ ฟึบ ฟึบ" มิทันที่ฉู่เจินจะคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นจนถ้วนถี่ อีกหลายฝ่ามือของฉู่เฟิงก็ซัดออกกระทบเข้ากับตัวของมัน

  "อ๊าก!" ฉู่เจินมิอาจกลั้นเสียงกรีดร้อง ขาทั้งสองข้างของมันปรากฏอาการชา จนต้องทรุดเข่าทั้งสองลงต่อหน้า ฉู่เฟิง แล้วร่างของมันก็ร่วงลงพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

  "นี่มัน…"

  เหตุการณ์เบื้องหน้าทำให้ทุกคนล้วนอ้าปากค้าง ในหมู่พวกมันมิมีใครเคยคิดว่าฉู่เฟิงจะมีพลังที่ร้ายกาจถึงเพียงนี้

  ยิ่งไปกว่านั้น คนเหล่านั้นมิได้รู้เลยว่าฉู่เฟิงกำลังกดควบคุมพลังของมันเอาไว้อยู่ มิฉะนั้น เพียงฝ่ามือเดียวของมันก็สามารถปลิดชีพฉู่เจินได้แล้ว

  "เจ้ามีพลังทิพย์ยุทธ์ห้วงที่สี่แล้วหรือ?" ในตอนนั้น ฉู่เวยอ้าปากค้าง สายตาของมันทั้งคู่ที่จ้องเขม็งไปยังฉู่เฟิงนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

  "อะไรนะ? พลังทิพย์ยุทธ์ห้วงที่สี่?"

  ถ้อยคำนั้นทำให้ทุกคนล้วนได้สติตระหนักรู้ การเอา ชนะผู้ที่มีพลังทิพย์ยุทธ์ห้วงที่สามได้โดยมิต้องใช้กระบวนท่า วรยุทธ์ แปลว่ามันผู้นั้นต้องมีพลังทิพย์ยุทธ์ห้วงที่สี่ จึงจะทำ เช่นนั้นได้

  แต่กระนั้น การพยายามเชื่อมโยง "พลังทิพย์ยุทธ์ห้วงที่สี่" เข้ากันกับฉู่เฟิง นับเป็นเรื่องที่เหนือจินตนาการและยากเกินกว่าที่พวกมันจะยอมรับได้

  ไม่ใช่แค่ฝูงชนที่อยู่ในห้องเท่านั้น ฉู่เยว่เองก็ดวงตาเบิกโพลง ปากเล็กๆของนางเผยอขึ้นและสีหน้าก็เต็มไปด้วยความ ประหลาดใจ

  "มีใครอีกหรือไม่? ถ้าพวกเจ้าคนใดอยากท้าประลอง ข้าก็มิอาจห้าม แต่หญ้าเซียนทิพย์ต้องเป็นเดิมพันเท่านั้น"

  ฉู่เฟิงกวาดสายตามองฝูงชน มิมีใครกล้าสบตามัน คน เหล่านั้นมิได้กลัวฉู่เฟิง พวกมันเพียงมิอาจปล่อยวางหญ้าเซียนทิพย์ เพราะสิ่งนั้นมีค่าเปรียบประดุจชีวิตของพวกมัน

  "ฉู่เฟิง อย่าให้มันมากเกินไปนัก" ฉู่เวยกล่าวขึ้นในที่สุด

  "ท่านหรือ? ฉู่เวยท่านก็อยากประมือกับข้า? ถ้าข้าจำ ไม่ผิดท่านอายุมากกว่าข้าห้าปีใช่หรือไม่?"

  "ถ้าท่านไม่สนว่าคนจะติฉินนินทา หรือครหาว่าท่าน รังแกผู้น้อยข้าก็ไม่สนเช่นกัน และทั้งหลายทั้งปวงถึงข้าจะแพ้ ข้าก็ไม่เสียหน้าแม้สักนิด และถ้าข้าชนะ ข้าก็ได้รางวัลใหญ่ ข้าว่าข้าเข้าใจมิผิดใช่หรือไม่?"

  เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น ฉู่เวยกำหมัดแน่น แต่ก็มิเอ่ยวาจาอันใด

  มันรู้ว่าฉู่เฟิงพูดมิผิด ฉู่เวยแตกต่างจากฉู่เฉิงและฉู่เจิน พวกมันทั้งสามคนล้วนอายุใกล้เคียงกัน

  มันลงมือเช่นเดียวกับสองคนนั้นไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ด้วยวัยของมันแม้ว่าจะมีชัยเหนือฉู่เฟิง มันก็ยังมิอาจเลี่ยงการถูกหยามเหยียด นั่นคือเหตุผลที่มันตัดใจไม่โจมตีฉู่เฟิง

  เมื่อเห็นว่าคนทั้งห้องล้วนก้มหน้าก้มตา ฉู่เฟิงก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา มันหัวเราะอย่างรื่นรมย์ และก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป มันก็พูดขึ้นว่า

  "ก่อนไปข้าขอพูดกับพวกเจ้าสักสองประโยค ประโยคแรกก็คือ 'การคิดว่าตนเองมิอาจพลาดพลั้ง' และประโยคที่สองคือ 'เป็นการหยามเหยียดตนเอง' ความหมายของทั้งสองประโยค พวกท่านทุกคนต้องทำความเข้าใจด้วยตัวเอง" พอพูดจบฉู่เฟิงก็กระแทกประตูเปิดและเดินจากไปอย่างสง่างาม

  บังเกิดบรรยากาศภายกระอักกระอ่วนขึ้นทันใดภายในห้อง แรกเริ่มเดิมทีคนตระกูลฉู่ล้วนต้องการให้ฉู่เฟิงได้รับความอับอาย แต่กลายเป็นว่าฉู่เฟิงกลับมอบความอับอายต่อหน้าคนนอกมากมายให้กับพวกมัน จนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนได้อีก

  แต่สิ่งที่ไม่อาจทำใจยอมรับมากที่สุดก็คือความแข็งแกร่งของฉู่เฟิง เมื่อก่อนพวกมันคิดว่าฉู่เฟิงคือเศษสวะของตระกูลฉู่ แต่บัดนี้ฉู่เฟิงมีพลังทิพย์ยุทธ์ถึงห้วงที่สี่ นำหน้าผู้คนอีกมากมาย ยิ่งทำให้คนตระกูลฉู่อับอายยิ่งขึ้นไปอีก

  ฉู่เฟิงเดินออกจากเรือนพักด้วยความรู้สึกสดชื่นแปลกใหม่ในหัวใจ นับตั้งแต่เด็กจนโตมันมักถูกคนเหล่านี้รังแกอยู่เสมอ แต่ในที่สุดวันนี้ มันก็รังแกคนเหล่านั้นคืนได้สำเร็จ

  อันที่จริง จะบอกว่ารังแกก็ไม่ถูกนัก เพราะฉู่เฟิงโดน พวกมันกดดันต่างหาก แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตาม ฉู่เฟิง รู้สึกโล่งใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

  "ฉู่เฟิง" ก่อนที่ฉู่เฟิงจะเดินห่างออกไป เสียงหวาน ๆ ก็ ดังขึ้นตามหลังมัน… ฉู่เยว่นั่นเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม