Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม นิยาย บท 13

  "ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ” ฉู่เฟิงผละไปด้านข้างเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีของฉู่เฉิง

  ในขณะเดียวกันมันจิกเท้าข้างหนึ่งลงบนพื้นแน่น ทำ ให้มันหมุนตัวได้ในฉับพลัน เมื่อมันหมุนคว้างครบหนึ่งรอบ ฉู่เฟิงก็กลับมาทรงตัวได้

  เมื่อเห็นฉู่เฟิงหลบการโจมตีได้ สีหน้าของฉู่เฉิงเริ่ม เปลี่ยนไป และมันรีบถอยกลับไปตั้งหลัก ทว่าก็มิทันการ มิเพียง แค่ฝีเท้าของฉู่เฟิงจะมีความเร็วเหนือธรรมดาเท่านั้น ตำแหน่งการโจมตีของมันก็ยังเหมาะเจาะจนมิอาจหลบเลี่ยงได้

  ด้วยความตื่นตระหนก ฉู่เฉิงทำได้เพียงประสานมือ เพื่อรับมือกับการโจมตีของฉู่เฟิงเท่านั้น

  "ปึง ปึง ปึง"

  "ตุบ ตุบ ตุบ"

  หลังจากกวาดขาอย่างรวดเร็ว ฉู่เฉิงก็ถูกกระแทกถอยหลังอีกหลายก้าว ความรู้สึกด้านชาบังเกิดอย่างต่อเนื่องจากแขนทั้งสองข้างของมัน

  ทันใดนั้น ฉู่เฉิงขมวดคิ้วเป็นปม มันไม่คาดคิดมาก่อนว่าฉู่เฟิงจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้

  ความแข็งแกร่งของฉู่เฟิงนั้นเกินกว่าที่มันคาดคิดไปมาก ดังนั้นมันจึงต้องประลองด้วยความระมัดระวังยิ่งขึ้น

  "ในที่สุดเจ้าก็รู้ตัวแล้วสินะว่าสวะอย่างเจ้าทำอะไรข้าไม่ได้ เพียงความแข็งแกร่งของร่างกายเยี่ยงเดรัจฉานนั้น มันไม่มีประโยชน์อันใดเลย ข้าจะให้บทเรียนกับเจ้าว่าวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งนั้นเป็นเช่นไร"

  "ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ"

  "ย้าก!"

  ฉู่เฉิงจี้จุดลงบนร่างกายตนเองอย่างต่อเนื่อง จนมันก็กรีดร้องออกมาเสียงดัง บัดนี้ร่างกายของมันขยายตัวขึ้นเล็กน้อยและดูเหมือนว่าหมัดที่มันปล่อยออกมาก็มีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย

  ผิวหนังเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีม่วง และเส้นโลหิตดำของมันก็ปูดโปนออกมาตามร่างกาย ดูแล้วน่าหวาดผวาไม่น้อย

  "เคล็ดวิชาเสริมกำลัง"

  ฉู่เฟิงชำเลืองมองและรู้ในทันทีว่า ฉู่เฉิงใช้เคล็ดวิชา เสริมกำลังอะไรบางอย่าง

  เคล็ดวิชาที่ว่านี้มิได้เพิ่มระดับวรยุทธ์ที่ผู้ใช้มี แต่มันจะ เสริมให้ร่างกายของผู้ใช้ เคล็ดวิชานี้แข็งแกร่งขึ้น

  หลังจากฝึกปรือไปถึงระดับหนึ่ง ร่างของผู้ฝึกจะประหนึ่งคงกระพัน มิอาจมีสิ่งใดทำอันตรายมันได้ ไม่ว่าจะเป็นกระบี่หรือหอกก็ไม่สามารถทะลวงร่างได้ และร่างกายนั้นจักกลายเป็นศัสตราวุธที่ร้ายกาจ

  เมื่อเห็นความรู้สึกที่มิอาจบรรยายได้บนใบหน้าของ ฉู่เฟิง ฉู่เฉิงก็ยิ่งรู้สึกภาคภูมิใจในตัวมันเอง แม้ว่าความแข็งแกร่งของฉู่เฟิงจะอยู่เหนือความคาดหมายของมัน แต่มันรู้ว่าจุดอ่อนใหญ่หลวงของฉู่เฟิงคือมันยังไม่เคยฝึกเคล็ดวิชาใด ๆ เลย

  เคล็ดวิชาที่ฉู่เฉิงใช้เรียกว่า "กายาเหล็กไหล" เคล็ดวิชา นี้จะทำให้ผู้ใช้อยู่ยงคงกระพันเมื่อโรมรันกับคู่ต่อสู้ที่มีวรยุทธ์ในระดับเดียวกัน ดังนั้นมันจึงมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะล้มฉู่เฟิงลงได้

  "ฉู่เฟิงเจ้าจะคุกเข่าลงและขอขมาข้า หรือ…"

  มิทันที่ฉู่เฉิงจะพูดขาดคำ ร่างของฉู่เฟิงก็เปล่งประกายสว่างวาบแล้วหายไป

  เมื่อฉู่เฟิงปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง มันก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้าฉู่เฉิงแล้ว หมัดที่ทรงพลังขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ใกล้เข้ามาในสายตาของฉู่เฉิง

  เมื่อเห็นว่าฉู่เฟิงกล้าใช้ร่างกายปะทะกับมัน ฉู่เฉิงก็ยิ้มเยาะและปล่อยหมัดเข้าใส่หมัดของฉู่เฟิง

  "แคร้ง"

  เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเมื่อสองหมัดปะทะกัน ราวกับเสียงการพุ่งกระทบกันของเหล็กกล้าก็มิปาน

  แต่เมื่อแลกหมัดกัน ฉู่เฉิงกลับต้องล่าถอยไปถึงสองสามก้าว ความรู้สึกด้านชามิได้ลดลงเลย กลับเพิ่มเติมขึ้นบน กำปั้นข้างที่ปะทะกัน แต่ฉู่เฟิงกลับไม่สะท้านสะเทือนจนต้องขยับแม้แต่น้อย

  "ทำไมร่างกายมันถึงได้แกร่งกล้าปานนี้?"

  ในที่สุดฉู่เฉิงก็เริ่มตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ ด้วยระดับการฝึกปรือวรยุทธ์ของมัน ในเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับเดียว กัน แทบจะไม่มีใครกล้าปะทะกำลังกับมันเลย

  แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่ฉู่เฟิงจะกล้าปะทะกำลังกับมันซึ่ง ๆ หน้า แต่ฉู่เฟิงยังเหมือนจะเหนือกว่ามันอีกด้วย ฉู่เฉิงเริ่มตระหนักแล้วว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่สู้ดีนัก

  "ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ"

  ทันใดนั้น ร่างของฉู่เฟิงก็ปรากฏต่อหน้ามัน พร้อมปรากฏหนึ่งฝ่ามือซัดเข้าใส่ร่างของมัน

  ฉู่เฉิงผู้ซึ่งมีบทเรียนมาแล้วสองครั้งก่อนหน้าจึงมิอาจฝืนรับฝ่ามือนั้นได้ มันกลับเล็งไปที่ข้อมือข้างหนึ่งของฉู่เฟิงจากนั้นก็คว้าจับไว้

  "นี่มัน…"

  ฉู่เฉิงมิอาจมีแม้ห้วงเวลาดีใจ มันพลันต้องตกตะลึงเมื่อพบว่ากรงเล็บของมันคว้าจับได้เพียงอากาศธาตุ และฝ่ามือที่พุ่งเข้าหามันนั้นกลับกลายเป็นเงาหายไปในอากาศ

  "ฟึ่บ"

  "อ๊าก!"

  ในขณะที่มันตะลึงงันอยู่นั่นเอง ฝ่ามืออันดุร้ายและทรงพลังก็ซัดเข้าใส่หน้าอกของมัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม