Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม นิยาย บท 17

สรุปบท บทที่ 17: Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม

สรุปเนื้อหา บทที่ 17 – Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม โดย ShanLiangdeMiFeng

บท บทที่ 17 ของ Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม ในหมวดนิยายMartial เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ShanLiangdeMiFeng อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

  หุบเขาโอสถทิพย์ ถือเป็นดินแดนต้องห้ามสำหรับคนทั่วไป ทั่วทั้งหุบเขามีปราการผนึกป้องกันหลายชั้น

  นอกเสียจากว่าจะมีปีกงอกอยู่กลางหลัง ใครก็ตามที่ต้องการเดินทางเข้าสู่ภายในหุบเขาโอสถทิพย์ล้วนต้องเดินทางผ่านด่านประตูทางเข้า

  และหุบเขาโอสถทิพย์มีด่านประตูทางเข้าด้วยกันแปดด่าน แต่ละด่านจะมีผู้อาวุโสคอยคุ้มกันเอาไว้ มีเพียงฤดูล่าโอสถทิพย์เท่านั้นจึงจะเปิดให้คนภายนอกเข้าไปยังภายในหุบเขาได้

  ทันใดนั้นด่านประตูทางเข้าทั้งแปดก็เปิดออกพร้อมกัน ศิษย์ฝ่ายในที่มีเหรียญตราจะสามารถเข้าไปในหุบเขาได้ และศิษย์นับแสนคนก็หลั่งไหลมาจากทุกทิศทาง

  "หุบเขาโอสถทิพย์เป็นสถานที่ที่แฝงไว้ด้วยความลึกลับ"

  ฉู่เฟิงเดินเตร็ดเตร่ไปทั่วในหุบเขา จนสายตาของมันปะทะเข้ากับต้นไม้ที่กิ่งก้านแผ่ปกคลุมท้องนภา และพุ่มหนาแน่นต้นหนึ่ง

  นับเป็นครั้งแรกที่ฉู่เฟิงเห็นพืชพันธุ์ที่งดงามเช่นนี้ กระทั่งกลิ่นดอกไม้ก็ยังหอมขจรขจาย ฉากที่งามเหมือนโลกสวรรค์สร้างความหลงใหลให้แก่มัน

  ทันใดนั้นฉู่เฟิงก็มองเห็นพืชที่แปลกประหลาดชนิดหนึ่ง "หญ้าทิพย์พสุธา?" มันมีความสูงประมาณห้าชุ่น (หนึ่งชุ่นมีความยาวประมาณหนึ่งนิ้วในหน่วยวัดเมตริก) ต้นสีเขียว มีใบสี่ใบ และมีแสงเรื่อ ๆ ปกคลุมเอาไว้รอบ มันคือโอสถทิพย์ระดับล่างหญ้าทิพย์พสุธานั่นเอง

  "ฟุบ"

  ทว่าก่อนที่ฉู่เฟิงจะขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น หญ้าทิพย์พสุธาก็หดตัวและเตรียมหลบหนี

  "พรึบ"

  เมื่อเห็นดังนั้น ฉู่เฟิงก็กระโจนเข้าไปในทันใด ทว่ามันยังช้าไปหนึ่งก้าว หญ้าทิพย์พสุธาหดตัวลงไปใต้ดินแล้วในตอนที่มันไปถึง

  "เหมือนเจ้าพวกนี้จะมีดวงจิตจริง ๆ สินะ" ฉู่เฟิง หัวเราะแกน ๆ ทว่าฉู่เฟิงไม่ใจร้อน มันยังคงกวาดตามองไปรอบ ๆ

  ฉู่เฟิงรู้ว่าหญ้าทิพย์พสุธานั้นสามารถหลบลี้หนีลงใต้ ดินได้ แต่สักระยะหนึ่ง ยังไงมันจะต้องโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดินอยู่ดี และทิศทางการหลบหนีของพวกมันมักจะเป็นแนวเส้นตรงเสมอ

  ดังนั้น ตราบเท่าที่มันสามารถยืนยันทิศทางการหนีของหญ้าทิพย์พสุธาได้ การจะจับมันให้ได้ด้วยระดับความว่องไวที่ฉู่เฟิงมีอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องยากเย็นนัก

  "พลุบ"

  ทันใดนั้นเอง เกิดแสงสว่างวาบขึ้น หญ้าทิพย์พสุธาโผล่ขึ้นจากพื้นดิน และแน่นอนว่าเป็นต้นเดียวกับที่เพิ่งหลบหนีไปเมื่อครู่นี้

  ทว่าทันทีที่มันโผล่ขึ้นเหนือพื้นดินครานี้ หญ้าทิพย์พสุธาก็หุบตัวและมุดลงใต้ดินเพื่อหลบหนีต่อไปในทันที

  ฉู่เฟิงบังเกิดความดีใจ มันสาวเท้าก้าวยาว จากนั้น กระโดดขึ้นกลางอากาศราวกับกระต่ายเจ้าเล่ห์ มือของมันกางออกคล้ายกรงเล็บอินทรี แล้วคว้าเอาอากาศที่อยู่ตรงหน้า

  “ฉึบ"อย่างที่ฉู่เฟิงคาดเอาไว้ทันทีที่เท้าของมันแตะพื้น หญ้าทิพย์พสุธาก็โผล่ขึ้นมาจากดินอีกครั้ง

  ทว่าครั้งนี้ ฉู่เฟิงว่องไวกว่าและมิปล่อยให้มันมีโอกาสหนีไปอีก อุ้งมือใหญ่ของฉู่เฟิงกำก้านของมันเอาไว้แน่น จาก นั้นก็กระชากมันขึ้นจากดิน

  "อื๊ด"

  เมื่อรากของหญ้าทิพย์พสุธาหลุดพ้นจากพื้นดิน มันเริ่มส่งเสียงดังแสบแก้วหู คลื่นพลังอันรุนแรงที่เกิดจากการดิ้น รนขัดขืนส่งออกมาจากต้นหญ้าอย่างต่อเนื่อง

  ทว่าการดิ้นรนขัดยื้อขัดขืนนั้นดำเนินไปได้อีกเพียงเดียวก่อนที่มันจะอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ ในท้ายที่สุดหญ้าทิพย์พสุธาก็เปล่งแสงวาบออกมาแล้วค่อย ๆ หดตัวลงเหลือขนาดเท่านิ้วมือ

  "ไอ้เจ้านี่มันแปลกจริง ๆ"

  เมื่อโอสถทิพย์หลุดพ้นจากพื้นดิน มันจะสูญเสียดวงจิต และหลังเมื่อไร้ดวงจิตแล้วขนาดของมันจะหดเล็กลง

  นั่นคือเรื่องที่ร่ำลือกันมา ทว่าเมื่อหญ้าทิพย์พสุธาที่มีความยาวราวห้าชุ่นหดตัวลงเหลือเพียงไม่ถึงครึ่งชุ่นนั้น เป็นใครก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ต่อหน้าต่อตา

  "ฮืม"

  เมื่อได้หญ้าทิพย์พสุธามาอยู่ในมือแล้ว ฉู่เฟิงวางมันลง บนฝ่ามือแล้วใช้มืออีกข้างประกบกัน พลังในการดูดซับอันแกร่งกล้าพุ่งขึ้นมาจากจุดตันเถียนของมัน และภายในชั่วพริบตา หญ้าทิพย์พสุธาก็สลายไปในฝ่ามือของมัน

  “เฮ้... หญ้าแค่นี้คงไม่พอให้เจ้าใช้แม้จะอุดช่องว่างระหว่างฟันเลยสินะ"

  ฉู่เฟิงยิ้มอย่างขมขื่น หญ้าทิพย์พสุธาเป็นโอสถทิพย์ระดับล่างและพลังของมันก็ด้อยกว่าหญ้าเซียนทิพย์หลายเท่า ฉู่เฟิงคงต้องใช้หญ้าทิพย์พสุธาปริมาณมหาศาล ถ้ายังคงจะ ใช้มันเพื่อเป็นอาหารให้กับสายฟ้าเก้าสีนั้น

  แต่มันก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด ฉู่เฟิงเดินสำรวจต่อไปและตรงลึกเข้าไปในป่าของหุบเขาโอสถทิพย์

  หุบเขาโอสถทิพย์นั้นแบ่งออกเป็นสามส่วน คือ วงปรา การชั้นใน วงปราการกลาง และวงปราการชั้นนอก

  ในตอนนั้นเอง มีบทสนทนาดังออกมาจากราวป่า และ ฉู่เฟิงพลันรู้สึกได้ว่ามีคนอย่างน้อยสิบคนกำลังเดินใกล้เข้ามา หามัน

  "โอ ดูเหมือนว่าข้ามิใช่คนเดียวที่ผิดหวังในวันนี้สินะ"

  ฉู่เฟิงยักไหล่ ทว่ามันมิได้เงยหน้าขึ้นมอง แต่ยังคงกัดกินอาหารที่อยู่ในมืออย่างเต็มปากเต็มคำต่อไป

  "คุณหนู เจ้าคนนั้นดูเหมือนฉู่เฟิงเลย" และเมื่อได้ยินเสียงที่แสดงความประหลาดในแกมเย้ยหยัน ฉู่เฟิงก็รู้ในทันทีว่ามันเจอคนรู้จักเข้าให้แล้ว

  มันเงยหน้าขึ้นมอง เงาร่างทั้งสิบก็กำลังจ้องมองกลับมาที่มันเช่นกัน และใบหน้าเหล่านั้นก็ช่างดูคุ้นตาเสียเหลือเกิน

  สาวน้อยที่เป็นผู้นำกลุ่มนี้มีนามว่า ฉู่เสว่ (หิมะ) นาง อายุอ่อนกว่าฉู่เฟิงหนึ่งปี และนับว่านางเป็นลูกพี่ลูกน้องของมัน

  แม้ฉู่เสว่จะงดงามหยดย้อยเหมือนฉู่เยว่ ทว่านางกลับมีสองสามจุดที่โดดเด่นยิ่งกว่า โดยเฉพาะผิวที่ขาวราวหิมะซึ่งเข้ากับนามของนาง

  แต่ถึงกระนั้นนางก็มิมีสิ่งใดต่างจากฉู่เฉิงและฉู่เจิน คือ นางไม่ชอบขี้หน้าฉู่เฟิงตั้งแต่เด็ก และตั้งตัวเป็นศัตรูกับมันตลอดมา

  ด้านหลังของฉู่เสว่ยังปรากฏคนอีกเก้าคน แม้ว่าพวกมันจะแซ่ "ฉู่" เช่นเดียวกัน แต่กล่าวได้ว่าคนเหล่านี้มิได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดกับตระกูลฉู่แต่อย่างใด

  คนเหล่านี้เป็นข้ารับใช้ของตระกูลฉู่ เป็นเพราะว่าพ่อแม่ของพวกมันมีตำแหน่งบางอย่างในตระกูลฉู่ คนเหล่านี้จึงได้เข้าสำนักมังกรครามในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่เรื่องที่น่าขันก็คือ กระทั่งข้ารับใช้เหล่านี้ก็ยังเหยียดหยามฉู่เฟิงเช่นเดียวกัน

  "เจ้าเองรึ ฉู่เฟิง"

  น้ำเสียงที่น่าสะอิดสะเอียนดังขึ้นอีกครั้ง และปรากฏว่าต้นเสียงนั้นคือคนหนุ่มร่างสูงผอมที่ยืนอยู่ข้างฉู่เสว่

  ฉู่เฟิงจำคนผู้นั้นได้ ชื่อของมันคือ ฉู่เกา และตั้งแต่ยังเล็ก มันมักจะอยู่ข้างกายฉู่เสว่เสมอ ไม่ต่างไปจากเงาของนาง

  สิ่งที่มิอาจมิพูดถึงได้ก็คือเรื่องที่ว่า แม้ฉู่เกาจะเป็นข้ารับใช้ แต่พรสวรรค์ของมันมิอาจเรียกว่าอ่อนด้อย มันเข้าสำ นักมังกรครามมาพร้อมกับฉู่เสว่ และตอนนี้มันยังมีพลังทิพย์ยุทธ์ห้วงที่สี่แล้วเช่นกัน

  ในกลุ่มของฉู่เยว่ ฉู่เกาดูเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุด ดังนั้นมันจึงเป็นกำลังหลักของกลุ่มอย่างเห็นได้ ชัดเจน

  ทว่าฉู่เฟิงกลับรู้สึกว่าฉู่เกาผู้นี้มิอาจเชื่อถือแต่อย่างใด เพราะวัดจากการที่มันพาฉู่เสว่และสมาชิกคนอื่น ๆ มาที่วง ปราการกลาง ก็บอกได้เลยว่ามันเป็นคนประเภทที่ทำอะไรเกินกำลังของตน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม