Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม นิยาย บท 19

สรุปบท บทที่ 19: Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม

อ่านสรุป บทที่ 19 จาก Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม โดย ShanLiangdeMiFeng

บทที่ บทที่ 19 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายMartial Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ShanLiangdeMiFeng อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

  "รีบไสหัวไป แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้าสักครา"

  พันธมิตรกระบี่คนนั้น จรดปลายกระบี่ไปที่ฉู่เกาและพรรคพวก เสียงของมันสื่อเจตนาฆ่าฟันอย่างชัดเจน

  เมื่อพลพรรคตระกูลฉู่ประสบกับการขู่เข็ญ พวกมันบังเกิดความรู้สึกตื่นกลัวขึ้นมาโดยพร้อมเพรียง พวกมันบางคนถึงขั้นเริ่มถอยหลังหาทางหนี

  แม้ว่าฉู่เสว่จะมีฐานะเป็นนายของพวกมัน และพวกมันจะรู้สึกภักดีต่อตระกูลฉู่ขนาดไหน แต่ตัวเลือกที่ปรากฏขึ้นในความคิดของพวกมันล้วนเรียบง่าย นั่นคือต้องเอาชีวิตของตัวเองให้รอดก่อน

  "พวกเจ้า..." ฉู่เสว่เกิดรสขมปร่าที่อธิบายเป็นคำพูดออกมาไม่ได้ขึ้นในจิตใจ เมื่อนางเห็นข้ารับใช้ที่ล้วนเติบโตขึ้นมาด้วยกัน กำลังจะละทิ้งนาง เหล่าคนที่คอยอยู่ข้างกายรับฟังคำสั่งของนางตลอดมา

  นางอยากที่จะกรีดร้องใส่พวกมัน แต่นางก็รู้ว่ามันจะ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดขึ้น เพราะนางกรีดร้องมาตลอดตั้งแต่ประสบเหตุการณ์

  ในสำนักมังกรคราม นางไร้ซึ่งอิทธิพลและมีอำนาจใด ๆ โดยเฉพาะกับเหล่าคนที่นางไม่อาจขัดขืนพวกนี้ได้ นางได้แต่คิดว่าคราวนี้นางคงมิพ้นต้องมลทิน นางจะยอมกล้ำกลืนฝืนทนโดยเพื่อกับชีวิตของนางที่จะได้คงอยู่ต่อไป

  "ฟึบ ฟึบ ฟึบ"

  ยามที่ความหวังของฉู่เสว่หมดสิ้น เงาดำเงาหนึ่งโจน ทะยานออกมาจากชายป่าราวกับอสูรกาย และตกลงอยู่เบื้องหน้าของนาง

  "ปึง ปึง ปึง"

  หลังจากที่เงานั้นสัมผัสพื้นดิน มันก็พุ่งเข้าโจมตีด้วยความเร็วดุจอัสนีทะยาน เงาร่างของฝ่ามือปรากฏขึ้นนับไม่ถ้วน เงาเหล่านั้นล้วนแฝงด้วยจิตสังหาร และพุ่งตรงสู่พันธ มิตรกระบี่ทั้งสาม

  "ฟึบ ฟึบ ฟึบ"

  สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความประหลาดใจให้เหล่าพันธมิตรกระบี่ทั้งสามยิ่งนัก พวกมันเปลี่ยนท่าทางโดยพลัน โดยใช้ปลายนิ้วโป้งเท้าจิกพื้นเพื่อลอยตัวถอยหลัง

  พวกมันเพ่งมองมองไปทิศทางของการโจมตี และก็ต้องประหลาดใจเพราะเจ้าของการโจมตีนั้นยังเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง

  แต่คนที่ประหลาดใจที่สุดในเวลานี้คือฉู่เสว่ นางไม่คาดคิดมาก่อนว่าเหล่าพลพรรคที่นางเชื่อใจที่สุดจะทอดทิ้งนาง แต่คนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของนางโดยไม่สนภัยอันตรายใด ๆ กลับกลายเป็นฉู่เฟิง

  "เจ้าเป็นใคร? เจ้ากล้าขัดขวางพวกข้างั้นหรือ?" พันธมิตรกระบี่ที่ใบหน้ามีร่องรอยของฝีหนองตะโกนถามฉู่เฟิงอย่างเกรี้ยวกราด

  "พวกเจ้าไม่มีบุญพอที่จะรู้ชื่อของข้าหรอก แต่เจ้าจงเรียกข้าว่าความยุติธรรม" ฉู่เฟิงยิ้มที่มุมปาก

  "ความยุติธรรม ฮึ ๆ" ชายหน้าฝีสะบัดกระบี่ในมือของ มันเข้าใส่ฉู่เฟิง ปรากฏลมกระบี่นับไม่ถ้วนพุ่งตรงไปทางมัน

  เมื่อเห็นการโจมตีพุ่งมา ฉู่เฟิงพลิกฝ่ามือของมันออกไป มวลพลังอบอุ่นผลักฉู่เสว่ให้ออกไปพ้นจากขอบเขตการโจมตี

  หลังจากนั้น มันรีบพุ่งหลบการโจมตี แล้ววิ่งตรงเข้าไป หาชายหน้าฝีพร้อมออกฝ่ามือมายาสวนกลับไปหนึ่งฝ่ามือ

  "ตัวบัดซบ ช่างรนหาที่นัก"

  พอพลพรรคแห่งพันธมิตรกระบี่ที่เหลือเห็นฉู่เฟิงกล้าที่จะตอบโต้สวมกลับมา พวกมันจึงรีบชักกระบี่ออกมาจาก

  เบื้องหลัง แล้วทิ่มแทงฉู่เฟิงด้วยวรยุทธ์กระบี่ที่แปลกประหลาด

  "ฟึบ ฟึบ ฟึบ"

  ไม่เพียงฉู่เฟิงไม่หลบการโจมตี แต่มันกลับเปลี่ยนวิธีการโจมตีของมัน ฝ่ามือมายาสามฝ่ามือปรากฏขึ้นทำให้กระบี่ทั้งสามเล่มปะทะกันเอง

  "เคร้ง เคร้ง เคร้ง"

  ปรากฏเสียงดังก้องกังวานขึ้นโดยพลัน มันทั้งสามกระโดดถอยหลังออกมาแทบจะพร้อมกัน ที่ฝ่ามือของฉู่เฟิงปรากฏความรู้สึกหนึบชา มันขมวดคิ้วและทั่วร่างของมันบัง เกิดความรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา

  มันรู้ดีว่าศัตรูทั้งสามมีพลังในระดับทิพย์ยุทธ์ห้วงที่ห้าและพวกมันก็ยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดที่มี

  พันธมิตรกระบี่ทั้งสามขมวดคิ้วเข้าหากันเช่นกัน พวกมันรู้ว่าฉู่เฟิงมีพลังแค่ทิพย์ยุทธ์ห้วงที่สี่

  แต่เจ้าเด็กเมื่อวานซืนที่มีพลังแค่ทิพย์ยุทธ์ห้วงที่สี่คน นี้กลับกระแทกพวกมันทั้งสามให้ถอยหลังจากการปะทะออก มาพร้อม ๆ กันได้ พวกมันไม่สามารถประมาทเจ้าเด็กนี่ได้เลย

  "เจ้าหนุ่ม เราล้วนต่างเป็นคนแปลกหน้า เจ้ามิจำเป็นต้องตั้งตนเป็นอริกับพันธมิตรกระบี่เพื่อคนที่เจ้าไม่รู้จักเลย"

  "มิผิด พวกข้าเห็นว่าเจ้ามีความสามารถ หากเจ้ามิโง่งมจนเกินไป เราล้วนสามารถแนะนำเจ้าเข้าสู่พันธมิตรกระบี่ ได้ รับรองได้ว่าเจ้าต้องมีอนาคตที่รุ่งโรจน์แน่นอน" เมื่อพวกมันเห็นว่าการลงมือกับฉู่เฟิงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดาย จึงคิดที่จะ รวบหัวรวบหางฉู่เฟิงมาเป็นพวกเดียวกัน

  ทันใดนั้นร่างกายบอบบางของฉู่เสว่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากสั่นเทิ้ม และน้ำตาใสก็หลั่งรินออกมาจากหางตาทั้งสองข้างของนาง หลังจากเอ่ยคำว่า 'ขอบคุณ' นางก็รีบเร้นกายหายเข้าไปในป่า

  "บัดซบ เจ้ามาขวางโอกาสทองของพวกข้า วันนี้เจ้าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแน่นอน"

  เมื่อเห็นเนื้อชิ้นงามหลุดลอยออกไปจากปากของพวกมัน พันธมิตรกระบี่ทั้งสามล้วนรู้สึกเหมือนถูกเผาไหม้ด้วยไฟ

  แห่งความโกรธา ครานี้ทุกปลายกระบี่ของพวกมันล้วนตั้งเป้าไปที่จุดสำคัญบนร่างกายของฉู่เฟิง พวกมันต้องการชีวิตของ ฉู่เฟิง

  "มาดูกันว่าเจ้าแข็งแกร่งแค่ไหน"

  แม้ใบหน้าของฉู่เฟิงจะแสดงว่ามันรับมือทั้งสามได้ แต่ จริงๆ แล้วมันกลับรู้สึกถึงความความกดดัน การเผชิญหน้ากับ ศัตรูสามคนที่ระดับฝีมือเหนือกว่ามัน ก็ตึงมือของมันจริง ๆ

  แม้ว่าทั้งสามจะไม่ใช่ยอดยุทธ์ที่โดดเด่นแต่ก็ไม่ได้แปล ว่ากระบี่ในมือของพวกมันไม่แข็งแกร่ง วรยุทธ์ที่พวกมันฝึกปรือยิ่งทำให้กระบี่ที่มันถือแหลมคมจนถึงที่สุด และยิ่งทั้งสามประสานกัน ฉู่เฟิงก็รับมือได้อย่างยากเย็น

  แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ฉู่เฟิงยังไม่อยากเปิดเผยวรยุทธ์เคล็ดวิชาสามอัสนีบาตผสานของมันแก่ใคร มันจึงตัดสินใจที่จะถอนตัวออกมาจากการต่อสู้

  "ฟึบ ฟึบ ฟึบ"

  เมื่อมันคิดได้ดังนั้น ฉู่เฟิงจึงออกท่าลวง แล้วกระโดดขึ้นไปกลางอากาศประดุจสายฟ้า เพื่อรอดพ้นจากวงล้อมของสามพันธมิตรกระบี่

  "เจ้าสามสวะ มาลองกันสักตั้งว่าเจ้าจะจับข้าได้หรือไม่" หลังจากที่กระโดดหนีออกจากวงล้อม ใบหน้าของมัน

  แขวนไว้ด้วยรอยยิ้ม และวาจาพูดเหน็บแนม จากนั้นก็หายไปในป่าเหมือนวานร

  "มันกำลังจะหนี? พวกเราตาม"

  เมื่อเห็นฉู่เฟิงหนีจากวงล้อมไปได้ ทั้งสามคนจะยอมปล่อยให้มันหลุดมือไปได้อย่างไร? พวกมันรีบตามฉู่เฟิงไปโดยฉับพลัน

  แต่พวกมันก็ยังประเมินความสามารถของฉู่เฟิงต่ำเกินไป แม้พวกมันใช้พลังวิญญาณขั้นสูงสุด และวรยุทธ์ทั้งหมดที่มี มันก็มิอาจไล่ทันฉู่เฟิง ยังมีระยะห่างในการไล่ล่าที่ไม่ลดลงเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม