Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม นิยาย บท 27

สรุปบท บทที่ 27: Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม

สรุปเนื้อหา บทที่ 27 – Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม โดย ShanLiangdeMiFeng

บท บทที่ 27 ของ Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม ในหมวดนิยายMartial เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ShanLiangdeMiFeng อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

  "ฉู่เยว่ ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะเก็บเกี่ยวมาไม่น้อย" เสียงของฉู่เวยแว่วมาจากข้างหลัง มันเดินมาพร้อมกับผู้ติด ตามกลุ่มหนึ่ง

  "โอ้โห... พวกเจ้าไปล่าหญ้าทิพย์นภาหรือนี่ แถมยังล่า มาได้เยอะขนาดนี้"

  เมื่อฉู่เวยเห็นหญ้าทิพย์นภากองโตในอ้อมแขนฉู่เยว่ก็ถึงกับตกตะลึง หญ้าทิพย์นภาหนึ่งต้นเทียบเท่าหญ้าทิพย์ พสุธาถึงยี่สิบต้น ในอ้อมแขนของฉู่เยว่มีหญ้าทิพย์นภาถึงสิบสามต้น มันมีค่ามากกว่าโอสถทิพย์ทั้งหมดที่ฉู่เวยและพรรคพวกล่ามาได้เสียอีก

  "ความจริงไม่ใช่ของพวกข้าหรอก แต่น้องฉู่เฟิงมอบให้ข้า"

  ฉู่เยว่พูดพร้อมกับเก็บโอสถทิพท์ทั้งหมดเข้าไปใน กระเป๋าคาดเอวของตน ทุกคนมองฉู่เยว่เก็บโอสถทิพย์เข้ากระเป๋าตาปริบ ๆ พวกมันทำได้แค่กลืนน้ำลายอย่างอิจฉาตาร้อน โดยเฉพาะสองคนที่เพิ่งจะกล่าวเหน็บแนมฉู่เฟิงไป ทั้งอิจฉาทั้งอับอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี

  การกระทำอันโง่เขลาของพวกมันไม่ต่างกับขอทานที่มี เงินเพียงสลึงเดียว แต่กลับปากดีเยาะเย้ยมหาเศรษฐี ช่างน่าขบขันสิ้นดี

  "เจ้าบอกว่าฉู่เฟิงมอบให้... หรือว่า"

  ฉู่เวยและพวกต่างพากันหน้าเปลี่ยนสี พวกมันเพิ่งเจอฉู่เฟิงเมื่อครู่นี้เอง ถุงของฉู่เฟิงยังบวมเต่งอยู่เลย

  "พี่ใหญ่ฉู่เวย พี่ฉู่เยว่ แย่แล้ว พี่ฉู่เฟิงมัน..."

  ทันใดนั้น ฉู่เสว่และกลุ่มของนางก็วิ่งเข้ามาอย่างรีบ ร้อน แถมยังมีสีหน้าตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด

  "เกิดอะไรขึ้นรึ? โดนฉู่เฟิงรังแกมาหรือเปล่า?"

  เมื่อเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของฉู่เสว่และอาการบาดเจ็บที่ขาของฉู่เกา ชาวตระกูลฉู่ทุกกลุ่มต่างเข้าใจว่าเป็นฝีมือของฉู่เฟิงพวกมันพากันเข้าไปถามไถ่ แต่เมื่อรู้ความจริงจากปากของฉู่เสว่ ทุกคนก็ถึงกับออกอาการเงียบงันอีกครั้ง

  จากคำให้การของฉู่เสว่ เพื่อช่วยเหลือนาง ทำให้ฉู่เฟิง ต้องตกอยู่ในวงล้อมของยอดฝีมือที่มีพลังทิพย์ยุทธ์ห้วงที่ห้าถึงสามคน ตามหลักแล้วฉู่เฟิงน่าจะถูกทำร้ายสาหัส ไม่ตายก็ คงต้องพิการ แต่เมื่อครู่นี้ทุกคนต่างเห็นชัด ๆ ว่า ฉู่เฟิงอยู่ใน สภาพยิ้มแย้มแจ่มใส มันไม่มีอาการบาดเจ็บเลยแม้แต่นิด

  เดียว มันเป็นไปได้อย่างไร? เท่ากับว่าฉู่เฟิงสามารถประมือกับยอดฝีมือทิพย์ยุทธ์ห้วงที่ห้าสามคนโดยที่มันไม่เป็นอะไรเลย

  พวกมันยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะพรึงกลัว ถึงกับไม่กล้าคิดต่อ ว่าแท้จริงแล้ว ฝีมือของฉู่เฟิงจะสูงส่งขนาดไหน

  "พี่ฉู่เยว่ พี่บอกว่าพี่ฉู่เฟิงไม่เป็นไร?" ฉู่เสว่ถามด้วย ความตื่นเต้น ยังคงไม่อาจทำใจเชื่อได้

  "อืม มันไม่เป็นไรจริง ๆ พวกข้าเพิ่งจะแยกกับมันเมื่อครู่นี้เอง" ฉู่เยว่พยักหน้า

  "ดีจังเลย พี่ฉู่เฟิงไม่เป็นไร... ฮือ" ฉู่เสว่ถึงกับกลั้นน้ำตา ไม่อยู่ ปล่อยโฮโผเข้าไปกอดฉู่เยว่

  "พี่ฉู่เยว่ ข้าผิดไปแล้ว และพวกเราทุกคนก็ผิดด้วย พี่พูดถูก ความจริงพี่ฉู่เฟิงคือผู้กล้าของตระกูลฉู่ที่แท้จริง เราควรจะดีกับเขา ถ้าวันนี้ไม่ได้เขาช่วย ข้าคง... ฮือ"

  ฉู่เยว่รู้สึกโล่งอกที่เห็นญาติผู้น้องรู้จักเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อฉู่เฟิงเสียที

  "พวกเราคงมองฉู่เฟิงผิดไปจริง ๆ"

  แม้แต่ฉู่เวยก็ยังรู้สึกละอายใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะ ไม่อาจปฏิเสธความจริงที่ฉู่เสว่ยืนยัน ต่อไปนี้ควรมองฉู่เฟิงเสียใหม่

  ในขณะที่บรรดาศิษย์ที่เข้าร่วมการล่าโอสถทิพย์กำลังถอนกำลังจากหุบเขาโอสถทิพย์ กลุ่มคนที่ประกอบด้วยเหล่าผู้อาวุโสกลับกำลังมุ่งหน้าสู่ใจกลางของเขาโอสถทิพย์ ซูโหรว ผู้พิทักษ์หอคัมภีร์ และผู้อาวุโสฝ่ายในอื่น ๆ มากันพร้อมหน้า พวกเขากำลังสำรวจร่างไร้วิญญาณของศิษย์สามคนที่อยู่เบื้องหน้า สีหน้าเคร่งเครียด แม้อาวุโสเหล่านี้ต่างมีสถานะสูงส่ง แต่ยามนี้พวกเขากลับไม่ได้อยู่ในฐานะที่ให้ความเห็นใด ๆ ได้ เพราะข้างศพทั้งสามศพนั้น บุคคลในชุดคลุมสีขาวกำลังตรวจดูอย่างตั้งใจ

  ดูเหมือนว่าแม้แต่เหล่าผู้อาวุโสก็ยังต้องยำเกรงคนผู้นี้ ชุดคลุมสีขาวของเขาดูไม่ธรรมดา เต็มไปด้วยลวดลายคล้ายคาถาอาคมและยันต์เวทมนต์ต่าง ๆ แถมยังปกปิดทั้งใบหน้าและนิ้วมือไว้

  "จริงสิ พันธมิตรแห่งปีกได้เชิญไอ้หนุ่มคนนั้นหรือยัง?"

  "โอ้ย อย่าให้พูดเลย ยิ่งพูดยิ่งปวดหัว ข้าได้ข่าวจาก ซูเหม่ยว่ามันปฏิเสธคำเชิญเรียบร้อยแล้ว" พูดถึงฉู่เฟิง ซูโหรว ถึงกับต้องถอนหายใจยาวอีกครั้ง

  "งั้นรึ?" ผู้อาวุโสโอวหยางนิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะ หัวเราะเบา ๆ

  "ไอ้หนุ่มคนนี้มันพิลึกดีแท้"

  เมื่อฉู่เฟิงกลับถึงเรือนพัก สิ่งแรกที่มันอยากจะทำคือแช่น้ำสบาย ๆ สักชั่วยามเพื่อผ่อนคลาย มันถอดชุดออกและกำลังจะก้าวลงไปในอ่าง ทันใดนั้นสีหน้าของมันก็เปลี่ยนไป

  "นี่มัน... อะไรกัน?"

  เมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏบนหน้าอกของตน ฉู่เฟิงถึงกับต้อง อุทานเสียงหลง ลวดลายประหลาดปรากฏอยู่กลางอกของ มันและแผ่ออกไปทั่วร่าง เมื่อเพ่งมองรายละเอียดของลวด ลายพบว่าคล้ายกับอักขระเวทมนต์คาถานับไม่ถ้วนเกาะเกี่ยวพัวพันกันอยู่ คาถาแต่ละชุดกำลังคล้อยเคลื่อนไปตามผิวหนังของมันอย่างช้า ๆ ราวกับมีชีวิต

  ฉู่เฟิงพยายามใช้มือขัดถูกไปตามลำตัว เพื่อทดลองลบลวดลายเหล่านั้นทิ้งไป แต่กลับไม่เป็นผล ดูเหมือนว่าลวดลายเหล่านั้นได้ซึมลึกเป็นเนื้อเดียวกับผิวหนังไปแล้ว เมื่อแน่ ใจว่าไม่อาจทำอะไรได้

  ฉู่เฟิงได้แต่ครุ่นคิดด้วยความว้าวุ่นใจ "เห็นที คำสาปสุสานหมื่นอัฐิยังคงฝังอยู่ในร่างข้าเป็นแน่"

  ทันใดนั้น ฉู่เฟิงก็ยิ้มออกราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ ความจริงไม่ว่าของประหลาดที่พัวพันบนร่างกายจะดีหรือร้าย มันก็ ไม่อาจปฏิเสธสิ่งนี้ได้ ทุกอย่างสวรรค์คงลิขิตไว้แล้ว ถือเสียว่าเป็นของที่ระลึกที่ได้จากสุสานหมื่นอัฐิก็แล้วกัน

  ถึงคิดมากก็ป่วยการ นึกถึงตรงนี้ฉู่เฟิงก็ไม่รู้สึกต้อง กังวลอะไรอีก มันก้าวลงไปในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม