Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม นิยาย บท 28

  เวลาผ่านไป อย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ผ่านไป หลายวัน ระยะนี้ฉู่เฟิงไม่ก้าวออกจากเรือนพักเลย ในทุกๆ วัน

  นอกจาก มันพยายามศึกษากระบวนท่าที่สามของเคล็ดวิชาสามอัสนีบาต เวลาที่เหลือของมันหมดไปกับการดูด ซึมโอสถทิพย์

  เพียงเวลาไม่กี่วัน ฉู่เฟิงก็สามารถดูดซึมโอสถทิพย์จน หมดสิ้น จากมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยโอสถทิพย์กลับกลายเป็นยาจกเฉกเช่นเดิม ทว่ายังดีที่พลังจากโอสถทิพย์มิได้สูญเปล่า ช่วยเติมเต็มชีพจรตันเถียนอีกครั้ง คาดว่าถ้ามีไข่มุกทิพย์อีกสักเม็ด มันก็สามารถบรรลุไปได้อีกขั้นหนึ่ง

  ทว่าฤดูล่าโอสถทิพย์มีเพียงปีละครั้งเท่านั้น แถมไข่มุกทิพย์เป็นโอสถทิพย์ชั้นสูงสุดที่หามิได้ง่าย ๆ ครั้งนี้ถ้าไม่ใช่เพราะซูเหม่ย มันก็คงไม่โชคดีขนาดนี้ เพราะฉะนั้นฉู่เฟิงจึงตระหนักดีว่าการบรรลุสู่ขั้นต่อไปไม่ใช่เรื่องง่าย

  การประชุมประจำตระกูลฉู่กำลังจะมาถึงอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง คนคุ้นเคยสามคนก็มาเยือนถึงเรือนพัก

  "ท่านพี่ฉู่เยว่ ท่านพี่ฉู่เวย ฉู่เสว่?"

  ฉู่เฟิงรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย ลำพังท่านพี่ฉู่เยว่ไม่น่าแปลกอะไร แต่ครั้งนี้แม้แต่ฉู่เสว่และฉู่เวยก็มาด้วย

  "น้องฉู่เฟิง การประชุมประจำตระกูลฉู่กำลังจะมาถึงแล้ว เจ้ากลับไปด้วยกันกับพวกข้าเถอะ" ฉู่เยว่ยิ้มแย้มแจ่มใส

  "อ๋อ" ฉู่เฟิงสบตาฉู่เสว่และฉู่เวยเล็กน้อย รู้สึกลังเล

  "ท่านพี่ฉู่เฟิง กลับไปด้วยกันนะ ทุกคนรอพี่อยู่" ฉู่เสว่เป็นฝ่ายเริ่มชวนคุย นอกจากแววตาที่มีความจริงใจแล้ว ฉู่เฟิงยังรู้สึกถึงความสำนึกผิดของนาง

  "ฉู่เฟิง เมื่อก่อนเราเคยมีเรื่องบาดหมางกันมากมาย แต่อย่างไรเสีย เราก็เป็นคนตระกูลฉู่ หวังว่าเจ้าจะไม่ถือโทษโกรธเคือง" ฉู่เวยแม้ไม่ได้กล่าวคำขอโทษแบบตรงไปตรงมา แต่อย่างน้อยก็เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด

  ฉู่เฟิงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปาก "ก็ได้"

  ความจริงฉู่เฟิงไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นอยู่แล้ว มิฉะนั้นมันคงไม่ออกตัวช่วยฉู่เสว่ ที่สำคัญมันมีแผนจะกลับตระกูลฉู่อยู่พอดี อย่างน้อยมีเพื่อนร่วมทาง มีฉู่เย่วเป็นเพื่อนคุย ย่อมดีอยู่แล้ว

  หน้าประตูใหญ่ของสำนักมังกรคราม ชาวตระกูลฉู่ทุกคนต่างยืนรอฉู่เฟิงอยู่ สายตาของพวกมันเปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ใช่สายตาที่ดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างเมื่อก่อน เปลี่ยนเป็นสายตาที่มีความยำเกรงผสมกับความละอายใจ

  แม้ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด แต่ทุกคนต่างรู้อยู่แก่ใจ เพชฌฆาตลึกลับที่สามารถสังหารสัตว์อสูรถึงสี่สิบตัวในคราเดียว ต้องเป็นฉู่เฟิงอย่างแน่นอน และมันคือคนที่พันธมิตรแห่งปีกพยายามชักชวนเข้ากลุ่ม เมื่อเป็นเช่นนี้ ใครเล่าจะกล้าดูแคลนมันอีก

  ฉู่เฟิงไม่ได้แสดงออกใด ๆ ต่อท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไป ของทุกคน ที่สุดแล้วมันตระหนักเสมอว่าตัวเองคือหนึ่งในสมาชิกของตระกูลฉู่ การได้อยู่ร่วมกับชาวตระกูลฉู่อย่างปรองดอง เป็นสิ่งที่มันต้องการอยู่แล้ว

  แม้ว่าท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปเกิดจากการที่ทุกคนได้เห็นศักยภาพที่แท้จริงของฉู่เฟิง แต่ก็ไม่เห็นจะต้องคิดมาก โลก ใบนี้มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เป็นธรรมดาที่ผู้เหนือกว่าจะได้รับความเคารพยำเกรง

  พื้นที่ภาคกลางของแคว้นชิงโจว มีตำบลเล็ก ๆ ที่หลังพิงภูเขาอยู่ ชื่อว่าตำบลเค่าซาน (อิงขุนเขา) ตระกูลฉู่คือ ผู้ปกครองของตำบลแห่งนี้ รวมทั้งอาณาเขตในรอบรัศมีหลายสิบลี้ด้วย

  ขบวนม้าของหนุ่มสาวตระกูลฉู่ที่เพิ่งกลับจากงานชุมนุมของสำนักมังกรครามกำลังจะมาถึงหน้าประตูเมือง

  "ดูนั่นสิ เหล่าคุณชายและคุณหนูกลับมาแล้ว"

  "ชุดคลุมสีม่วง แสดงว่าพวกเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นศิษย์ฝ่ายในของสำนักมังกรครามแล้ว สุดยอดไปเลย"

  "จริงด้วย เทียบกับผู้เฒ่าเหล่าหยางของฝั่งตะวันออก บ้านนั้นต้องขายทรัพย์สินเพื่อรวบรวมเงินทอง ส่งเสียลูกหลานเข้าสำนักมังกรคราม แต่ที่ไหนได้ ผ่านไปสิบปี แต่ละคน เพิ่งจะบรรลุห้วงที่หนึ่งเท่านั้น สู้คุณชายและคุณหนูของตระกูลฉู่เรามิได้แม้แต่น้อย"

  "มันก็ไม่ใช่ทุกคนหรอก ข้าเคยรู้มาว่าตระกูลฉู่เราก็มีคนไม่เอาไหนคนหนึ่งชื่อฉู่เฟิง รายนั้นเป็นได้แค่ศิษย์ฝ่ายนอก ไม่เคยมีผลงานอะไรเลย และไม่กลับบ้านหลายปีแล้ว คงจะอับอายละมั้ง"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม