สรุปตอน บทที่ 8 – จากเรื่อง Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม โดย ShanLiangdeMiFeng
ตอน บทที่ 8 ของนิยายMartialเรื่องดัง Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม โดยนักเขียน ShanLiangdeMiFeng เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
“พันธมิตรแห่งปีก นั้นแทบจะไม่เปิดรับ สมาชิกใหม่เลย ทว่าเมื่อใดที่พวกมันเปิดรับ สมาชิกที่ถูกคัดเลือกเข้ากลุ่มนั้น ล้วนไม่ต่างอะไรกับมังกรในร่างมนุษย์"
"แม้ว่าพันธมิตรแห่งปีกจะมีสมาชิกเพียงสามสิบคนแต่ ภายในสำนักฝ่ายในล้วนแล้วรู้จักพวกมัน"
"นอกจากนี้พวกมันยังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดูแลกันและกันประดุจดั่งเป็นแขนขาของกันและกัน หากใครก็กล้าเป็นปฏิปักษ์กับสมาชิกของพันธมิตรแห่งปีก ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นใคร ล้วนจะต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสม"
"สองปีที่แล้ว สำนักระดับสามในมณฑลมังกรครามแห่งหนึ่งได้ทำร้ายหนึ่งในสมาชิกของพันธมิตรแห่งปีก พันธ มิตรแห่งปีกจึงกวาดล้างสำนักนั้นจนสิ้นซาก"
"แข็งแกร่งถึงปานนั้นรึ?" เมื่อฟังเรื่องราวมาถึงจุดนี้ ฉู่เฟิงรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก แม้ว่าสำนักระดับสามมิอาจเทียบชั้นกับสำนักมังกรครามได้ แต่พวกมันก็มีอำนาจอยู่ไม่น้อย การที่สามารถกำจัดสำนักระดับสามได้นั้น หมายความว่าพันธมิตรแห่งปีกนั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก
"แม้ว่าผู้ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรโลกาและพันธมิตรกระบี่จะไร้เทียมทานเพียงใด แต่เมื่อเทียบกับผู้ก่อตั้งพันธมิตรแห่งปีกแล้วละก็ยังห่างชั้นกันอีกมาก"
"ตามที่ร่ำลือกันมา ผู้ก่อตั้งพันธมิตรแห่งปีกเข้ามาเป็นศิษย์ฝ่ายในตั้งแต่อายุประมาณสิบเอ็ดปี และกลายเป็นศิษย์แถวหน้าตอนอายุสิบสี่ปี จากนั้นมันก็กลายเป็นศิษย์อันดับหนึ่งของสำนักมังกรครามตอนอายุเพียงสิบหกปีเท่านั้น
“น่าเศร้าที่มันอยู่ในสำนักมังกรครามเพียงไม่นาน ในปีที่มันอายุสิบหกปี มันไปจากที่นี่และมิมีผู้ใดรู้ว่าพบเห็นมันอีกตลอดกาล" เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ผู้เป็นน้องดูโศกเศร้ายิ่งนัก
"ท่านผู้นั้นมีนามว่าอะไรรึ?" ฉู่เฟิงยิ่งรู้สึกอัศจรรย์ใจมากยิ่งขึ้น ศิษย์แถวหน้าล้วนแต่เป็นบุคคลที่มีความสำคัญในสำนักมังกรคราม และในบรรดาพวกมันทุกคนล้วนแต่เป็นคนที่มีวรยุทธ์สูงส่งทั้งสิ้น
ทว่าผู้ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรแห่งปีก กลับแข็งแกร่งกว่าบรรดาศิษย์แถวหน้าคนอื่น ๆ ทั้งที่วัยเพียงสิบหกปีเท่านั้น คนผู้นั้นเก่งกาจเยี่ยงนั้นได้อย่างไรกัน?
"ชื่อของมันคือจางเทียนอี่" ผู้เป็นน้องชายเอ่ยนามขึ้นมาในคราวเดียว
"จางเทียนอี่" ฉู่เฟิงจดจำชื่อคนผู้นั้น เพราะมันมีคุณสมบัติที่ควรค่าแก่การจดจำมากยิ่งนัก
"ถูกแล้ว ข้าได้ยินมาว่าผู้อาวุโสซูโหรวโฉมงามก็เป็นสมาชิกพันธมิตรแห่งปีกเช่นเดียวกัน และนางก็เป็นหนึ่งในบรรดาศิษย์แถวหน้าที่แข็งแกร่งอีกด้วย"
"นอกจากผู้อาวุโสซูโหรวแล้วยังมีศิษย์ฝ่ายในแถวหน้า อีกหลายคนที่เป็นสมาชิกพันธมิตรแห่งปีก ฝีมือของพวกมันทุกคนมิได้ด้อยไปกว่าผู้ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรโลกา และพันธ มิตรกระบี่เลย แล้วกลุ่มพันธมิตรแห่งปีกจะไม่แข็งแกร่งได้อย่างไรเล่า?" คนผู้น้องยังคนเล่าต่อ
"ถ้าท่านพูดเช่นนั้น ย่อมหมายความว่าพันธมิตรแห่งปีกแข็งแกร่งยิ่งนัก แล้วสมาชิกกลุ่มนี้มีสัญลักษณ์พิเศษอะไรหรือเปล่า?" ฉู่เฟิงสนใจพันธมิตรแห่งปีกมากยิ่งขึ้น
"เราแทบไม่ค่อยเห็นสมาชิกกลุ่มนี้เท่าไหร่ แต่บนหน้าอกของพวกมันมีสัญลักษณ์เป็นเข็มกลัดตราปีกคู่ประดับอยู่"
ทั้งสามคนพูดคุยกันในขณะที่เดินไปด้วย ในไม่ช้าพวกมันก็มาถึงลานที่คราคร่ำไปด้วยฝูงชนมากมาย นี่คือสถานที่ลงทะเบียนสำหรับฤดูกาลล่าโอสถเซียนทิพย์ในปีนี้
อันที่จริง สิ่งที่เรียกว่าการลงทะเบียนนั้นก็คือการเขียนชื่อลงบนม้วนหนังบนกำแพง จากนั้นก็รับเหรียญโลหะไป ไม่มี ผู้อาวุโสอยู่ที่นี่แม้สักคน
"ศิษย์น้อง ฤดูกาลล่าโอสถเซียนทิพย์จะเริ่มพรุ่งนี้ ดังนั้น ข้ากำลังคิดว่าข้าจะเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรสักกลุ่มและหาที่ซุกหัวนอนเสีย"
"ข้าจะขอชี้แนะเจ้าสักคำ อย่าคิดจะเข้าร่วมกลุ่มพันธ มิตรอย่างพันธมิตรแห่งปีกเป็นอันขาด เพราะระดับพวกเราคงไม่มีแม้กระทั่งโอกาสได้เข้าร่วม"
“ไม่ต้องไปเอ่ยถึงกลุ่มพันธมิตรแห่งปีกหรอก พันธ มิตรโลกากับพันธมิตรกระบี่ก็ไม่ได้เข้าร่วมง่าย ๆ เหมือนกันนั่นแหละ"
"ดังนั้น ถ้าเจ้าต้องการเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตร เจ้าต้องสอดส่องพันธมิตรต่าง ๆ เอาไว้ให้ดี ๆ" หลังจากลงทะเบียนแล้ว สองพี่น้องก็เริ่มหาข้อได้เปรียบจากอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากบทสนทนาอีกครั้ง
"พวกท่านโปรดชี้แนะข้าด้วย" เมื่อเห็นสองพี่น้องเป็นมิตร ฉู่เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกนับถือคนทั้งคู่
"แม้ว่าจะเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรแห่งปีกได้ยากยิ่ง แต่เจ้าก็มิอาจเลือกกลุ่มที่อ่อนแอเช่นกัน ยกตัวอย่างเจ้าไม่ควรเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรที่โอ้อวดว่าตัวเองเก่งลับหลังผู้อื่น กลุ่มพันธมิตรเช่นนั้นจะมิอาจปกป้องเจ้าได้ และเจ้าก็จะถูกรังแกเสียเปล่า ๆ"
"เหมือนเด็กสาวคนนั้นที่กำลังมอบกระดาษเยื่อไผ่ให้ทุกคน แค่เหลือบตามอง เจ้าก็รู้แล้วว่านางมาจากกลุ่มพันธ มิตรที่อ่อนแอ และคนพวกนั้นมาที่นี่เพื่อใช้อุบายเหล่านั้นกับศิษย์ใหม่" พอพูดจบ ผู้เป็นพี่ก็วาดนิ้วมือชี้ไปยังสาวน้อยชุดสีม่วงที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก
เมื่อฉู่เฟิงมองตามไปมันก็ต้องตกตะลึง สาวน้อยชุดม่วงคือฉู่เยว่นั่นเอง
"เยี่ยมไปเลย ตอนนี้ข้ากับเจ้าไปล่าโอสถทิพย์พวกนั้นด้วยกันได้แล้วสิ ข้าจะบอกให้การล่าโอสถทิพย์น่ะ แท้จริงคือสนามประลองปัญญาและความกล้าหาญ น่าสนใจใช่ไหมล่ะ" ในตอนที่พูดถึงการล่าโอสถเซียนทิพย์ ฉู่เยว่ดูเหมือนตั้งตารอให้ถึงเวลานั้นจริง ๆ
"ฉู่เฟิง ตอนนี้ข้ายุ่งอยู่ แต่คืนนี้เจ้ามาพบข้านะ ข้ามีบางอย่างจะบอกเจ้า ดังนั้นเจ้าต้องมาหาข้านะคืนนี้"
ฉู่เยว่มองเห็นศิษย์ใหม่เดินผ่านไปพอดี ดังนั้นนางจึงรีบยัดกระดาษเยื่อไผ่ใส่มือฉู่เฟิง แล้วเดินตามศิษย์คนใหม่นั้นไปทันที พร้อมทั้งพยายามแนะนำกลุ่มพันธมิตรฉู่ให้กับศิษย์ผู้นั้น
เมื่อเห็นฉู่เยว่ยืนกรานจะทำเช่นนั้น ฉู่เฟิงก็ไม่รบเร้านาง ในกระดาษเยื่อไผ่นั้นระบุเรือนพักของฉู่เยว่เอาไว้
ฉู่เฟิงเดินกลับไปที่ลานแล้วกวาดตามองฝูงชน แล้วพบว่ามีอยู่สองสามคนที่กำลังโฆษณากลุ่มพันธมิตรของตน เช่นที่ฉู่เยว่ทำ
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคนให้ความสนใจอยู่ไม่กี่คน แต่ถ้าไม่ได้โง่เง่าละก็ หากไม่สามารถเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มพันธมิตรที่แข็งแกร่งได้ คนพวกนี้ก็ควรจะเข้าร่วมกลุ่มสมาชิกเล็ก ๆ เช่นนี้แทน
กลุ่มพันธมิตรนั้น มีเพียงฉู่เยว่คนเดียวที่ทำหน้าที่หาสมาชิกใหม่ แม้กระทั่งฉู่เวยซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งก็ยังไม่ปรากฏตัว ดูเหมือนว่ามีเพียงฉู่เยว่เท่านั้นที่นึกถึงตระกูลฉู่อย่างแท้จริง
ยามราตรีคืบคลานมา ฉู่เฟิงเดินทางไปยังเรือนพักของฉู่เยว่ตามที่ได้นัดหมายกันไว้ ส่วนฉู่เยว่นั้นเดินกลับไปกลับมา อยู่นอกห้องพัก และเห็นได้ชัดว่านางกำลังเฝ้ารอใครสักคนอยู่
เมื่อนางเห็นฉู่เฟิง ฉู่เยว่กระโดดเอามื้อไขว้หลังเข้าไปหามัน
แม้ว่าฉู่เยว่จะอายุมากกว่าฉู่เฟิงหนึ่งปี แต่นางยังคงดูอ่อนเยาว์ ไม่ใช่เพียงรูปโฉมที่งดงามเท่านั้น บุคลิกของนางยังสดใสร่าเริงและมีชีวิตชีวาอีกด้วย
ในตระกูลฉู่ กล่าวได้ว่าฉู่เยว่เหมือนคนที่คอยสร้างเสียงหัวเราะ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้อาวุโส ต่างก็ชื่อชอบสาวน้อยตัวเล็กแสนประหลาดผู้นี้กันทั้งนั้น
ตอนที่นางมาหยุดตรงหน้าฉู่เฟิง ฉู่เยว่แบมือและกล่าวกลั้วเสียงหัวเราะว่า "เฮ้ เร็วเข้า มาเอานี่ไป"
ในฝ่ามือของฉู่เยว่คือหญ้าเซียนทิพย์นั่นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม
ไม่ลงต่อหรือครับ...