มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1010

ทว่าหากลองคิดทบทวนดู ด้วยพลังยุทธ์ของหลัวซิวตอนนี้ นอกจากเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ทั้งสี่คนแล้ว จะมีใครอีกที่สามารถทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวได้?

หลัวซิวในทุกวันนี้ ไม่มีทางหวาดเกรงมหาจักรพรรดิยุทธ์ทั่วๆ ไป แดนศักดิ์สิทธิ์ใดที่ไม่มีเทพมารปกครอง ไม่สามารถสร้างความหวาดกลัวให้เขาได้แต่อย่างใด การล่มสลายของตำหนักอัคคีนภาและป่าอู๋ถงที่พังราบเป็นหน้ากองนับว่าเป็นหลักฐานที่ประจักษ์ชัดที่สุด

“บังอาจ คิดว่าในโลกนี้ไม่มีใครสังหารเจ้าได้งั้นหรือ”

น้ำเสียงเย็นชาดังก้องมาจากอนัตตา จากนั้นจิตสังหารก็เข้มข้นไปทั่วทั้งท้องฟ้า ร่างที่มีแสงโลหิตล้อมรอบปกคลุมค่อยๆ ปรากฏออกมาให้เห็น

อนัตตาของแดนตำหนักจื่อถูกฉีกขาดออกอีกครั้ง มีผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานกำลังลงมือและมาเยือนถึงที่นี่

คนผู้นี้มีสังหารเข้มข้น ในโลกแสงดาวหากไม่นับเผ่าปีศาจ ภายในเผ่ามนุษย์ก็มีเพียงผู้แข็งแกร่งของแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดเท่านั้นที่สามารถผนึกรวมไอสังหารที่เข้มข้นขนาดนี้ได้

“เทพศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด?” หลัวซิวยิ้มเย็น “เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถสังหารข้าได้หรือ”

“ผู้น้อยจอมจองหอง ต่อให้เจ้าเคยต่อสู้กับจักรพรรดิหงส์มาแล้ว แต่การฝึกตนของเจ้าก็อยู่ในแดนเจ้ายุทธจักรเท่านั้น ข้าสามารถจัดการเจ้าได้ง่ายๆ”

เทพศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดหัวเราะเย็น ในแววตาของเขาปรากฏไอสังหารเข้มข้น “วันนี้ข้าจะต้องแสดงให้เจ้าได้เห็นว่าผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ช่วงปลายนั้นห่างชั้นจากมดตัวเล็กๆ อย่างเจ้ามากนัก!”

ความแค้นระหว่างหลัวซิวกับเทพศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดนั้นบาดลึก ผู้สืบทอดที่โดดเด่นที่สุดในแดนศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ตายเพราะน้ำมือของหลัวซิว

ไอสังหารรอบตัวของเทพศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดแผ่กว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ไอสังหารสีเลือดกลายเป็นมหาสมุทรที่ผนึกรวมเลือดสดๆ เอาไว้

เขายกมือขึ้นโบก ดาบโลหิตที่ผนึกรวมขึ้นจากไอสังหารเล่มหนึ่งปรากฏขึ้น อนัตตาถูกดาบฉีกขาด อานุภาพของเขาแข็งแกร่งอย่างมาก

ความเร็วของดาบเล่มนี้ราวสายฟ้าฟาด บวกกับกฎของการสังหารเดิมก็คือเชี่ยวชาญในการสังหาร อานุภาพการโจมตีของเขาย่อมแข็งแกร่งกว่าพลังแห่งกฎทั่วไปมากนัก

ทว่าแสงดาบโลหิตที่ยาวมากกว่าสิบลี้กลับถูกหลัวซิวยกมือขึ้นชี้แล้วหักกลางท่อนกลางท้องฟ้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ