มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1011

ตอนนี้หลัวซิวยังไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงของตัวเองทั้งหมดออกมาด้วยซ้ำ ตอนนี้เขาทำตัวเหมือนแมวที่หยอกหนูเล่น และมองเทพศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดด้วยสายตาเวทนา

“ทุกคนช่วยข้าสังหารเข้าเดี๋ยวนี้!”

เทพศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือดตะโกนเพื่อเรียกมหาจักรพรรดิยุทธ์ที่เหลืออีกห้าคนร่วมลงมือไปพร้อมๆ กันเพื่อสังหารหลัวซิว

เพราะจอมยุทธ์ระดับการฝึกตนที่แตกต่างกันหลายพันคนนั้นมีทั้งมีความสามารถและไร้ความสามารถผสมปนเปกัน จึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเขาได้

“อยากเล่นแบบหมาหมู่หรือ”

สีหน้าและท่าทางของหลัวซิวแน่วแน่ไม่หวั่นไหว แม้ต้องเผชิญการปิดล้อมของมหาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งหกคน

เขายกมือขึ้นกวาด วิญญาณของเทพมารอัสนีถูกเขาเรียกตัวมา หลังจากนั้นจึงเกิดเสียงคำรามและสายฟ้ามรณะก็พุ่งไปข้างหน้า

เนื่องจากหลังจากที่เสียชีวิตไปแล้วถูกเรียกตัวไปเป็นภูตมรณะ ทำให้พลังของเทพมารอัสนีลดลงไปถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ แต่ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของเทพมารยังคงอยู่อย่างสมบูรณ์แบบเหมือนก่อน สมบัติวิเศษของของมหาจักรพรรดิยุทธ์ที่พุ่งโจมตีเข้าใส่ร่างของเขาล้วนกระเด็นออก ไม่สามารถอันตรายใดๆ แก่เขาได้

เขากลับไม่ได้ปล่อยเทพมารอสูรเหยี่ยวทองออกมา มิเช่นนั้นแล้วอาจจะทำให้ผู้แข็งแกร่งเทพมารของเผ่าเผ่าพันธุ์มารสงสัยเอาได้

“อ๊ากก!......”

เกิดเสียงร้องขึ้นดังอย่างน่าสยดสยอง มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นปฐมภูมิของสำนักฟ้าดินรายหนึ่งไม่สามารถรับมือเทพมารอัสนีได้ ร่างของเขาถูกฉีกขาดออกเป็นสองท่อน เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วท้องฟ้า

เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ทุกคนต่างพากันสูดหายใจเข้า เพราะภาพเหตุการณ์เช่นนี้ดูแล้วน่าอนาจใจนัก เขาเป็นถึงผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์แต่กลับถูกฉีกออกเป็นสองท่อน

สิ่งที่ทำให้รู้สึกน่าสยดสยองยิ่งกว่านั้นคือพลังของหลัวซิว เดิมทีร่างกายของเขาก็นับว่าแข็งแกร่งมากแล้ว แถมตอนนี้ยังสามารถเรียกใช้ภูตมรณะของเทพมารได้อีก ภูตมรณะชนิดนี้สามารถเทียบเท่าได้กับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นปลาย

“ใครที่ทำลายคนสำนักไท่เสวียนของข้า ไม่ว่าจะหนีไปไกลแค่ไหนข้าก็จะต้องแก้แค้น!”

หลัวซิวตวาดลั่น เขาแสดงอานุภาพของค่ายกลระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 ที่เขาวางเอาไว้ก่อนหน้านี้ เลือดหมุนวนอยู่กลางท้องฟ้า จอมยุทธ์ที่หลายพันคนที่ทุกกองกำลังพามา ระเบิดกลายเป็นไอโลหิตและสิ้นใจทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ