แต่ทว่าความยากในการกลั่นยามังกรเทพอเวจีก็มีมากกว่ายาเอี๊ยงอัมภรทองเช่นกัน หลัวซิวเพิ่งบรรลุถึงนักยาเซียนระดับ 1 เขาก็ไม่มั่นใจเช่นกันว่าตนจะสามารถกลั่นมันออกมาได้อย่างแน่นอนหรือเปล่า อย่างไรเสียวิชาร่ายทิพย์ที่เขาอนุมานขึ้นมายังไม่สมบูรณ์แบบมากนัก ยังมีโอกาสที่จะกลั่นล้มเหลวอยู่ไม่น้อย
“หื้ม?”
และในตอนนี้ หลัวซิวขมวดคิ้วลงไปอย่างกะทันหัน หัวใจเขาสัมผัสได้และเหมือนจะมองทะลุโลกาศุภรได้ด้วย มองเห็นทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นในโลกภายนอก
ณ ตอนนี้ มีนักยุทธ์ในชุดสีขาวคนหนึ่งกำลังยืนเอามือกอดอก ทำท่าทะนงองอาจอยู่นอกประตูหินห้องที่หลัวซิวปิดขังฝึกตนด้วยคิ้วปลายงอนที่เยือกเย็นและเฉียบคม
“หลัวซิว ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”
หนุ่มชุดขาวตะคอกอย่างเยือกเย็น เสียงที่เปล่งออกมาเหมือนดั่งแก่นแท้ ทำให้วิชาห้ามค่ายกลที่จัดวางอยู่บริเวณรอบถ้ำสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและเกิดเป็นระลอกคลื่นเล็ก ๆ
“โครมม……”
ประตูหินถ้ำเปิดออก จินเฟยเทียนก้าวเท้ายาวออกมา เมื่อเห็นหนุ่มชุดขาวนั่น เขาจึงตวาดด้วยความโกรธ: “ที่แห่งนี้เป็นถ้ำฝึกตนของท่านนายข้า เหตุใดเจ้าถึงมาโวยวายเสียงดังที่นี่?”
“หึ แค่เดรัจฉานกระจก ๆ ตัวหนึ่งก็กล้ามาเอะอะโวยวายต่อหน้าข้าอย่างนั้นหรือ?”
หนุ่มชุดขาวทำเสียงหึอย่างเยือกเย็น ออร่าดุร้ายที่ยิ่งใหญ่ดุดันพรั่งพรูออกมาราวกับภูเขาใหญ่ลูกหนึ่ง กระแทกเข้ากับตัวจินเฟยเทียนอย่างโหดเหี้ยม ทำให้ร่างของเขากระเด็นออกไปในทันที ชนเข้ากับประตูหินที่อยู่ด้านหลังอีกจนเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น
หนุ่มชุดขาวไม่ได้ลงมือเลยด้วยซ้ำ แค่พลังออร่าบนตัวก็ทำเอาจินเฟยเทียนต้านทานไม่ไหวแล้ว พูดได้เลยว่าศักยภาพความสามารถน่าสยดสยองมาก
ถ้ำสั่นสะเทือนอยู่พักหนึ่ง ถังหยุนที่ฝึกตนอยู่ภายในห้องลับก็ตกใจเช่นกัน
ในขณะเดียวกัน จิตใจหลัวซิวก็รับรู้ได้แล้ว ตัวสำนึกแพร่กระจายออกมาจากโลกาศุภร ก่อนจะพบหนุ่มชุดขาวที่อยู่ข้างนอกถ้ำ รวมไปถึงจินเฟยเทียนที่ได้รับบาดเจ็บจนเลือดไหลออกมาจากมุมปาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...