“หลังจากตระหนักรู้กฎหยินหยางครบสิบวัน จะมีการประเมินผลหนึ่งครั้ง หลังจากผ่านการประเมินผล สามารถอยู่ตระหนักรู้ในฐานหยินหยางต่อได้ ข้าต้องคว้าโอกาสในครั้งนี้ไว้ให้ได้”
หลัวซิวคิดเช่นนี้อยู่ในใจ เขาอยู่ภายใต้แสงสว่างอันโชติช่วงที่เปล่งประกายออกมาจากบัญชาหยินหยาง ถูกส่งออกมาในตำหนักเมื่อครู่นี้
เขาแหงนหน้าขึ้นไปมอง พบว่าคนอื่น ๆ ก็ถูกส่งออกมาเช่นกัน สีหน้าของทุกคนดูไม่ค่อยพอใจ เพราะถึงอย่างไรไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่ถูกขัดขณะการตระหนักรู้ ก็ต้องรู้สึกไม่พอใจกันทั้งนั้น
“ทุกคนตามข้ามา”
ผู้รับผิดชอบการประเมินยังคงเป็นผู้อาวุโสชุดคลุมหยินหยางผู้นั้นเช่นเคย คนดังกล่าวแซ่หวู เป็นผู้อาวุโสราชาเทพคนหนึ่งของสำนักหยินหยาง
ภายใต้การนำพาของผู้อาวุโสหวู คนกลุ่มหนึ่งมาถึงห้องลับที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ห้องหนึ่ง
ตรงกลางห้องลับมีค่ายกลหนึ่งที่มีแสงสว่างงดงามเปล่งประกาย จากระดับความสามารถทางค่ายกลของหลัวซิว เขาก็ดูระดับของค่ายกลดังกล่าวไม่ออกเช่นกัน ยืนยันได้เพียงนี่คือค่ายเสวียนค่ายหนึ่ง
“ค่ายเสวียนค่ายมีนามว่าค่ายใหญ่ฝึกปรือหยินหยาง เมื่อเดินเข้าไปในค่ายเสวียน พวกเจ้าก็จะจมดิ่งสู่ภาพมายา ต้องเข่นฆ่ากับศัตรูที่ปรากฏในภาพมายา แต่สิ่งที่ข้าจะบอกพวกเจ้าคือหากได้รับบาดเจ็บในภาพมายา ร่างแท้ของพวกเจ้าก็จะได้รับบาดเจ็บเช่นกัน หรือแม้กระทั่งอันตรายถึงชีวิต! เพราะฉะนั้นหากพวกเจ้าอดทนต่อไปไม่ไหว ขอเพียงตะโกนคำว่าข้าขอสละสิทธิ์ดัง ๆ ก็จะหลุดพ้นจากภาพมายา กลับมาถึงโลกความเป็นจริง!”
“นอกเหนือจากนี้แล้ว เมื่ออยู่ในภาพมายา พวกเจ้าจะโคจรได้เพียงเบญจธาตุทั้ง 5 และกฎหยินหยางเท่านั้น สังหารคู่ต่อสู้ห้าคนถือว่าผ่านด่าน สังหารคู่ต่อสู้สิบคนจะได้รับของรางวัล ยิ่งฆ่าคู่ต่อสู้มากเท่าไหร่ ของรางวัลที่ได้รับก็ยิ่งมากเท่านั้น!”
“แน่นอนอยู่แล้วว่า หากไม่สามารถสังหารคู่ต่อสู้แม้แต่ห้าคนได้ เช่นนั้นก็เท่ากับไม่ผ่านการประเมิน จะถูกยึดบัญชาหยินหยางและตกรอบไป!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...