มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1413

สรุปบท บทที่ 1413: มหายุทธ์ สะท้านภพ

บทที่ 1413 – ตอนที่ต้องอ่านของ มหายุทธ์ สะท้านภพ

ตอนนี้ของ มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1413 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เขากำลังจะคิดอยู่ว่าหากผู้อื่นทราบเรื่องนี้เข้า คาดว่าคงต้องพูดไม่ออกบอกไม่ถูกแน่นอน เนื่องจากทัณฑ์สวรรค์ระดับนี้เพียงพอที่จะสามารถฆ่าเทพฟ้าคนหนึ่งได้แล้ว หากเปลี่ยนเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 คนอื่นที่เป็นผู้ข้ามผ่านทัณฑ์ จุดจบคงต้องดับสลายกลายเป็นฝุ่นผงอย่างแน่นอน แต่เขากลับยังอยากให้พลานุภาพของทัณฑ์สวรรค์ทรงพลังมากกว่านี้อีกอย่างนั้นหรือ?

และตอนนี้ จู่ ๆ ก็มีเสียงเทพเสียงหนึ่งดังมาจากส่วนลึกของห้วงดารา ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธที่จางหายไปแล้วในตอนแรก ถึงกับกลับมาบ้าระห่ำอีกครั้ง สายฟ้าสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนผ่าสลับกันไปมา ผนึกรวมเป็นระลอกคลื่นสายฟ้าขนาดใหญ่ 

“เกิดอะไรขึ้น​?”

นักยุทธ์จำนวนมากในโลกแสงดาวต่างถอยไปถึงตำแหน่งที่ห่างออกไปไกลหลายหมื่นไมล์แล้ว แสงสายฟ้าที่แวววาวจับตาปกคลุมทุกสิ่งอย่างเอาไว้ พวกเขาจึงมองไม่เห็นเงาร่างของหลัวซิวที่ยืนอยู่ตรงกลางทะเลสายฟ้ามาโดยตลอด 

“มีคนคนหนึ่ง!”

หลังจากที่สายฟ้าทั้งหมดรวมตัวเป็นระลอกคลื่นขนาดใหญ่ ลอยอยู่เหนือนภาแล้ว เงาร่างของหลัวซิวก็ปรากฏอยู่ในสายตาผู้คน

ผู้คนต่างอุทานอย่างตะลึง แต่ทันใดนั้นเองก็มีคนอีกคนหนึ่งเดินออกมาจากระลอกคลื่นสายฟ้าขนาดใหญ่นั่น

มีสายฟ้าสีทองหม่นวนอยู่รอบกายเงาร่างคนที่สองที่ปรากฏตัวออกมา ใบหน้าของเขาเลือนลางไม่ชัดเจน ดวงตาคู่หนึ่งกำลังกวาดตามองหลัวซิวตั้งแต่หัวจรดเท้า และมีรอยยิ้มปรากฏตรงมุมปากเล็กน้อย 

“มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 บรรลุสู่เทพมาร ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธที่ล่อมาเทียบเท่ากับเทพมารบรรลุสุเทพฟ้า ดูท่าเจ้าน่าจะเคยได้โอกาสที่ไร้เทียมทานมาก่อนสินะ พรสวรรค์ศักยภาพแข็งแกร่งมากถึงมากที่สุด หากสามารถครอบครองร่างกายเจ้า สืบทอดทุกสิ่งอย่างของเจ้าต่อไป อนาคตข้าก็จะสามารถบรรลุกลายเป็นราชาเทพได้ง่ายดั่งปอกกล้วยเข้าปาก และมีโอกาสบรรลุเป็นมกุฎเทพ ตลอดจนจ้าวมหาเทพสูงมาก ๆ!”ผู้ที่เดินออกมาจากระลอกคลื่นสายฟ้าหัวเราะดังลั่นอย่างหยิ่งผยอง

“เจ้าเป็นเทพฟ้าผู้บุกเบิกโลกแสงดาวสินะ?”รูม่านตาของหลัวซิวหดลงไปเล็กน้อย 

“ถูกต้อง ตราชีวิตของข้าผสมรวมกับกมลโลกาเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ซึ่งเท่ากับผสมรวมกับกฎฟ้าดินแล้ว ในขณะที่เจ้าบรรลุสู่แดนเทพมารและเกิดความรู้สึกร่วมกับตราชีวิดั้งเดิม ข้าสามารถพึ่งพาพลังจากกฎฟ้าดินมายึดครองกายาเจ้าได้”

“หากข้ามิได้บุกเบิกโลกแสงดาว เจ้าก็จะไม่มีวันได้กำเนิด ในเมื่อข้าเป็นผู้สร้างเจ้า เช่นนั้นเรื่องการหมุนเวียนของเหตุและผล ก็ต้องใช้กายาของเจ้ามาชดใช้เหตุและผลนี้!”

เทพฟ้าซิงหยูแสยะยิ้มเยือกเย็นอย่างดูหมิ่น“ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่าเจ้ามีกลอุบายอะไรกันแน่ถึงได้มั่นใจเช่นนี้”

ยังไม่ทันสิ้นเสียง เทพฟ้าซิงหยูก็กลายเป็นลำแสงหนึ่ง หายเข้าไปในห้วงจักรหยั่งรู้ของหลัวซิวในชั่วพริบตาเดียว

ในตัวหยั่งรู้ที่มืดครึ้ม เงาร่างของเทพฟ้าซิงหยูปรากฏออกมา จากนั้นเขาก็กระโจนเข้าไปจุดศูนย์กลางตัวหยั่งรู้ของหลัวซิวอย่างรวดเร็ว

ตัวหยั่งรู้ที่มืดครึ้มดุจตรีภพ ในเขตพื้นที่ที่เป็นจุดศูนย์กลางของตัวหยั่งรู้ มีช่องจิตที่แวววาวจับตาดวงหนึ่งกำลังลอยอยู่ตรงนั้น 

หลัวซิวผนึกรวมช่องจิตขึ้นมาได้ตั้งนานแล้ว อีกทั้งแดนของตัวสำนึกวิญญาณก็บรรลุถึงเทพมารขั้น 9 ขั้นสูงตั้งนานแล้ว ช่องจิตของเขาฝั่งหนึ่งสีดำ ฝั่งหนึ่งสีขาว เหมือนวงล้อชีวิตขนาดเล็กยังไงอย่างนั้น ยับยั้งอยู่จุดศูนย์กลางของความคิดตัวหยั่งรู้

อีกทั้งช่องจิตของเขาและลูกแก้วความเป็นตายผสมรวมกันเป็นหนึ่งแล้ว มีพลังออร่าของกฎสองระดับความเป็นตายวนเวียนอยู่บริเวณรอบ ๆ ตลอดเวลา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ