มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 142

บนแท่นบูชา ทุกคนเห็นค่ายกลเป็นแสงเงินโลหิต ค่ายกลนี้เหมือนแสงที่ปรากฏขึ้นจากอากาศเหมือนตอนเข้าสู่แดนลับมาก มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หลัวซิวเป็นผู้บรรลุถึงนักค่ายกลระดีบ 5 แม้แต่เขาก็ดูความลับของแสงนี้ไม่ออก เห็นได้ชัดว่าระดับของค่ายกลนี้ห่างไกลเกินขอบเขตของความเข้าใจของเขา

แต่หลัวซิวก็คิดขึ้นมาได้ว่า เหยียนเยว่เอ๋อร์ เดิมทีมีเพียงหยกอสูรจันทราคู่ เปิดประตูแดนลับต้องสังเวยเลือดหลายร้อยคน แต่ใช้หยกอสูรจันทราคู่เปิดประตูไม่จำเป็นสังเวยเลือด

และเข้าสู่พื้นที่เขต 2 ต้องใช้หยกอสูรจันทราคู่เหมือนกัน หรือว่าเหยียนเย่วเอ๋อร์วางแผนไว้แล้วว่าจะสังเวยเลือดตั้งแต่แรก?

ผู้คนที่จะนำมาสังเวยเลือดมาจากไหน?

เมื่อคิดถึงจุดนี้ หลัวซิวอดรู้สึกตะลึงไม่ได้ คนที่เหมาะสมต่อการสังเวยเลือด ต้องเป็นพวกจอมยุทธ์พรสวรรค์ที่นางพาเข้ามา!

เลือดของจอมยุทธ์พรสวรรค์คนหนึ่งถูกใช้ในการสังเวยเลือด ผลที่ได้เทียบได้กับจอมยุทธ์ชี่ไห่สิบกว่าคน และการสังเวยเลือดจอมยุทธ์พรสวรรค์ห้าคนก็เท่ากับผลการสังเวยเลือดของคนร้อยคนขึ้นไป!

“ช่างเป็นจิตใจที่ชั่วร้ายอะไรเช่นนี้!”

เมื่อเข้าใจแล้ว หลัวซิวมองไปที่เหยียนเยว่เอ๋อร์อีกครั้งด้วยสายตาที่เคร่งขรึม นางผู้นี้ดูเหมือนอายุไม่ถึงยี่สิบปี จิตใจทำไมถึงชั่วร้ายแล้วยังไม่วางชีวิตของผู้อื่นไว้ในสายตาแบบนี้?

เหมือนรู้สึกได้ถึงสายตาของหลัวซิวที่มองมาทางตน เหยียนเยว่เอ๋อร์ขมวดคิ้ว

“ดูเหมือนว่าชายหนุ่มผู้นี้จะรู้แผนก่อนหน้านี้ของนางแล้ว”

ดวงตาสวยงามคู่นั้น จ้องไปที่หลัวซิว เหยียนเยว่เอ๋อร์กล่าวอย่างสงบว่า “นำหยกอสูรจันทราเงินออกมา เราจะเข้าสู่พื้นที่เขต 2”

“ใช่ คุณชายหลัวรีบนำหยกอสูรออกมาเถอะ เขต 2 ต้องมีอสูรระดับสูงแน่ จะได้รับลูกแก้วโลหิตดีกว่านี้!”

จอมยุทธ์คนอื่น ๆ ต่างก็เร่งเขา ตลอดทางนี้ได้ลูกแก้วโลหิตมา ทุกคนกลั่นแปรและได้เสริมเลือดปราณให้แกร่งขึ้น รู้สึกถึงได้ประโยชน์ดีๆ

“แดนนานาอสูรนี้เป็นสมบัติล้ำเลิศจริงๆ หากมีลูกแก้วโลหิตเพียงพอ และมีวิชากลั่นร่างที่ดี...” หลายคนมีกำลังใจเพิ่มขึ้น แต่วิชากลั่นร่างมีค่ามากกว่าวิชาปกติทั่วไป พวกเขาล้วนแต่เป็นผู้ฝึกตนที่ไม่เป็นทางการ ทานลูกแก้วโลหิตมีผลในการทำให้เลือดปราณแข็งแกร่งและกลั่นร่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แม้ว่าจะไม่ได้ผลการกลั่นร่างที่ดีนัก แต่การกลืนลูกแก้วโลหิตก็เป็นประโยชน์ต่อผู้ฝึกยุทธ์เช่นกัน และลูกแก้วโลหิตนี้หากนำออกไปขาย จะมีจอมยุทธ์กลั่นร่างจำนวนมากที่เต็มใจราคาสูงเพื่อซื้อแน่นอน

หลัวซิวเยาะเย้ยในใจ คนเหล่านี้อาจยังไม่เข้าใจ เข้ามาในแดนนานาอสูรง่าย แต่จะออกไปยาก

คาดว่าเหยียนเยว่เอ๋อร์ผู้นี้มีเจตนาร้ายที่พาคนเหล่านี้เข้ามา ไม่ให้คนเหล่านี้มีชีวิตออกไปด้วยซ้ำ!

อีกอย่าง หลัวซิว มองเหยียนเยว่เอ๋อร์คนนี้ไม่ออก ลมหายใจชีวิตก็เหมือนกับคนธรรมดา และดูผลการฝึกฝนของนางไม่ออก

นำหยกอสูรจันทราสีเงินออกมา หลัวซิวคิดจะดูว่าเหยียนเย่วเอ๋อร์คนนี้มีแผนร้ายอะไร และเขาก็ไม่รู้ว่าจะออกจากแดนนานาอสูรได้อย่างไร

หยกอสูรทั้งสองปล่อยแสงสีแดงและสีเงินออกมา คล้านพระจันทร์สีเลือดและพระจันทร์สีเงินที่กำลังลอยขึ้น ทุกคนยืนอยู่กลางค่ายกลแสง

เหยียนเย่วเอ๋อร์ยื่นมือเก็บหยกอสูรหนึ่งวง แต่ไม่ได้แตะหยกอสูรวงนั้นของหลัวซิว

แต่เมื่อหลัวซิวกำลังจะเก็บหยกอสูรอีกตัวหนึ่ง หัวหน้าจอมยุทธ์พรสวรรค์ขั้น 8 ก็ลงมือทันที

“หยกอสูรนี้ ข้าเอาแล้ว!”

จอมยุทธ์พรสวรรค์ขั้น 8 ผู้นี้ เป็นชายวัยกลางคนชื่อ หวงหยวนซาน เสียงของเขาเต็มไปด้วยพลังและอำนาจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ