มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1482

สรุปบท บทที่ 1482: มหายุทธ์ สะท้านภพ

อ่านสรุป บทที่ 1482 จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม

บทที่ บทที่ 1482 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

หากเรือรบดาราเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เต็มเปี่ยม แก้วเทวที่ต้องใช้จะมากกว่าการเคลื่อนที่ปกติสิบเท่า แต่ทว่าวินาทีนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือแข่งกับเวลา ต่อให้ต้องสูญเสียแก้วเทวที่มากกว่านี้ เขาก็จำเป็นต้องใช้มัน

ในห้วงดาราที่กว้างใหญ่อย่างไร้ขอบเขต ความเร็วของเรือรบถูกหลัวซิวและร่างกลวัฏสงสารทั้งสองกระตุ้นอย่างสุดกำลังสามารถ เติมแก้วเทวชั้นกลางจำนวนมากเข้าไป จนกลายเป็นลำแสงลำแสงหนึ่ง พุ่งทะลุผ่านไปมาในจักรวาลอย่างรวดเร็ว

ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเรือรบดาราไม่ทำให้เขาผิดหวัง ใช้เวลาเพียงสี่วันนิด ๆ เขาก็มาถึงบริเวณเมืองฟ้าเยือกแล้ว

“โครม......”

เรือรบบินเร็วจนฟ้าทลายและเกิดเป็นเสียงดังปานฟ้าร้อง ยังอยู่ห่างกันไกลมาก ๆ เหล่านักยุทธ์ที่อยู่ในเมืองฟ้าเยือกล้วนได้ยินอย่างชัดเจน 

เรือรบขนาดใหญ่ที่มีแสงทองมันวาวเป็นประกายย่างกรายมาถึงเหนือนภาเมืองฟ้าเยือก ดุจป้อมปราการที่สูงตระหง่านและเหล็กกล้าอสูรยักษ์ มีพลังออร่าบีบอัดที่มองไม่เห็นแผ่กระจายออกไป

ในเมืองฟ้าเยือก มีเรือรบดาราระดับเทพฟ้าเพียงสองลำเท่านั้น ลำหนึ่งเพิ่งกลับมาได้ไม่นาน วินาทีนี้เมื่อเห็นอีกลำหนึ่งปรากฏ ก็ทำให้สีหน้าของผู้แข็งแกร่งจำนวนมากในตำหนักหลักเมืองเปลี่ยนไปเยอะมาก

“เขากลับมาแล้วหรือ?”

จี้ซิวเสียชีวิตแล้ว แต่ทว่าศิษย์น้องห้าคนของเขากลับควบคุมเรือรบอีกลำหนึ่งกลับมา บัดนี้พวกเขาทุกคนล้วนอยู่ในตำหนักหลักเมือง และมองมาทางเรือรบขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนห้วงดารานอกเมืองอย่างประหม่า

“อาจารย์มุ่งหน้าไปไล่ล่ามันด้วยตัวท่านเองแล้ว บางทีอาจไม่ใช่คนคนนั้นกลับมาเสมอไป แต่เป็นอาจารย์ที่สังหารมันได้แล้วและแย่งเรือรบกลับมา”

มีคนกล่าวเช่นนี้ ภายในคำพูดเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจอันเกรียงไกรที่มีต่อเจ้าเมืองผู้เป็นอาจารย์

อย่างไรก็ตามวันนี้กลับถูกกำหนดไว้แล้วว่าเป็นฝันร้ายสำหรับผู้คนในตำหนักหลักเมือง มีเงาดำร่างหนึ่งบินออกมาจากเรือรบที่สูงตระหง่าน คนดังกล่าวโบกมือทีหนึ่ง เรือรบขนาดใหญ่ที่หายวับไป ถูกคนดังกล่าวเก็บเข้ากระเป๋า  

และการปรากฏตัวของเงาดำดังกล่าว ก็ทำให้นักยุทธ์จำนวนมากในตำหนักหลักเมืองต่างอื้ออึง!

พวกเขาเข้าใจดีว่าตนมิใช่คู่ต่อสู้ของหลัวซิว แต่ทว่าเมื่ออาศัยค่ายกลของตำหนักหลักเมือง น่าจะสามารถต้านทานเขาได้ระยะหนึ่ง อีกอย่างพวกเขาได้ส่งข่าวไปให้เจ้าเมืองผู้เป็นอาจารย์แล้ว ใช้เวลาไม่นาน อาจารย์ก็จะรีบกลับมาสังหารคนดังกล่าว

“ค่ายคุ้มกันเทพระดับ 6 กระจอก ๆ ยังขัดขวางข้าไม่ได้”

แววตาหลัวซิวเย็นเยือก ยกมือขึ้นมาโบกทีหนึ่ง แผนที่ดาวที่กว้างใหญ่กางออก มีดวงดาว 21 ดวงปรากฏบนแผนที่ดาว

ในจำนวนนั้นมีดวงดาวสองดวงกำเนิดมาจากการฝึกเคล็ดวิชาจุดลมปราณ มีหนึ่งดวงกำเนิดมาจากการฝึกเคล็ดแสงดาวเทียนเต้า นอกจากทั้งสามดวงนี้ที่เป็นแก่นสารแท้จริงแล้ว ดวงดาวโบราณและเรียบง่ายอีก 18 ดวงที่เหลือกลับเป็นเพียงเงาลวง 

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ……

จากการชี้นิ้วของหลัวซิว ดวงดาวทั้ง 21 ดวงที่อยู่บนแผนที่ดาวก็ร่วงหล่นลงมา พุ่งกระแทกลงมาทางตำหนักหลักเมืองที่อยู่ด้านล่างอย่างรุนแรง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ