มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1488

สรุปบท บทที่ 1488: มหายุทธ์ สะท้านภพ

บทที่ 1488 – ตอนที่ต้องอ่านของ มหายุทธ์ สะท้านภพ

ตอนนี้ของ มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1488 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

แต่ทว่าเมื่อกาลเวลาผ่านพ้นไป อายุไขของนายท่านตระกูลสวีในปัจจุบันก็เหลือไม่มากแล้ว ศักยภาพเริ่มถดถอย นี่จึงทำให้สถานการณ์ของตระกูลสวีอันตรายมาก ๆ

กองกำลังใหญ่ไม่ถูกใจหุบเขาทิพย์นี้ แต่สำหรับสำนักเล็ก ๆ และตระกูลขุนนางแล้ว มันกลับเป็นสิ่งของล้ำค่ายิ่งที่ทำให้คนเหล่านั้นอิจฉาริษยาถึงขีดสุด

พวกเขาจ้องจะเขมือบหุบเขาทิพย์นี้มานานมาก ๆ แล้ว และปัจจุบันเมื่อเห็นว่ากำลังจะถึงฉากปิดของตระกูลสวีแล้ว คนบางคนจึงเริ่มอดกลั้นต่อไปไม่ไหว

“ผู้เพื่อนยุทธ์สวี เจ้าต้องคิดพิจารณาให้ดีล่ะ ที่ลูกชายข้าถูกใจลูกสาวในตระกูลสวีของเจ้านั้น ถือว่าเป็นวาสนาของตระกูลสวี”

เจ้าสำนักพรรคกระบี่ขนนกพูดจาปลิ้นปล้อนไม่จริงใจ ด้านหลังเขามีคนตามมาด้วยสิบกว่าคน และทุกคนล้วนมีผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์เช่นกัน

หนึ่งในนั้นมีผู้ที่ดูหนุ่มมาก ๆ สิ่งที่สะดุดตาคือผลการฝึกตนของเขาที่บรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 8 วินาทีนี้เขากำลังอมยิ้มพลางจ้องเขม็งไปทางเรือนร่างของสตรีนางหนึ่งในตระกูลสวีอย่างลึกซึ้งกินใจ 

สตรีนางนั้นอยู่ในชุดกระโปรงยาวสีชมพู สูงสะโอดสะอง สีหน้าซีดเซียวเล็กน้อย ทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกสงสารเมื่อมองเห็นโฉมหน้าอันงดงามนั่นของนาง

ใบหน้าของนายท่านตระกูลสวีแก่ชรา หนวดเคราและเผ้าผมขาวหงอก ผู้คนในตระกูลสวีต่างรวมตัวกันอยู่ด้านหลังเขา สายตาที่มองไปทางผู้คนในพรรคกระบี่ขนนกล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้น 

“ฮู๋ฉุนหยู เจ้าเห็นว่าข้าแก่แล้ว จึงข่มตระกูลสวีข้าเพราะไร้ผู้แข็งแกร่งอย่างนั้นหรือ?”นายท่านตระกูลสวีทำเสียงหึอย่างเยือกเย็น จากนั้นเขาก็ไออย่างรุนแรง

เจ้าสำนักพรรคกระบี่ขนนกฮู๋ฉุนหยูแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็น“เจ้าแก่จนสภาพกลายเป็นเช่นนี้แล้ว มีชีวิตได้อีกเพียงไม่กี่ปี จะพูดจาเสียงดังเช่นนี้ทำไมเล่า?”

“ข้าจะบอกความจริงแก่เจ้าก็ได้ ระยะเวลาที่ตระกูลสวีของเจ้าครอบครองหุบเขาทิพย์นี้ก็ไม่สั้นแล้ว ถึงเวลาถอยออกจากที่ได้แล้ว แล้วก็ลูกสาวผู้นี้ในตระกูลสวีของเจ้า คือร่างแห่งเสวียนหยินซึ่งสามารถช่วยประกอบเสริมวิชาอัคคีระอุที่ลูกชายข้าฝึกซึ่งกันและกันได้ เรื่องนี้พวกเจ้าปฏิเสธมิได้!”

ฮู๋ฉุนหยูย่างเท้าก้าวขึ้นมา ภายในน้ำเสียงมีจิตที่จะฆ่าปนอยู่เล็กน้อย พลังอำนาจที่มหาศาลของผู้แข็งแกร่งแดนเทพมารขั้น 5 แผ่กระจายออกมาครอบคลุมทั่วทั้งสี่ทิศ

ในชั่วพริบตาเดียว สีหน้าท่าทางของเหล่าศิษย์ตระกูลสวีก็เปลี่ยนแปลงไป ดุจกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูฉกาจ สีหน้าดูประหม่า  

เมื่อเห็นว่าเจ้าสำนักของตนลงมือโจมตี จิตใจของเหล่าศิษย์จำนวนมากในพรรคกระบี่ขนนกก็ฮึกเหิมขึ้นมา ในมุมมองของพวกเขา ขอเพียงเจ้าสำนักลงมือโจมตี ก็จะไม่มีคู่ต่อสู้ที่เขาจัดการไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าผู้ที่เจ้าสำนักกำลังจะจัดการคือผู้แข็งแกร่งเทพมารคนหนึ่ง จึงทำให้พวกเขายิ่งตื้นตันใจมากจนสงบใจไว้ไม่อยู่

หลัวซิวขมวดคิ้วบวเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าการที่ตนมาสอบถามด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่เป็นมิตรนั้น ใช่ว่าผู้อื่นจะยินดีให้ความร่วมมือเสมอไป ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่านักยุทธ์จะไปถึงที่ใดในทั่วทุกมุมโลก ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นเจ้าจริง ๆ 

“ดูท่าข้าคงทำได้เพียงแสดงศักยภาพที่แข็งแกร่งมากพอออกมา ถึงจะสามารถทำให้คนเหล่านี้ตอบคําถามข้าอย่างซื่อตรงสินะ”

เมื่อคิดเช่นนี้ได้ หลัวซิวจึงค่อย ๆ ยกนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว แล้วดีดนิ้วลงกลางอากาศตรงไปทางกระบี่ขนนกที่ฟาดฟันมา 

“ตั่ง!”

เสียงตั่งดังขึ้น กระบี่ขนนกแตกสลายเป็นฝุ่นผง สีหน้าเจ้าสำนักพรรคกระบี่ขนนกนั่นเปลี่ยนแปลงไป ก่อนจะกระอักเลือดเฮือกใหญ่ ร่างกายกระเด็นออกไป 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ