มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1504

สรุปบท บทที่ 1504: มหายุทธ์ สะท้านภพ

บทที่ 1504 – ตอนที่ต้องอ่านของ มหายุทธ์ สะท้านภพ

ตอนนี้ของ มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1504 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

หลัวซิวค่อย ๆ เก็บนิ้วมือกลับมา ปลายนิ้วถูกฟันจนถลอกและมีเลือดไหลออกมาหนึ่งหยด 

ส่วนสีหน้าท่าทางของชายชุดคลุมยาวสีทองผู้นั้นกลับเปลี่ยนไป ร่างกายถอยหลังกลับไปสองก้าว มีความขาวซีดกระพริบผ่านบนใบหน้า 

เมื่อเขาเห็นแล้วว่าปลายนิ้วของหลัวซิวถลอกและมีเลือดไหลออกมาหนึ่งหยด สีหน้าท่าทางเขากลับตกตะลึงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเขาใช้กระบี่ยุทธ์ชีวีของตัวเองแล้ว 

วิถีกระบี่ที่เขาฝึก ฝึกเพียงกระบี่เดียวเท่านั้น และกระบี่เดียวนั้นก็คือกระบี่แห่งชีวีของเขา เรียกได้ว่าเป็นอุบายที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาแล้ว สามารถสังหารกึ่งราชาเทพได้

อย่างไรก็ตามการโจมตีหนึ่งจากกระบี่ยุทธ์ชีวีของเขา กลับสามารถทำให้นิ้วมือของฝ่ายตรงข้ามถลอก และมีเลือดไหลออกมาเพียงหยดเดียวเท่านั้นหรือ?

ชายชุดคลุมยาวสีทองสูดหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง กระบี่ยุทธ์หายเข้าไปในร่างกาย ก่อนจะก้มคำนับ “ข้าน้อยจินหลิงหยุนจากสำนักเทียนเจี้ยน ไม่ทราบว่าผู้เพื่อนยุทธ์ชื่ออะไรหรือ?”

“หลัวซิว”หลัวซิวตอบกลับอย่างเรียบนิ่ง หยดเลือดตรงปลายนิ้วหายเข้าไปในบาดแผล ภายใต้การโคจรกฎพลังชีวิต บาดแผลบนปลายนิ้วกำลังฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว 

“ที่แท้ก็เป็นผู้เพื่อนยุทธ์หลัวนี่เอง ผลการฝึกตนผู้เพื่อนยุทธ์สูง ฝีมือความสามารถก็แข็งแกร่ง แซ่จินเคารพนับถือมากเสียจริง ไม่ทราบว่าผู้เพื่อนยุทธ์มาจากสำนักใดหรือ?”จินหลิงหยุนถาม

อย่างไรก็ตามเวลานี้ มีเสียงฟ้าร้องที่ก้องกังวานไปทั่วทั้งผืนฟ้าและแผ่นดินดังออกมาจากเมฆทัณท์บนนภา 

หลัวซิวไม่ได้ตอบกลับคำถามของจินหลิงหยุน แต่เป็นการแหงนหน้ามองไปทางขอบฟ้า ผลการฝึกตนของเขาบรรลุถึงเทพมารขั้น 4 ทัณฑ์สายฟ้าก่อตัวกันอยู่นานมาก ๆ ในที่สุดวินาทีนี้มันก็จะผ่าลงมาสักที

“ข้ากำลังจะข้ามผ่านทัณฑ์ ผู้เพื่อนยุทธ์จินถอยออกไปก่อนจะดีกว่า”หลัวซิวค่อย ๆ เอ่ยปากพูด

จินหลิงหยุนมองเมฆแห่งทัณฑ์สายฟ้าที่อยู่บนนภารอบหนึ่ง ก่อนจะมีความตึงเครียดและความเข้มงวดปรากฏออกมาจากสีหน้าท่าทางเขา เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลานุภาพสวรรค์ที่มากมายมหาศาลในทัณฑ์สายฟ้าได้เช่นกัน พลานุภาพนั้นเพียงพอที่จะทำลายล้างอสูรจิตทุกดวงที่อยู่ต่ำกว่าราชาเทพ

ทัณฑ์สายฟ้าที่น่าสยดสยองเช่นนี้ เป็นรองเพียงมหาทัณฑ์ราชาเทพเท่านั้น เขายากที่จะจินตนาการได้จริง ๆ ว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นนักยุทธ์ที่เก่งกาจถึงระดับใดกันแน่ ถึงขั้นสามารถล่อทัณฑ์สวรรค์ที่น่าสยดสยองเช่นนี้มาได้ 

“เช่นนั้นก็ขออวยพรให้ผู้เพื่อนยุทธ์ข้ามผ่านทัณฑ์สำเร็จแล้วกัน!”จินหลิงหยุนไม่ได้พูดอะไรมาก หลังจากก้มคำนับเสร็จแล้ว เขาก็กลายร่างเป็นลำแสงบินออกไปในทิศทางที่ไกลออกไป 

“แสงอัสนีแรกก็น่าสยดสยองเช่นนี้แล้ว ดุจกระบี่อัสนีเล่มหนึ่งที่สามารถสังหารกึ่งราชาเทพ!”

“ข้าคิดว่าอาจไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป เมื่อครู่พวกเจ้าไม่เห็นกันหรือไงว่าจินหลิงหยุนยังมิใช่คู่ต่อสู้ของคนดังกล่าวเลย? ใช่ว่ากระบี่อัสนีที่สามารถสังหารกึ่งราชาเทพจะสังหารคนดังกล่าวได้เสมอไป”

ทุกคนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ประสบการณ์ในวันนี้เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาจดจำตลอดชีวิตได้แล้ว ไม่นึกเลยว่าผู้ที่ประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจนจะล่อทัณฑ์สายฟ้าพิโรธมาได้ โดยเฉพาะการตายของเทพฟ้าและเจ้านภาสิบกว่าคนนั้น ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกตื่นตะลึงอย่างมาก เป็นภาพเหตุการณ์ที่แค่หวนรำลึกถึงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้คนขนหัวลุกซู่ได้

ในบรรดาผู้คนทั้งหมด มีเพียงจินหลิงหยุนคนเดียวเท่านั้นที่กำลังแหงนหน้ามองไปทางเมฆแห่งทัณฑ์สายฟ้าที่รวมตัวกันบนนภา 

และวินาทีนี้ หลัวซิวกำลังยืนอยู่ในเมฆแห่งทัณฑ์สายฟ้าด้วยท่าทางที่ทะนงองอาจ ร่างกายอาบอยู่ในทะเลอัสนีที่กว้างสุดลูกหูลูกตาอย่างไร้ขอบเขต

ในขณะที่สายฟ้าแรกได้ผ่าลงมา เขาก็พุ่งทะยานขึ้นฟ้าแล้ว สวนทางกับแสงอัสนี พุ่งเข้าไปในเมฆแห่งทัณฑ์สายฟ้า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ