บทที่ 1509 – ตอนที่ต้องอ่านของ มหายุทธ์ สะท้านภพ
ตอนนี้ของ มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1509 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หลังจากพูดจบ เขาก็เบื่อที่จะพูดมากอีกเช่นกัน หลีกทางมุ่งหน้าเดินออกไปโดยตรง หากโจวชิงจะลงมือ เขาก็จะไม่ห้ามปรามอีก
ในสำนักเทียนเจี้ยน จินหลิงหยุนเข้าใจดีมาก ๆ ว่าเหตุใดผู้คนในตระกูลโจวถึงเจตนาร้ายต่อตนมากเช่นนั้น เพราะพรสวรรค์และสติปัญญาของเขาอยู่เหนือทุกคนในตระกูลโจว ตระกูลโจวเกรงว่าสักวันหากเขาบรรลุถึงแดนราชาเทพแล้ว ตระกูลโจวก็จะสูญเสียอำนาจในสำนักเทียนเจี้ยน
จินหลิงหยุนไม่ให้ค่าต่อสิ่งนี้มาก ๆ เขาไม่ได้รู้สึกสนใจในอำนาจเลยแม้แต่น้อย ชั่วชีวิตนี้สิ่งที่เขาแสวงหามีเพียงขีดสุดของวิถีกระบี่ หากไม่ใช่เพราะสำนักเทียนเจี้ยนมีบุญคุณเลี้ยงดูอบรมและบ่มเพาะตนละก็ เขาคงจากไปตั้งนานแล้ว
วินาทีนี้สิ่งที่เขาควรพูดเขาก็พูดหมดแล้ว หากพวกโจวชิงยังดื้อดึง เช่นนั้นหากตายไปก็ถือว่าสมควรแล้วล่ะ
โจวชิงขมวดคิ้วลง ในฐานะที่เป็นเจ้านภาชั้นยอด ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ได้ใช้ชีวิตไปโดยสูญเปล่า เขาสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของจินหลิงหยุน
เขาเข้าใจดีมากว่าจินหลิงหยุนเป็นคนที่โต้เถียงกับผู้อื่นน้อยมาก ๆ โดยทั่วไปแล้วเมื่อเผชิญหน้ากับการยั่วยุและการกีดกันจากผู้คนในตระกูลโจว เขาก็จะนิ่งเงียบ บ่อยครั้งเขาก็เลือกที่จะถดถอย
แต่วินาทีนี้เขากลับดูผิดปกติเล็กน้อย เมื่อมองไปทางเจ้าหนุ่มผู้แซ่หลัวนั่นอีกครั้ง สีหน้าท่าทางของเขาดูสงบนิ่ง จึงทำให้โจวชิงรู้สึกกังวลใจขึ้นมาเล็กน้อย
“หรือว่าศักยภาพของเจ้าแซ่หลัวนี่แข็งแกร่งมาก ๆ จินหลิงหยุนรู้สึกว่าข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน?”โจวชิงคาดคะเนอยู่ในใจ
เขาทราบอยู่ว่าจินหลิงหยุนผู้นี้เป็นผู้ที่หยิ่งยโสเป็นหนึ่งไม่สองผู้ใด ผู้ที่สามารถทำให้เขานับเป็นสหายได้นั้น ก็ไม่มีทางใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่นอน
เมื่อคิดเช่นนี้ได้ โจวชิงจึงแกว่งแขนเสื้อแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: “เพื่อเป็นการไว้หน้าผู้อาวุโสจิน เรื่องนี้แซ่โจวจะไม่คิดเล็กคิดน้อยต่อเจ้า!”
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น เขาก็หันหลังแล้วกลายร่างเป็นสายรุ้งยาว พาหลี่เสวียนซิงและผู้อาวุโสอีกสองคนจากไปพร้อมกัน
จินหลิงหยุนกำเนิดมาจากครอบครัวคนธรรมดาทั่วไป ครั้นเมื่อยังเป็นเด็ก คูเมืองที่เขาพักอยู่อาศัยถูกอสูรกายทำลาย จนประสบพบเจอกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ พ่อแม่เสียชีวิต
ในช่วงเวลาที่อันตรายและเต็มไปด้วยภัยพิบัติ มีผู้อาวุโสคนหนึ่งในสำนักเทียนเจี้ยนเดินทางผ่านสถานที่แห่งนั้น และช่วยชีวิตเขาเอาไว้ อีกทั้งเห็นว่าเขามีพรสวรรค์ด้านการฝึกยุทธ์ที่ไม่เลว จึงพาเขาเข้ามาในสำนักเทียนเจี้ยน เลี้ยงดูเขาตั้งแต่เด็กจนโต ถ่ายทอดวิชายุทธ์ให้แก่เขา
ผู้อาวุโสสำนักเทียนเจี้ยนคนนั้นก็เป็นคนในตระกูลโจวเช่นกัน ทว่าเขากลับไม่มีลูกหลานเลย จึงปฏิบัติต่อจินหลิงหยุนเหมือนลูกแท้ ๆ มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อเขา อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วเขายังไม่ทันได้บรรลุถึงราชาเทพ อายุไขสูญสิ้นตั้งแต่เมื่อสองหมื่นปีก่อน และนั่งฌานละสังขารไปแล้ว
ด้วยเหตุนี้ถึงแม้จินหลิงหยุนที่อยู่ในสำนักเทียนเจี้ยนจะถูกกีดกันอยู่บ่อยครั้ง เรื่องใดที่ทนได้เขาก็อดทนมาโดยตลอด คิดเพียงว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณผู้อาวุโสตระกูลโจวท่านนั้นที่อบรมเลี้ยงดูและถ่ายทอดวิชาให้เขา
“อาจารย์ท่านปฏิบัติต่อข้าดุจลูกชายแท้ ๆ หากไม่มีท่าน ข้าคงตายไปตั้งแต่เยาว์วัยแล้ว หากไม่มีสำนักเทียนเจี้ยน ข้าก็ไม่มีทางมีผลสำเร็จอย่างปัจจุบันเช่นกัน……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
Good...
ทำไมอ่านต่อไม่ได้...
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...