มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1511

สรุปบท บทที่ 1511: มหายุทธ์ สะท้านภพ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1511 – มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม

บท บทที่ 1511 ของ มหายุทธ์ สะท้านภพ ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

รูปร่างของภูเขาทุกลูกในสำนักเทียนเจี้ยนล้วนดุจกระบี่ ยิ่งกว่านั้นคือสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากบนยอดเขาก็เป็นรูปร่างของกระบี่เช่นกัน สิ่งปลูกสร้างแปลกพิสดาร ราวกับกระบี่นับหมื่นกำลังโต้แย้งแสดงความคิดเห็นกันและกัน

ภายใต้การนำพาของจินหลิงหยุน หลัวซิวมาถึงวังกระบี่แห่งหนึ่งบนเขากงเผิง ซึ่งมีนามว่าวังศึกกระบี่

ภายในวังศึกกระบี่ มีชายชราหนวดเคราและเผ้าผมขาวหงอกคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในท่าขัดสมาธิ 

จินหลิงหยุน เอามือทั้งสองประสานกันแล้วยกขึ้นในระดับหน้าอกคารวะชายชราผู้นี้ “กราบคารวะท่านเหวิน”

แม้จะเป็นกึ่งราชาเทพเหมือนกัน แต่ทว่าด้านช่วงวัยอายุนั้น จินหลิงหยุนคือผู้น้อย และเขาก็ไม่มีจิตใจที่จะแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ในสำนักเทียนเจี้ยนเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เมื่อพบเจอผู้อาวุโสทั้งสาม เขาก็จะทำความเคารพดุจผู้น้อยคนหนึ่ง 

“เหอะ ๆ หลิงหยุน เหตุใดเจ้าถึงมีเวลามาที่ข้าล่ะ?”ท่านเหวินอมยิ้ม 

“ศึกการช่วงชิงสิทธิ์ที่มุ่งไปยังโลกะอัมพรเทวใกล้จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว เพื่อเป็นการช่วงชิงจำนวนผู้มีสิทธิ์มุ่งไปยังโลกะอัมพรเทวให้ได้มากกว่า ข้าจึงเชื้อเชิญสหายคนนี้ของข้ามาช่วยเหลือ”

จินหลิงหยุนอธิบายว่า: “และคนนี้ก็คือสหายของข้าเอง เขามีนามว่าหลัวซิว ผลการฝึกตนทั้งร่างลึกซึ้งมากจนไม่อาจคาดเดาได้ อีกทั้งยังอยู่เหนือข้าอีกด้วย”

“โอ๊ะ?”

เมื่อได้ยินจินหลิงหยุนพูดเช่นนี้แล้ว ก็มีแสงเรืองเล็กน้อยกระพริบผ่านไปในแววตาของท่านเหวินที่กำลังนั่งอยู่ในวังกระบี่ สายตาเขาร่วงลงบนตัวหลัวซิว

จากผลการฝึกตนกึ่งราชาเทพของเขา ก็ไม่สามารถมองทะลุแดนผลการฝึกตนของหลัวซิวได้เช่นกันว่าอยู่ระดับใดกันแน่ 

เขาก็พอจะเข้าใจเกี่ยวกับตัวจินหลิงหยุนอยู่บ้าง ทราบว่าเขาเป็นผู้ที่หยิ่งยโสเป็นหนึ่งไม่สองผู้ใด เว้นแต่ว่าศักยภาพของคนดังกล่าวจะน่าทึ่งมากจริง ๆ มิเช่นนั้นจินหลิงหยุนไม่มีทางบอกว่าตัวเองด้อยกว่าผู้อื่นแน่นอน 

“ผลการฝึกตนของผู้อาวุโสจินนั้นคือกึ่งราชาเทพ แม้นว่าคนดังกล่าวจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเจ้า ทว่าผลการฝึกตนไม่ชัดเจน การที่บอกว่าศักยภาพของเขาแข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสจินนั้น เป็นการคุยโตโอ้อวดมากไปหรือเปล่า”

เขามองไปทางหลัวซิวรอบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าหลัวซิวพยักหน้า จึงมีแผนการผุดขึ้นมาในใจจินหลิงหยุน ใช้นิ้วชี้ไปนอกวังกระบี่ “สู้กันบนสังเวียนศึกกระบี่ยกหนึ่ง โดยที่มีท่านเหวินเป็นประจักษ์พยาน”

“เหอะ ๆ ดี!”ท่านเหวินตอบตกลงในทันที 

สำหรับสำนักเทียนเจี้ยนแล้ว ศักยภาพของเค่อชิงที่เข้าร่วมการช่วงชิงสิทธิ์ยิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งดีอยู่แล้ว หากหลัวซิวที่จินหลิงหยุนพามามีศักยภาพที่เกะกะระรานจริง ๆ มันก็มีเพียงจะส่งผลดีไร้ซึ่งผลร้ายต่อสำนักเทียนเจี้ยน 

“ออกมาสู้กันสักตั้ง!”ชายชราชุดคลุมยาวสีดำที่แซ่โกวนั่นแสยะยิ้มอย่างเย็นเยือก ร่างกายกลายเป็นสายรุ้งสีดำ และปรากฏบนเวทีหินที่ลอยอยู่กลางนภานอกวังศึกกระบี่ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว

และเวทีหินนั่นก็คือสังเวียนศึกกระบี่นั่นเอง เป็นสถานที่ประมือของเหล่าเค่อชิงบนเขากงเผิง

เค่อชิงในสำนักเทียนเจี้ยนมีทั้งหมด 12 คน ซึ่งทุกคนล้วนเป็นเจ้านภาชั้นยอด วินาทีนี้หลังจากทราบข่าว พวกเขาก็ต่างพากันออกมาจากสถานที่ฝึกตนปิดขัง แล้วเพ่งมองขึ้นมาบนสังเวียนศึกกระบี่ 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ