มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1518

สรุปบท บทที่ 1518: มหายุทธ์ สะท้านภพ

อ่านสรุป บทที่ 1518 จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม

บทที่ บทที่ 1518 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

แต่ทว่าในเวลานี้เองรูม่านตาของหลัวซิวกลับหดลงกะทันหัน เนื่องจากเสี้ยววินาทีในเมื่อครู่นี้ เขาสัมผัสได้ว่ามีตัวสำนึกที่ทรงพลังกำลังผนึกร่างเขาไว้

เขาเงยหน้ามองออกไปไกล ๆ ก่อนจะสังเกตเห็นว่ามีเงาดำร่างหนึ่งกำลังลอยอยู่เหนือนภาที่สูงกว่า และมองลงมาทางตัวเองที่อยู่ด้านล่างด้วยจิตที่จะฆ่าอันดุดัน

“หลัวซิว!”

และเงาร่างที่ลอยอยู่บนนภาก็คือจี้เฟิงนั่นเอง

เขามาถึงโลกาดาราอุดรสามปีแล้ว อย่างไรก็ตามโลกาดาราอุดรกว้างใหญ่มากเกินไป เขาและมู่หมิงก็ตามหาร่องรอยของหลัวซิวได้ยากมาก

แต่ทว่าพวกเขาวินิจฉัยว่าการที่หลัวซิวมายังโลกาดาราอุดรนั้น ต้องเป็นเพราะโลกะอัมพรเทวอย่างแน่นอน และจากการสืบเสาะข่าว พวกเขาทราบมาว่าค่ายวาร์ฟล่องหนของโลกะอัมพรเทวจะเปิดออกในสามปีภายหน้า เพราะฉะนั้นจี้เฟิงจึงมาเฝ้ารออยู่ ณ ที่แห่งนี้ตั้งนานแล้ว

สำหรับราชาเทพ ระยะเวลาสามปีผ่านไปเร็วดั่งดีดนิ้วทีหนึ่ง ร่างกายเขาผสมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับห้วงอากาศอันว่างเปล่า มาตรแม้นว่าเป็นผู้แข็งแกร่งในระดับเดียวกัน หากไม่มีเจตนาตรวจสอบ ก็จะไม่สามารถค้นพบพลังออร่าของเขาได้

เสี้ยววินาทีที่เขาสังเกตเห็นหลัวซิว เงาร่างของเขาก็เดินออกมาจากห้วงอากาศอันว่างเปล่า ภายในแววตาเปี่ยมล้นไปด้วยจิตที่จะฆ่า 

“ฆ่าบุตรบุญธรรมของข้า ทำลายคูเมืองของข้า หากข้าไม่สะสางความแค้นในครั้งนี้ จี้เฟิงข้าก็เท่ากับราชาเทพไร้น้ำยา!”

จิตที่จะฆ่าในแววตาจี้เฟิงดุดัน ทว่าเขาไม่ได้ลงมือโจมตีโดยตรงแต่อย่างใด เนื่องจากเสี้ยววินาทีที่เขาปรากฏตัว ตัวสำนึกหนึ่งที่มาจากเมืองเทวะดาราอุดรก็เพ่งเล็งมาทางเขาแล้ว

ภายในเมืองเทวะดาราอุดรนั่น มีราชาเทพคนหนึ่งคอยปกปักรักษาฟ้าดินผืนนี้ อีกทั้งคนดังกล่าวไม่ใช่ราชาเทพทั่วไปด้วย แต่เป็นราชาเทพช่วงกลาง

จี้เฟิงไม่มีความมั่นใจที่จะต่อกรกับผู้แข็งแกร่งเช่นนี้

เขาค่อย ๆ ชักสายตาตัวเองกลับมา แล้วก้มคำนับทำท่าคารวะไปทางเมืองเทวะดาราอุดรพลางเอ่ยปากพูด: “คนดังกล่าวมีความแค้นอันยิ่งใหญ่ต่อแซ่จี้ หวังว่าผู้เพื่อนยุทธ์จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว”

ทันใดนั้น จี้เฟิงก็สัมผัสได้ว่าตัวสำนึกที่ผนึกร่างตนไว้ค่อย ๆ จางหายไป ราวกับราชาเทพที่ปกปักรักษาอยู่ภายในเมืองเทวะดาราอุดร อนุญาตความตั้งใจที่จะฆ่าของเขาโดยนัยแล้ว 

หากจี้เฟิงจะสังหารผู้คนในเขามหาเทวะละก็ เขาต้องไม่มีทางนิ่งดูดายเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ทว่าผู้ที่คนดังกล่าวจะสังหารคือผู้อาวุโสในสำนักเทียนเจี้ยน ในฐานะที่เป็นราชาเทพของเขามหาเทวะ เขาต้องมีความสุขกับการวางเฉยอยู่แล้ว 

ยิ่งกว่านั้นคือหากได้สร้างสัมพันธไมตรีต่อราชาเทพคนหนึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ มันก็มีเพียงข้อดีไร้ซึ่งข้อเสียต่อเขามหาเทวะ

หลัวซิวเข้าใจดีมาก ๆ ว่าไม่เร็วก็ช้าสุดท้ายก็ต้องเผชิญหน้ากับบ่วงแค้นที่มีต่อจี้เฟิง เงาร่างของเขาลอยขึ้นฟ้า ประจันหน้ากับราชา

“วันนี้เจ้าหนีไม่รอดแน่ และไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเจ้าได้เช่นกัน”

มุมปากจี้เฟิงมีรอยยิ้มที่ดูเหยียดหยามและเย็นเยือก ผลการฝึกตนของราชาเทพขั้นปฐมภูมิปะทุออกมาจนเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น แม้จะเป็นเพียงราชาเทพขั้น 1 แต่ทว่าระหว่างราชาเทพและกึ่งราชาเทพนั้น ก็มีช่องกว้างที่กว้างใหญ่เท่าผืนฟ้าคั่นอยู่ 

“ไปตายซะเถอะ!”

เขาค่อย ๆ ยกมือขึ้นมา ฝ่ามือข้างหนึ่งกดอัดลงไป พลังฝ่ามือสีดำที่ใหญ่โตมหึมาปรากฏ ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่มาก สยบทุกสรรพสิ่ง

การโจมตีนี้เป็นการโจมตีหนึ่งของผู้แข็งแกร่งราชาเทพ เสี้ยววินาทีที่ลงมือโจมตี ก็ทำให้หลัวซิวมีความรู้สึกต้านทานไม่อยู่

ตัวสำนึกของเขาเชื่อมประสานกับดวงดาวโบราณจ้าวมหาเทพหนึ่งดวงในร่างกายเป็นสิ่งแรก เห็นเพียงเขายกนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว แสงดาวแสงหนึ่งก็แตกปะทุออกมาจากปลายนิ้ว และพุ่งตรงขึ้นไปทางจี้เฟิงที่อยู่ด้านบน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ