มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1520

สรุปบท บทที่ 1520: มหายุทธ์ สะท้านภพ

ตอน บทที่ 1520 จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1520 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เคล็ดแสงดาวเทียนเต้า ไม่ฝึกร่างเนื้อ ไม่ฝึกกฎ ฝึกเพียงเวทย์เพื่อผนึกรวมดาราชีวี

เมื่อเวทย์และผลการฝึกตนเกะกะระรานถึงขีดสุดแล้ว ก็จะเกิดการแปรเปลี่ยน สามารถข่มนักยุทธ์กลั่นร่างที่มีร่างเนื้อเกะกะระราน และสามารถข่มอัจฉริยะผู้ไร้เทียมทานที่แดนกฎสูงอย่างลึกซึ้งได้เช่นกัน

ส่วนกฎฟ้าดินและการกลั่นร่างเนื้อนั้น หากเกะกะระรานถึงแดนขีดสุดแล้ว ก็สามารถข่มผู้อื่นได้เช่นกัน

วิถีการฝึกตนทั้งสามประเภทนี้ เป็นทิศทางใหญ่ ๆ บนวิถียุทธ์ ซึ่งเป็นตัวแทนของสามประเภทสุดขีด 

“ดาราจักรวาล ณ ปัจจุบัน จะเน้นฝึกกฎฟ้าดินเป็นหลัก และหมายความว่าเมื่อถึงแดนเทพมารเป็นต้นไปจะยึดแดนกฎเป็นเจ้า การที่ราชาเทพสามารถกดอัดเทพฟ้าได้นั้น เป็นเพราะเขาอาศัยกฎดั้งเดิมขั้น 4 นั่นเอง”

“แดนกฎของข้าแตกต่างจากราชาเทพมากโข แต่ถ้าเกิดผนึกรวมดวงดาวทั้ง 36 ดวงออกมาได้ ก็จะสามารถรับมือกับราชาเทพ หรือสยบราชาเทพได้เลย!”

ความคิดทั้งหมดทั้งมวลกระพริบผ่านไปหายไปในสมอง แม้จะเป็นแรงบันดาลใจที่ผุดขึ้นมาเพียงแวบเดียว แต่กลับสามารถทำให้เขายึดกุมทิศทางการฝึกในอนาคตได้อย่างรางเลือน

“การตระหนักรู้ในแดนกฎต้องใช้การตกตะกอนของเวลาและการตรัสรู้ในโอกาส แต่เคล็ดแสงดาวเทียนเต้าและเคล็ดวิชาจุดลมปราณกลับแตกต่างกัน ขอเพียงมีทรัพยากรและสมุนไพรเพิ่มพลังที่เพียงพอ ก็จะสามารถฝึกสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว!”

ใช้ผลการฝึกตนทั้งหมดกระตุ้นพลังการโจมตีสองครั้งของดวงดาวโบราณจ้าวมหาเทพ พลานุภาพของทุกการโจมตีล้วนสามารถเทียบทัดกับการโจมตีของราชาเทพ ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้ราชาเทพขั้น 1 อย่างจี้เฟิงได้รับบาดเจ็บ ทว่ากลับไม่สามารถสังหารเขาได้

อีกทั้งจี้เฟิงเป็นผู้ที่ฝึกกฎธาตุไม้เป็นหลัก ใช้กฎธาตุไม้เปลี่ยนแปลงพลังชีวิต มันไม่ประณีตสวยวิจิตรดั่งกฎชีวิต ทว่าจุดที่อยู่เหนือกว่าของจี้เฟิงคือแดนกฎดั้งเดิมของเขาที่บรรลุถึงขั้น 4 แล้ว ทำให้บาดแผลเขาฟื้นฟูเร็วมาก ๆ ด้วยเหตุนี้หลังจากต้านรับสองการโจมตีจากดวงดาวโบราณจ้าวมหาเทพแล้ว เขาก็แค่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งไม่ร้ายแรงมากนัก

จากนั้นหลัวซิวก็ถือโอกาศหยิบยาหนึ่งกำออกมาจากแหวนเก็บของแล้วยัดเข้าปาก ปีกเทพมังกรครามยักษ์ที่อยู่ด้านหลังหลัวซิวปรากฏ ภายใต้การสั่นกระพือ เขาก็บินตรงไปทางเมืองเทวะดาราอุดรอย่างรวดเร็ว

จากศักยภาพ ณ ปัจจุบันของเขา สิ่งที่สามารถทำให้เขายกระดับผลการฝึกตนของตัวเองได้นั้นมีเพียงยาเซียนระดับ 4 เป็นต้นไป ด้วยเหตุนี้ยาจำนวนมากที่อยู่ในมือเขา กลับสามารถใช้เพื่อฟื้นฟูผลการฝึกตนที่สูญเสียไปได้เท่านั้น

“หึ!”

ในขณะที่ปราณกระบี่สีเขียวจวนจะถึงเมืองเทพอยู่นั้น เสียงหึอันเยือกเย็นก็ดังมาจากมุมใดมุมหนึ่งในเมืองเทพ ถัดจากนั้นหนึ่งในดวงดาวทั้งเจ็ดที่ลอยอยู่เหนือนภาเมืองเทพก็ลอยขึ้นกะทันหัน

เสียงที่ดังสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วทั้งพื้นปฐพีดังก้องอยู่เหนือนภาเมืองเทพ ปราณกระบี่สีเขียวที่ยาวกว่าสิบไมล์ถูกดวงดาวพุ่งชนจนแตกสลาย ก่อนที่จะมีใบหน้าของคนคนหนึ่งปรากฏบนดวงดาวดวงนั้น แล้วจ้องเขม็งมาทางจี้เฟิงอย่างเย็นเยือก 

“เจ้าจะฆ่าคน ข้ามิห้ามเจ้า ทว่าเจ้ากลับจะทำลายเมืองเทพของข้า สมควรตาย!”

ใบหน้าที่อยู่บนดวงดาวเอ่ยปากพูดอย่างเยือกเย็น ถัดจากนั้นดวงดาวดังกล่าวก็ปรวนแปรจนกลายเป็นมือใหญ่หนึ่งข้าง ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่และแผ่คลุมเงาร่างจี้เฟิงเอาไว้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ