ตอน บทที่ 1530 จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1530 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“ร่างเนื้อระดับกึ่งราชาเทพ?”
สีหน้าของมู่หมิงเปลี่ยนไป จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าศักยภาพที่แท้จริงของหลัวซิวผู้นี้อยู่ระดับใดกันแน่ ดูเหมือนเรื่องทุกอย่างจะอยู่เหนือการคาดหมายของเขายังไงอย่างนั้น
สำหรับความเข้าใจของเขาที่มีต่อหลัวซิวนั้น ล้วนมาจากการบรรยายของจี้เฟิง แต่ในความเป็นจริงตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ศักยภาพของหลัวซิวแข็งแกร่งขึ้นเยอะมาก
“เวิง!”
มีสมบัติคุ้มกันบินออกมาจากกลางหว่างคิ้วมู่หมิง ต้านทานการสังหารจากร่างเนื้อที่แข็งแกร่งของหลัวซิวเอาไว้
สมบัติคุ้มกันชิ้นนี้เป็นอัญเทพฟ้า ทว่าเมื่ออยู่ภายใต้การโจมตีจากหอกยุทธ์มังกรดำในมือหลัวซิว มันต้านทานได้เพียงชั่วขณะเท่านั้นก็มีท่าทีที่ใกล้จะพังทลายแล้ว
“ทลายซะ!”
โคจรพลังแปรเสวียนเทียน ภายใต้กำลังรบที่เพิ่มขึ้นร้อยเท่า ร่างหลัวซิวรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับหอก ทลายเกราะป้องกันของสมบัติชิ้นนั้นจนแตกสลาย แสงหอกทะลวงห้วงอากาศที่ว่างเปล่า และพุ่งแทงตรงเข้าไปกลางหว่างคิ้วมู่หมิง
สีหน้าท่าทางของมู่หมิงเปลี่ยนไปมาก เงาร่างของเขาหายวับไปกะทันหัน กลายเป็นหมอกดำกลุ่มก้อนหนึ่ง ถัดจากนั้นรูปร่างของเขาก็ได้ผนึกรวมกันตรงตำแหน่งที่ห่างออกไปไกลสามร้อยกว่าเมตร ปรากฏตัวใหม่อีกครั้ง
การโจมตีหอกของหลัวซิวล้มเหลว ฝ่าเท้าเหยียบย่ำลงบนวิถีโบราณดารากาล จากนั้นเขาก็กระโดดลอยขึ้นฟ้าอีกครั้งแล้วแทงหอกยุทธ์มังกรดำออกไปอย่างดุดัน
“หยุดการโจมตีได้หรือไม่? มีอะไรเราค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จากันก่อน”มู่หมิงอกสั่นขวัญหายเล็กน้อย เขานึกไม่ถึงเลยว่ากำลังรบของหลัวซิวผู้นี้จะเกะกะระรานได้ถึงขั้นนี้ และสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจยิ่งกว่าคือ คนดังกล่าวหลีกเลี่ยงกฎเกณฑ์การกดอัดในแดนปริศนามกุฎเทพได้อย่างไร
เท่าที่เขาทราบมาครั้นเมื่อหลัวซิวผู้นี้ออกจากโลกเสวียนเทียน ผลการฝึกตนของเขาอยู่เพียงเทพมารเท่านั้น ต่อมาเมื่อดูจากศักยภาพที่เขาแสดงออกมาครั้นเมื่ออยู่ในเมืองฟ้าเยือก จัดอยู่ในระดับกึ่งราชาเทพ
ซึ่งสำหรับราชาเทพแล้ว ศักยภาพเช่นนี้ไม่ถือเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากนัก เสี้ยววินาทีที่เข้ามาในแดนปริศนามกุฎเทพ ก็จะถูกกดอัดลงไปที่ระดับเทพมารอย่างไร้ความพะวง
เมื่อได้ยินฝ่ายตรงข้ามพูดถึงเศษใจแห่งศุภร จิตจะฆ่าที่อยู่ในแววตาหลัวซิวก็เข้มข้นมากยิ่งขึ้น เขาแทบจะสามารถยืนยันได้ในทันทีเลยว่า ราชาเทพผู้มีนามว่ามู่หมิงตรงหน้านี้ ต้องมีเยื่อใยที่แน่นแฟ้นต่อซือถูเจิ้งเจี้ยนอย่างแน่นอน ทั้งสองต่างมาจากสายจ่างเทียนเต้า
หลัวซิวไม่ได้ปฏิเสธเรื่องที่ว่าเศษใจแห่งศุภรอยู่บนร่างตน เนื่องจากในเมื่อฝ่ายตรงข้ามสืบตามร่องรอยตนเองมาถึงที่นี่ เช่นนั้นฝ่ายตรงข้ามต้องเคยตรวจสอบเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาของเขาเพื่อยืนยันเรื่องนี้แล้วแน่นอน
“เหตุใดถึงต้องให้เจ้ามอบโอกาสโชคชะตาในแดนปริศนาให้แก่ข้าด้วย ข้าสามารถไปเอาเองได้”หลัวซิวแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางพูด
เศษใจแห่งศุภรสำคัญต่อเขามาก ๆ ถึงแม้จะไม่สามารถใช้มันในการต่อสู้ ทว่ากลับสามารถทำให้เวลาเดินช้าลงสิบเท่า ซึ่งเท่ากับว่าเขามีเวลาฝึกตนที่มากกว่าคนธรรมดาสิบเท่า สามารถย่นเวลาในกระบวนการการเจริญเติบโตของตัวเองให้สั้นลง
ด้วยเหตุนี้ หลัวซิวจึงไม่มีทางส่งเศษใจแห่งศุภรชิ้นนี้ออกไปอย่างแน่นอน
มู่หมิงขมวดคิ้ว “เศษใจแห่งศุภรมิใช่สิ่งที่เจ้าสามารถครอบครองได้ หรือเจ้าคิดว่าตัวเองสามารถต่อกรกับสายจ่างเทียนเต้าของเราได้จริง ๆ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
Good...
ทำไมอ่านต่อไม่ได้...
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...