บริเวณรอบนอกของเทือกเขากวนเหลย การต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์ กระจายไปทั่วทุกหนแห่งราวกับพายุใหญ่
ลูกแก้วโลหิตฝึกจิตทั้ง 17 ลูกถูกกลืนกินเข้าไปทั้งหมดเพื่อใช้ในการกลั่นแปร ในที่สุดร่างเนื้อของหลัวซิวก็พัฒนาไปถึงจุดสูงสุดของร่างยุทธ์ชั้นสูง อีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นก็จะก้าวข้ามไปถึงร่างยุทธ์ขั้นสูงแล้ว หากสามารถฝึกร่างเนื้อถึงขั้นนี้ได้ อาศัยเพียงพลังของร่างเนื้อเพียงอย่างเดียว ก็จะก้าวเข้าสู่การฝึกจิตขั้นสุดท้ายของปรมาจารย์ยุทธ์ !
ตอนนี้ผลการฝึกตนของเขาอยู่ในแดนพรสวรรค์ขั้น 6 เรียบร้อยแล้ว อาศัยเพียงแค่ร่างยุทธ์ชั้นสูงก็สามารถต่อสู้กับผู้ฝึกจิตขั้นปฐมภูมิได้ ยิ่งหากได้รับยาระเบิดเทพจิต พลังแปรเสวียนเทียน และวงล้อชีวิตแห่งเหล่าทวยเทพ ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับผู้ฝึกจิตขั้น 4 ก็ยังสามารถปกกันตนเองได้
สำหรับจอมยุทธ์ในแดนพรสวรรค์ขั้น 6 ความแข็งแกร่งเช่นนี้ถือว่าไม่ธรรมดา แต่หลัวซิวยังรู้สึกไม่พึงพอใจ เขาต้องการพลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น !
หลัวซิวยังไม่ออกจากเทือกเขากวนเหลย แต่เขากลับเดินทางต่อไปยังสถานที่ที่อยู่ใจกลางเทือกเขาแห่งนี้ซึ่งก็คือ วัดกวนเหลย !
บริเวณโดยรอบของวัดกวนเหลย จะมีจอมยุทธ์จำนวนมากมารวมตัวกันอยู่ในทุก ๆ วัน แต่ละคนล้วนแล้วแต่อยู่ในแดนพรสวรรค์ขึ้นไป พวกเขาอาศัยห้วงดาบที่แพร่กระจายอยู่โดยรอบสถานที่แห่งนี้ในการฝึกฝนวิชายุทธ์ของตนเอง
ทันทีที่ก้าวเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ห้วงดาบที่รุนแรงก็พุ่งตรงเข้าใส่ทันที หากไม่สามารถต้านทานแรงกดดันจากห้วงดาบได้ การฝึกตนก็จะพังทลายลงและตายในทันที
แต่โดยปกติแล้วผู้ที่ฝึกตนถึงแดนพรสวรรค์ ล้วนมีจิตใจที่แน่วแน่มั่นคง หากอาศัยแรงกดดันจากห้วงดาบในการฝึกตน ก็จะสามารถทะลวงขีดจำกัดของร่างกายตนเองได้ และสัมผัสแดนที่สูงขึ้นผ่านห้วงดาบได้
ที่นี่ถือเป็นสถานที่อันล้ำค่าในการบรรลุวิชายุทธ์ แต่ก็เต็มไปด้วยอันตรายเช่นเดียวกัน ถ้าหากก้าวเข้าไปในส่วนที่อยู่ลึกขึ้นโดยปราศจากพลังที่มากพอ ก็จะต้องพบกับห้วงดาบที่มีความรุนแรงและน่ากลัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถฉีกผู้ฝึกตนจนแหลกออกเป็นชิ้น ๆ ได้
โดยปกติแล้ว จอมยุทธ์ในแดนพรสวรรค์สามารถหยุดอยู่เพียงแค่รอบนอกสุดเท่านั้น มีเพียงปรมาจารย์ยุทธ์ฝึกจิตเท่านั้นที่สามารถเดินไปถึงเชิงเขาได้ และราชายุทธ์ผู้แข็งแกร่งสามารถบรรลุห้วงดาบที่บริเวณไหล่เขาได้
ส่วนวัดกวนเหล่ยที่อยู่บนยอดเขา ได้ยินมาว่ามีเพียงจักรพรรดิยุทธ์ผู้แข็งแกร่งรวมไปถึงราชายุทธ์ที่ทรงพลังเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้
หลัวซิวไม่ได้อยู่ตรงบริเวณรอบนอกนานนัก เขามุ่งหน้าไปยังเชิงเขาที่มีวัดกวนเหลยตั้งอยู่บนยอดเขาทันที
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของหลัวซิว ผู้ฝึกตนที่บรรลุห้วงดาบอยู่บริเวณรอบนอกจำนวนไม่น้อยต่างแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมาทันที บ้างก็ดูถูก บ้างก็เย้ยหยัน บ้างก็รู้สึกมีความสุขเมื่อเห็นความทุกข์ของผู้อื่น
“ผู้มาเยือนจงหยุดเดี๋ยวนี้ ท่านชายของข้ากำลังบรรลุห้วงดาบอยู่ที่นี่ ห้ามรบกวนเด็ดขาด !”
ผู้ฝึกตนจำนวนเจ็ดถึงแปดคนเข้ามาขวางทางเอาไว้ หนึ่งในนั้นตะโกนด้วยน้ำเสียงดุดันใส่หลัวซิวที่กำลังเดินใกล้เข้ามา
คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นจอมยุทธ์ที่มีผลการฝึกตนอยู่ในแดนพรสวรรค์ ด้านหลังของพวกเขา มีชายหนุ่มแต่งกายด้วยชุดสีน้ำเงินกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ และมีลำแสงสีฟ้าจาง ๆ เปล่งประกายออกมารอบตัวเขา แสดงให้เห็นว่าเป็นการฝึกตนโดยใช้ปราณแท้Attrสายฟ้า
และในเขตการปกครองโตว้ไห่ มีเพียงสำนักเหลยหวู่เท่านั้น ที่ฝึกตนโดยใช้ปราณแท้Attrสายฟ้า
หลัวซิวหรี่ตาลงเล็กน้อย เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพของเจ้าสำนักเหลยหวู่ เหลยเว่ยหลง ถูกล้อมรอบไปด้วยโค้งสายฟ้า และโจมตีเหยียนเยว่เอ๋อร์จนได้รับบาดเจ็บเมื่อคืนนี้
จากนั้นก็มีไอสังหารอย่างรุนแรงปรากฏขึ้นมาในดวงตาของเขา
ถ้าหากเป็นจอมยุทธ์คนอื่น คงเลือกที่จะเดินอ้อมไป โดยไม่คิดที่จะล่วงเกินคนของสำนักเหลยหวู่ แต่หลัวซิวกลับไม่สนใจคำขู่ของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย และยังคงเดินมุ่งหน้าต่อไป
“บังอาจ !”
ด้านหน้า มีจอมยุทธ์แดนพรสวรรค์ขั้น 7 สีหน้าดุดันยืนอยู่ เขาดึงดาบออกจากเอวพร้อมตะโกนเสียงดัง “ถ้าหากเจ้ากล้าก้าวเข้ามาอีก ก็อย่าโทษที่ข้าต้องลงมือ”
หากเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ฝึกจิต พวกเขาคงไม่กล้าเข้ามาขวางอย่างแน่นอน แต่นี่เป็นแค่จอมยุทธ์แดนพรสวรรค์ขั้น 6 กลับบังอาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ ?
“หลีกไป !”
หลัวซิวขยับตัวและใช้เงาเศษเก้าสาย เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ไปปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าจอมยุทธ์แดนพรสวรรค์ขั้น 7 ที่กำลังพูดอยู่ และใช้นิ้วจิ้มเข้าไป
จอมยุทธ์แดนพรสวรรค์ขั้น 7 ผู้นี้รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะดูเหมือนเป็นนิ้วที่ธรรมดา แต่กลับรู้สึกว่าไม่อาจต้านทานได้
ทว่าเขาก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธทันที จากนั้นจึงยกดาบและฟันลงไปบนนิ้วของคู่ต่อสู้
หลัวซิวมีสีหน้าเรียบเฉย ส่วนจอมยุทธ์แดนพรสวรรค์ผู้นี้ รวมไปถึงพรรคพวกของเขาที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต่างหัวเราะเยาะออกมาไม่หยุด หากชายหนุ่มคนนี้ไม่ยอมหดมือของเขา นิ้วของเขาจะต้องถูกฟันจนขาดอย่างแน่นอน
“เช้ง !”
นิ้วมือและดาบกระทบกัน แต่กลับไม่ปรากฏภาพที่เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นออกมา แต่กลับปรากฏเป็นเสียงของโลหะกระทบกันจนเกิดประกายไฟออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...