มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1713

สรุปบท บทที่ 1713: มหายุทธ์ สะท้านภพ

บทที่ 1713 – ตอนที่ต้องอ่านของ มหายุทธ์ สะท้านภพ

ตอนนี้ของ มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1713 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“เจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามของข้า” หลัวซิวก็ขมวดคิ้วด้วย

“เจ้ายังอ่อนแอเกินไป!” ซางส่ายศีรษะไปมา จากนั้นก็ไม่สนใจหลัวซิวทันที หันกลับและเดินเข้าไปในตำหนักวัฏสงสาร

“นี่มันเรื่อวอะไรกัน?” หลัวซิวยิ่งหมดคำจะพูดเข้าไปใหญ่ หากไม่ใช่ว่าไม่ชัดเจนว่าซางผู้นี้เป็นใครมากจากที่ใดกันแน่ เขาก็มีความรู้สึกวู่วามอยากจะตะโกนด่าอยู่เช่นกัน

นี่เป็นตัวหยั่งรู้ของเขา มาอาศัยอาณาเขตของตนอยู่ จะให้เกียรติกันหน่อยไม่ได้เลยหรือ?

ถึงแม้ว่าซางจะไม่ได้ตอบคำถามของตน แต่หลัวซิวก็พอที่จะเดาได้คร่าว ๆ ว่าจ้าววัฏสงสารรุ่นที่สิบที่อีกฝ่ายกล่าวถึงนั้น น่าจะหมายถึงเขา ทั้งหมดนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการที่เขาได้รับลูกแก้วความเป็นตายและตำหนักวัฏสงสาร

เมื่อความคิดถอนออกมาจากตัวหยั่งรู้ ทันใดนั้น เสียงคำรามของปีศาจเพลิงก็ดังขึ้นที่ข้างหูของหลัวซิว

“ไอ้มนุษย์มดไร้ค่า กล้าดีอย่างไรที่ไม่สนใจผู้ยิ่งใหญ่อย่างปีศาจเพลิง?”

“ข้าจะฆ่าเจ้า!”

“……”

หลัวซิวไม่ได้สนในเจ้าปีศาจเพลิงตนนี้ ในตอนนี้เขาสามารถมองออกแล้วว่า ปีศาจเพลิงตนนี้ถูกควบคุมอยู่ที่นี่และจะไม่สามารถโจมตีตนเองได้แต่อย่างใด ด้วยพละกำลังทั้งหมดของมัน ล้วนถูกค่ายกลภายในโถงใหญ่แห่งนี้ควบคุมเอาไว้แล้ว

สำหรับเรื่องที่ซางเพิ่งเอ่ยว่าให้เขากลั่นแปรเจ้าปีศาจเพลิงตนนี้เสีย หลัวซิวกลับทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เจ้าปีศาจเพลิงตนนี้ยังมีชีวิตอย่างดีอยู่เลย ต่อให้มันยินยอมให้ตนกลั่นแปรได้ตามใจชอบ หลัวซิวประเมินการถึงผลการฝึกตนของตนในตอนนี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกลั่นแปร

แต่โถงใหญ่นี้เต็มไปด้วยพลังอันน่าเกรงขาม ต่างเป็นค่ายกลกลั่นแปรปีศาจเพลิงที่แผ่กระจายออกมา พลังล้นเหลือเช่นนี้ สำหรับหลัวซิวแล้วนั้น ผลลัพธ์ของดูดกลืนกลั่นแปร ไม่ด้อยไปกว่าการใช้ยาเซียนระดับแปดเลย

“แน่นอนว่าตัวเจ้ากลั่นแปรไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นที่เจ้าพูดมามันก็ไม่ถูก ปีศาจเพลิงตนนี้ไม่ใช่มกุฎเทพ แต่เป็นจ้าวมหาเทพ ในตอนที่มันอยู่ในสภาวะขั้นสูง พลังก็สามารถเทียบเท่าได้กับกึ่งจักรพรรดิเทพแล้ว”

ร่างของซางเดินออกมาจากตำหนักวัฏสงสาร มุ่ยปากพูด “แม้ว่าจะผ่านการกลั่นแปรไปเป็นเวลาหลายพันล้านปี ปีศาจเพลิงตนนี้ก็ได้อ่อนแอลงอย่างมากแล้ว แต่ก็ยังมีผลการฝึกตนจ้าวมหาเทพช่วงต้น ด้วยพลังของเจ้า แน่นอนว่าไม่สามารถกลั่นแปรได้”

“แต่ข้าไม่ได้ให้เจ้าไปกลั่นแปร เจ้าไม่รู้จักใช้สมองคิดเสียหน่อยหรือ?”

เมื่อได้ยินดังนั้น หลัวซิวก็ขมวดคิ้ว หรือว่ามีบางอย่างที่ตนมองข้ามไปหรือ?

“มีค่ายกลกลั่นปีศาจถูกจัดวางเอาไว้ในโถงใหญ่แห่งนี้ น่าจะเป็นยอดฝีมือระดับจักรพรรดิเทพผู้หนึ่งสร้างเอาไว้ หากเจ้าสามารถเชี่ยวชาญค่ายกลนี้ได้ แค่กลั่นแปรปีศาจเพลิงแดนจ้าวมหาเทพช่วงต้น ก็เป็นเรื่องที่แสนจะง่ายดายมิใช่หรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ