มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1793

ความเร็วของเรืออนัตตารวดเร็วมาก ๆ เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เหล่านักยุทธ์ที่กลับมาช้าก็หายวับไปแล้ว ถูกเรืออนัตตาทิ้งห่างจนไม่เห็นร่องรอย 

ทุกคนล้วนยืนอยู่บนชั้นดาดฟ้า ผู้คุมกฎชุดคลุมยาวทองสิบกว่าคนปลดปล่อยออร่าผลการฝึกตนระดับมกุฎเทพออกมา โดยเฉพาะผู้อาวุโสที่ผมเผ้าขาวหงอกคนหนึ่ง ออร่าที่แผ่กระจายออกมาจากตัวเขายิ่งบรรลุสูงถึงมกุฎเทพช่วงปลาย 

การสืบเสาะข่าวคราวของหนิงหานยู่นั้นมืออาชีพมากจริง ๆ นางเดินไปพูดกระซิบข้างหูหลัวซิวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “นั่นคือผู้คุมกฎใหญ่ของยอดอัมพรหมายเลข 3 เล่ากันว่าผลการฝึกตนบรรลุถึงมกุฎเทพขั้น 7 แล้ว”

หลัวซิวผงกหัวแล้วยกนิ้วขึ้นมานาบลงริมฝีปาก เพื่อเป็นการบ่งบอกให้หนิงหานยู่อย่าพูด

“เวิง!”

หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง ลำแสงหนึ่งก็ทะลุผ่านเกราะคุ้มกันของเรืออนัตตา ถัดจากนั้นลำแสงดังกล่าวก็ปรวนแปร ก่อนจะเผยให้เห็นชายวัยกลางคนที่อยู่ในชุดคลุมยาวม่วงคนหนึ่ง

สีหน้าของเขาดูขาวซีดเล็กน้อย ซึ่งเขาก็คือผู้อาวุโสชุดคลุมยาวม่วงที่คอยปกปักรักษาเรืออนัตตายอดอัมพรหมายเลข 3 นั่นเอง ซึ่งมีนามว่าสวี่เสวียนอาน

เนื่องจากระยะความต่างของผลการฝึกตนมากเกินไป หลัวซิวก็ไม่แน่ชัดเช่นกันว่าสวี่เสวียนอานผู้นี้คือผู้แข็งแกร่งระดับใดกันแน่ ทว่าอย่างน้อยสิ่งหนึ่งที่สามารถยืนยันได้นั่นก็คือฝ่ายตรงข้ามต้องเป็นผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพแน่นอน

หลัวซิวเคยพบเห็นความน่าสยดสยองของอสูรกลืนดาราระดับเจ้ายุทธจักร ด้วยตาตัวเองแล้ว การที่สวี่เสวียนอานผู้นี้สามารถเข่นฆ่ากับอสูรกลืนดาราได้นั้น ศักยภาพต้องไม่ใช่เล่น ๆ อย่างแน่นอน

“นายท่านผู้อาวุโส”

เหล่าผู้คุมกฎชุดคลุมยาวทองและสีเงินต่างพากันก้มคำนับให้เขาอย่างเคารพนอบน้อม

สวี่เสวียนอานพยักหน้าด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก จากนั้นเขาก็เอ่ยปากพูด เสียงที่ชัดเจนดังเข้าไปในหูของทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ “ตามสัญญาที่ให้ไว้ ดอกผลทุกอย่างที่พวกเจ้าได้รับบนดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ ต้องส่งหนึ่งในสามให้แก่เรืออนัตตา เพื่อใช้การนี้มาชดเชยพลังงานที่เรืออนัตตาสูญเสียไป”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ