มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1890

สรุปบท บทที่ 1890: มหายุทธ์ สะท้านภพ

อ่านสรุป บทที่ 1890 จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม

บทที่ บทที่ 1890 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

“ว่าอย่างไรนะ?!”

เมื่อบรรพอาจารย์ตวนมู่ได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้ว ร่างเขาก็ผงะไปทั้งคน ยิ่งกว่านั้นคือเขาไม่ได้สังเกตด้วยว่าลักษณะท่าทีในการพูดของจีเสวียนคง เหมือนผู้อาวุโสกำลังอบรมสั่งสอนผู้น้อยคนหนึ่งอยู่

เนื่องจากเมื่อเขาลองนึกย้อนกลับไปอย่างละเอียดรอบคอบรอบหนึ่ง มันเหมือนอย่างที่จีเสวียนคงกล่าวมาจริง ๆ ตอนแรกเริ่มเจ้าหนุ่มผู้มีนามว่าหลัวซิวนั่นควบคุมระดับความร้อนของไฟไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเขาเพิ่งกลั่นแปรหลอมรวมอัคคีเทพชีวีสำเร็จ

แต่ทว่านี่เพิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่เอง การควบคุมอัคคีเทพชีวีของเจ้าหมอนั่นก็มีการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด จากต้นยาเซียนที่ถูกแผดเผาจนกลายเป็นฝุ่นผงในตอนแรก กระทั่งถึงวินาทีนี้เขาก็กลั่นต้นยาเซียนสิบกว่าต้นจนกลายเป็นยาน้ำแล้ว

ระดับความเร็วในการพัฒนาเช่นนี้ มันน่าทึ่งมากเกินไปหรือเปล่า!

ต้องท้าวความก่อนว่ามาตรแม้นว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อย่างตวนมู่ชาง ครั้นเมื่อหลังจากกลั่นแปรหลอมรวมอัคคีเทพชีวีสำเร็จแล้ว ก็ใช้เวลาอยู่หลายเดือน กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เขาถึงจะสามารถควบคุมระดับความร้อนขั้นพื้นฐานของไฟได้

อีกทั้งยังมีอีกจุดหนึ่ง นั่นก็คือเขาค้นพบว่าอัคคีเทพชีวีที่หลัวซิวเรียกออกมาในเตายา ดูเหมือนกับว่าจะเป็นอัคคีเทพขั้นดำชั้นสูง!

“นะ……นี่มันเป็นไปไม่ได้!”

สีหน้าของบรรพอาจารย์ตวนมู่เปลี่ยนไปในทันที เด็กหนุ่มที่มีผลการฝึกตนแค่ราชาเทพขั้น 7 คนหนึ่ง จะกลั่นแปรหลอมรวมอัคคีเทพขั้นดำชั้นสูงได้อย่างไร?

“เหอะ ๆ ใต้หล้านี้ไม่มีเรื่องอันใดที่เป็นไปไม่ได้ อย่าว่าแต่ราชาเทพขั้น 7 กลั่นแปรหลอมรวมอัคคีเทพขั้นดำชั้นสูงเลย มาตรแม้นว่าเป็นเทพฟ้าขั้น 7 ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถกลั่นแปรอัคคีเทพระดับนี้ได้เสมอไป”จีเสวียนคงพูดอย่างลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูก

เมื่อเห็นว่าสีหน้านั่นของบรรพอาจารย์ตวนมู่เหมือนกินอึมา จีเสวียนคงก็รู้สึกสบายใจอย่างมาก การที่ราชาเทพขั้น 7 กลั่นแปรหลอมรวมอัคคีเทพขั้นดำชั้นก็เป็นเรื่องที่ทำให้ผู้อื่นแทบจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้ว เช่นนั้นถ้าเกิดคนเหล่านี้ทราบว่าผลการฝึกตนที่แท้จริงของเจ้าหมอนั่นคือเทพฟ้าขั้น 7 พวกเขาจะไม่อ้าปากค้างจนคางหลุดถึงพื้นเลยหรือ?

ตั้งแต่เริ่มกลั่นยา ตวนมู่ชางก็ไม่เคยไปสนใจลาดเลาฝั่งหลัวซิวอีกเลย เนื่องจากการดวลวิถียาในครั้งนี้เกี่ยวข้องถึงเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เขาจำเป็นต้องทุ่มสุดกำลังสามารถ

ยาเซียนระดับมกุฎถูกเขาโยนเข้าไปในเตายาทีละต้น ๆ ขอแค่กลั่นแปรยาเซียนระดับมกุฎทั้งห้าต้นให้กลายเป็นยาน้ำแล้ว ยาน้ำของยาเซียนระดับมกุฎและยาเซียนทั้ง 36 ชนิดก็จะหลอมรวมกันในขั้นตอนต่อไปแล้ว

ในขั้นตอนการหลอมรวม จำเป็นต้องใช้เคล็ดโอสถเสริม ถึงครานั้นก็ค่อนข้างจะกลั่นสบายกว่ามาก

ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ หลังจากที่กลั่นแปรยาเซียนทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนที่ตื่นเต้นที่สุดและสำคัญที่สุดก็ผ่านไปแล้ว จึงทำให้ตวนมู่ชางรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก

ในความเป็นจริงความล้มเหลวของการกลั่นยานั้น ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดก็คือขั้นตอนการกลั่นยาน้ำในเมื่อครู่นี้ รวมไปถึงขั้นตอนสุดท้ายของการสำเร็จโอสถ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ