มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1952

ระดับขั้นของหอกมังกรแดงเลือดเทียบดาบรบของเยาเย่ไม่ติด ทว่าคุณภาพของวัสดุกลับอยู่เหนือดาบรบ เสี้ยววินาทีที่ปะทะเข้าด้วยกันมีเสียงดังกังวานและเต็มไปด้วยพลังดังก้องออกมา ทำให้เยาเย่ถอยหลังกลับไปหลายก้าวภายในพริบตา 

“วัฏจักรการเวียนว่ายตายเกิด!”

หลัวซิวแทงหอกหนึ่งออกไป ใช้หมื่นจักรวาลไร้รูปวิวัฒนาการสองระดับความเป็นตาย กฎการเวียนว่ายตายเกิดขั้น 5 ในตอนแรกหลอมรวมเข้าด้วยกัน กลายเป็นวัฏจักรการเวียนว่ายตายเกิด และสังเกตเห็นได้ชัดเจนเลยว่าออร่ากฎที่แผ่กระจายออกมาเพียงพอที่จะสามารถเทียบทัดกฎขั้น 6 บริบูรณ์ได้แล้ว

เสียงตู้มดังลั่นขึ้นมา เยาเย่ก้าวถอยหลังกลับไปอีกครั้ง มือข้างที่กำดาบรบชาเล็กน้อย ง่ามนิ้วแตกทลายและมีเลือดสีแดงสดไหลลงมา 

“แข็งแกร่งเช่นนี้เลยหรือ?”สีหน้าของเยาเย่เปลี่ยนไปอย่างมาก ตอนแรกทั้งสองไม่ได้ลงไม้ลงมือกันโดยแท้จริง ถึงแม้เขาจะคาดคะเนไว้แล้วว่าศักยภาพของคนดังกล่าวอาจจะแข็งแกร่งมาก ๆ แต่ทว่าเขากลับนึกไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้ 

เกรงว่าทุกคนที่อยู่ในแดนเทวนิรันกาล ก็คงมีเพียงพระโอรสจ้านเทียนที่ลึกซึ้งจนไม่อาจคาดเดาได้สามารถข่มคนดังกล่าวได้

“มีคนเอากระบี่ตรีภพไปแล้ว!”

ทันใดนั้นเองเสียงตะโกนอย่างตะลึงก็ดังก้องขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นหลัวซิว เยาเย่ หรือพระโอรสจ้านเทียนและพวกเสิ่นปิงหยู ทุกคนล้วนหยุดกิริยาท่าทางของตนแล้วหันควับไปทางตำแหน่งกระบี่ผงาดตรีภพพร้อมกัน   

เมื่อไม่หันกลับไปดูยังดีหน่อย ทว่าพอหันไปแล้วทุกคนก็ต่างรู้สึกช็อก เพราะไม่นึกเลยว่ากระบี่ผงาดตรีภพจะหายไปแล้วจริง ๆ !

ในขณะเดียวกัน ทุกคนล้วนพบว่ามีลำแสงดวงหนึ่งกำลังบินตรงไปยังขอบฟ้าที่อยู่ห่างออกไปไกลด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก ๆ ซึ่งบนลำแสงนั่นมีออร่าของกระบี่ผงาดตรีภพปนอยู่ด้วย 

“ไล่!”

มีคนตะโกนเสียงดังลั่นคำหนึ่ง ภายในเวลาชั่วขณะทุกคนล้วนไม่สนใจคู่ต่อสู้ของตน ต่างปลดปล่อยวิชาซ่อนตัวที่เคลื่อนที่เร็วที่สุดของตนเองออกมา แล้วไล่ตามผู้ที่นำกระบี่ตรีภพไป

“ไอ้สารเลว!”

ในจำนวนคนทั้งหมด ปราณความโกรธเกรี้ยวของพระโอรสจ้านเทียนฮึกเหิมที่สุด เขาใช้พระราชสาส์นมหาจักรพรรดิยุทธ์ถึงจะหลุดพ้นจากสถานการณ์การถูกผูกมัด ทว่าท้ายที่สุดแล้วตนกลับลำบากแทนผู้อื่นเสียเปล่า แล้วจะให้เขาอดทนไหวได้อย่างไร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ