มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1997

“พี่เย่ ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านต้องมาแน่นอน”

มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าหนิงหานยู่ โฉมหน้าที่ขาวซีดทำให้จิตใจของหลัวซิวเกิดความรู้สึกสงสารอย่างอดไม่ได้ 

“พี่มาช้าไป ทำให้เจ้าต้องทุกข์ลำบาก”หลัวซิวเดินตรงไป ยื่นมือออกไปขยี้เส้นผมนางเบา ๆ พลางยิ้มพลางพูด: “มีพี่อยู่ด้วย เจ้าวางใจได้แล้ว”

“อื้ม……”

หนิงหานยู่ยิ้มพลางผงกหัว จากนั้นร่างกายก็อ่อนระทวยล้มลงเข้าไปในอ้อมอกหลัวซิว

ในความเป็นจริงหากหลัวซิวไม่ปรากฏละก็ ฉียู่หรงและหนิงหานยู่ยังสามารถประคองต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง เนื่องจากเมื่อตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่สิ้นหวัง คนคนหนึ่งถึงจะบีบคั้นศักยภาพทั้งหมดของตนออกมา

มีพลังอมตะอย่างสรรพสิ่งอิงหยินอุ้มหยาง ไม่ว่าหลัวซิวจะโคจรพลังแห่งกฎอย่างไร ผลการฝึกตนของตัวเองก็จะไม่สูญเสียมากนัก ด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถประคองม่านแสงคุ้มกันที่ประกอบขึ้นมาจากกฎชีวิตนี้ได้นานเท่าที่ต้องการ 

ภายในม่านแสงคุ้มกัน เขาทำการรักษาบาดแผลให้สตรีทั้งสองนางโดยการใช้กฎชีวิต ภายใต้การชโลมจากกฎชีวิต ทำให้เส้นเลือดชีวิตที่หม่นหมองค่อย ๆ กลับมาเปล่งปลั่งอีกครั้ง

“สำหรับข้าแล้ว สถานที่แห่งนี้ถือเป็นโอกาสที่สามารถทำให้ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของข้าพัฒนาขึ้นไปได้อีกก้าว”

สภาพการณ์ของสตรีทั้งสองนางไม่ถือว่าสาหัสมากนัก แค่ใช้พลังจิตเกินขีดจำกัดเล็กน้อย หลังจากที่นอนหลับลึกสักระยะหนึ่ง ก็จะฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาพปกติ อีกทั้งจะไม่มีบาดแผลที่บอบช้ำภายในหลงเหลืออยู่อีกด้วย

อีกทั้งหลังจากผ่านการขัดเกลาภายใต้สถานการณ์แห่งความเป็นความตายที่อับจนในเทือกเขาวายุเปราะในครั้งนี้ ใจกลางแห่งวิถียุทธ์ของสตรีทั้งสองนางก็เท่ากับผ่านการล้างบาปหนึ่งครั้ง ซึ่งจะมีผลดีต่อการฝึกตนในอนาคตโดยปริยาย 

ซึ่งวิถีแห่งยุทธ์ของหลัวซิวก็ผ่านพ้นสถานการณ์แห่งความเป็นความตายที่อับจนเช่นนี้มาไม่รู้ตั้งกี่หนเช่นกัน ดังนั้นในฐานะที่เป็นคนที่เคยอาบน้ำร้อนมาก่อน เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าการตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ชีวิตอับจน เป็นการขัดเกลาปณิธานและตัวธรรมของมนุษย์ ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ