สำหรับตัวหลัวซิวแล้ว สมบัติที่มังกรทองโบราณเทพมารระดับหกตัวหนึ่งทิ้งไว้นั้น ไม่ถือเป็นของล้ำค่าแต่อย่างใด ณ บัดนี้สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดก็คือทรัพยากรในการฝึกตน เพื่อยกระดับผลการฝึกตนศักยภาพตัวเองให้เร็วมากยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้ว การที่แบ่งสมบัติส่วนหนึ่งที่ได้มาให้พวกเซียวอันนั้น หลัวซิวก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นการออกหน้าแทนเขาในเมื่อครู่นี้ของเซียวอัน หรือคำนึงถึงความปลอดภัยของเขาเป็นสิ่งแรกในเมื่อครู่นี้ ล้วนทำให้หลัวซิวมองเซียวอันในมุมมองใหม่
เขาพูดเรื่องทุกอย่างชัดเจนแล้ว หลัวซิวจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ก่อนจะมุ่งหน้าเดินตรงไปยังทิศทางของประตูตำหนัก หากพวกเซียวอันไม่จากไปละก็ พวกจีเสี่ยวจื่อทั้งสามนางต้องจากไปอย่างแน่นอน
วินาทีนี้ผู้คนที่อยู่หน้าประตูใหญ่ตำหนักมีเยอะมาก ๆ ซึ่งคนส่วนมากเป็นเพียงผู้ที่เข้าใจค่ายกลเพียงเปลือกนอกเท่านั้น อยากมาลองเสี่ยงโชคที่นี่ ทว่ากลับเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน
อูห้าวเย๋ทั้งสองพี่น้องสังเกตลาดเลาฝั่งเซียวอันมาโดยตลอด เมื่อเห็นว่าหลัวซิวโดยตรงเข้าไป ส่วนพวกเซียวอันกลับจากไปกะทันหัน จึงทำให้สองพี่น้องนั้นอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วลง
ต่อให้พวกเขาจะคิดจนสมองระเบิด ก็ไม่มีทางนึกได้อย่างแน่นอนว่าหนุ่มที่มีผลการฝึกตนราชาเทพกระจอก ๆ นั่นจะสามารถทลายค่ายกลที่แม้แต่คนอย่างบรรพอาจารย์เทียนคุนอย่างหมดซึ่งหนทางปัญญา
คนจำนวนมากล้วนพยายามลองทลายค่าย แน่นอนอยู่แล้วว่าก็มีส่วนหนึ่งที่ไม่เข้าใจเรื่องค่ายกลเลยเข้าไปเสแสร้งแกล้งทำ
“มึงหยุดเดี๋ยวนี้!”
และในเวลานี้เอง ก็มีเสียงตะคอกที่โกรธเกรี้ยวสะท้อนมา ซึ่งเจ้าของเสียงก็คืออูห้าวฉงที่เห็นว่าหลัวซิวเดินตรงไปยังประตูตำหนัก จึงก้าวออกมาสกัดกั้นเขาไว้
เมื่อเห็นกิริยาท่าทางของอูห้าวฉง บรรพอาจารย์เทียนคุนจึงขมวดคิ้วลง ทว่าก็ไม่ได้พูดอะไร
“มึงมาสกัดกั้นกูเช่นนี้มันหมายความว่าอย่างไร? บรรพอาจารย์บอกแล้วว่าผู้ใดก็สามารถมาทลายค่ายกลได้ หรือว่ามึงจะขัดต่อบรรพอาจารย์?”
มองดูอูห้าวฉงที่อยู่ตรงหน้า หลัวซิวอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะพลางพูด
“อูห้าวฉงกูไม่กล้าขัดต่อเจตนาของบรรพอาจารย์อยู่แล้ว แต่มึงเป็นเพียงมดตัวจ้อยกระจอก ๆ ซึ่งไม่มีสิทธิ์มายืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้เลยด้วยซ้ำ พวกแซ่เซียวนั่นไสหัวไปอย่างรู้จักวางตัวแล้ว มึงยังไม่ไสหัวไปอีกหรือ?”
อูห้าวฉงทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง พลังออร่ามกุฎเทพช่วงปลายแผ่กระจายออกมา
มือใหญ่ที่อูห้าวฉงยื่นออกมาถูกนิ้วหนึ่งของหลัวซิวโจมตีจนทะลุ เลือดสีแดงสดสาดกระเด็น แต่อำนาจนิ้วมือของหลัวซิวกลับไม่ลดน้อยลง เพียงนิ้วเดียวก็ทะลวงกลางหว่างคิ้วของอูห้าวฉงแล้ว
กฎความตาย ตายภายในกระบวนท่าเดียว!
หลัวซิวไม่ลงมือก็แล้วไป ทันทีที่ลงมือก็ถึงแก่ชีวิตเลย ซึ่งนี่คือแก่นสารของกฎความตายต่างหาก!
“น้องรอง!”
เมื่ออูห้าวเย๋พบเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว จึงขมึงตามองอย่างโกรธจัดในทันที ผลการฝึกตนปะทุออกมากะทันหัน ก่อนจะพุ่งตรงมาทางหลัวซิว
อย่างไรก็ตามหลัวซิวกลับเบื่อที่จะไปสนใจเขาด้วยซ้ำ ใช้มือทั้งสองข้างร่ายยันต์ค่าย แล้วกดลงบนประตูใหญ่ของตำหนัก ถัดจากนั้นจู่ ๆ ร่างกายเขาก็บิดเบี้ยว ราวกับหลอมรวมเข้าไปในประตูตำหนักยังไงอย่างนั้น ก่อนจะหายวับไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...