นอกเหนือจากนี้แล้วภายใต้การโน้มนำจากปณิธานของหลัวซิว ในโลกาจุดลมปราณก็ค่อย ๆ มีแดนปริศนาถูกบุกเบิกเป็นจำนวนมากเช่นกัน ภายในแดนปริศนามีภัยอันตรายและการฝึกฝน ในขณะเดียวกันก็มีโชคบางอย่างที่ถูกเขาใส่เข้าไป เพื่อจัดเสนอให้ผู้คนในตระกูลเทพสงครามเข้าไปฝึกปรือภายในแดนปริศนา
ภายใต้การนำพาของเหล่าผู้อาวุโสในตระกูล ตระกูลเทพสงครามบุกเบิกอาณาจักรแห่งหนึ่งในโลกาจุดลมปราณ ก่อสร้างบ้านเกิดเมืองนอน ทุกอย่างดำเนินการไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
โครมคราม……
และในเวลานี้เอง พลังออร่าที่มากมายมหาศาลพลังหนึ่งก็ปรากฏบนนภาดาวเคราะห์ที่ตระกูลเทพสงครามอยู่อาศัย เรือรบขนาดใหญ่ที่เหมือนดั่งอสูรโหดโบราณสามลำลอยขวางอยู่กลางนภาสูง
บนเรือรบทุกลำล้วนมีผู้แข็งแกร่งกึ่งจ้าวมหาเทพที่ออร่าฮึกเหิมยืนอยู่สิบคน สีหน้าอารมณ์ของแต่ละคนเย็นยะเยือก จิตสังหารเข้มข้น
และบนเรือรบทั้งสามลำก็คือกึ่งจ้าวมหาเทพทั้ง 30 คนนั่นเอง ภายใต้การรวบรวมพลังออร่าทั้งหมด ดูแข็งแกร่งเกรียงไกรจนน่ากลัว อสูรจิตทุกดวงที่อยู่บนดาวเคราะห์ล้วนหมอบคลานอยู่บนพื้น ร่างกายสั่นเทาอยู่ที่โดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย!
ซิงเฉินที่บรรลุถึงมกุฎเทพ กำลังอยู่ในช่วงจิตใจฮึกเหิมและองอาจห้าวหาญพอดี แต่เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงพลังออร่าที่กึ่งจ้าวมหาเทพทั้ง 30 คนกดอัดลงมา จิตใจก็จมดิ่งลงไปถึงก้นเหว ราวกับได้เผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ!
“คุณชาย คนเหล่านี้……”
สีหน้าของซิงเฉินขาวซีดเล็กน้อย ในผู้แข็งแกร่งทั้ง 30 คนนี้ เขารู้อยู่ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ใดเลย เหตุใดผู้แข็งแกร่งที่มากมายเช่นนี้ถึงย่างกรายมายังเมืองเทพสงคราม?
“คนพวกนี้มาเพราะข้า”หลัวซิวตอบกลับอย่างเรียบนิ่ง
ใบหน้าที่เรียวบางของหนิงหานยู่และจีเสี่ยวจื่อที่อยู่ข้างกายก็ดูเข้มงวดขึ้นมาเช่นกัน เนื่องจากกึ่งจ้าวมหาเทพทั้ง 30 คนนี้ ศักยภาพของทุกคนล้วนไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย
อยู่ในกึ่งจ้าวมหาเทพเหมือนกัน ผู้ที่กำเนิดจากสำนักจักรพรรดิและกองกำลังใหญ่ชั้นยอดนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ตาแก่ในโลกามนุษย์ที่อาศัยการนอนหลับใหลเพื่อดิ้นทุรนทุรายมีชีวิตต่อสามารถเทียบเคียงได้
หลัวซิวไม่เก็บมาใส่ใจ ยืนตั้งตระหง่านมั่นคงดั่งขุนเขาอยู่ตรงจุดสูงสุดของเมืองเทพสงคราม แล้วพูดอย่างเสียงดัง: “มีของอะไรก็ปล่อยออกมาให้เต็มที่เลย”
“หลัวซิว มึงเป็นเด็กเป็นเล็ก พรสวรรค์โดดเด่น แต่อย่าได้หลงระเริงมากนัก หากมึงยอมแพ้แล้วกลับไปพร้อมกู เชื่อว่านายท่านเจ้าหอยอดอัมพรจะใช้ท่าทีที่แผ่เมตตา ไว้ชีวิตมึง”บนเรือรบของหอยอดอัมพร คนวัยกลางคนคนหนึ่งพูดกระแทกเสียงต่ำ
“หยุดเปลืองน้ำลายต่อคำพูดจอมปลอมที่เอาไว้หลอกเด็กเช่นนี้ได้แล้ว มิหนำซ้ำพวกมึงคิดจริง ๆ หรือว่าอาศัยไก่อ่อนอย่างพวกมึง จะสามารถกำราบกูได้?”
หลัวซิวไม่ได้เก็บมาใส่ใจ แท้จริงแล้วหลังจากเขาสยบกองกำลังใหญ่ชั้นยอดในโลกามนุษย์ด้วยพลานุภาพ หลัวซิวก็รู้แล้วว่ากองกำลังใหญ่ทั้งสามของโลกาชั้นฟ้าต้องอดทนต่อไปไม่ไหวแน่นอน ต้องส่งผู้แข็งแกร่งลงมายังโลกามนุษย์แน่นอน
ทั้งหมดทั้งมวลล้วนอยู่ในแผนการของเขา และช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ เขาก็จัดแจงเมืองเทพสงครามจนกลายเป็นกำแพงเมืองที่แข็งแกร่งมั่นคงยากที่กำลังภายนอกจะตีเข้ามาได้เช่นกัน โดยเฉพาะหลังจากได้รับบทที่สองของฎีกาค่ายแล้ว การยึดกุมและความเข้าใจที่มีต่อค่ายกลของเขา ก็บรรลุถึงขีดจำกัดของระดับอาจารย์โดยสิ้นเชิง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...