“ผู้น้อยอย่าได้จองหองพองขนมากนัก ทันทีที่ข้าลงมือก็สามารถกำราบเจ้าได้แล้ว!”
กึ่งจ้าวมหาเทพคนหนึ่งของหอยอดอัมพรตวาดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน มือข้างหนึ่งครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ แทบจะปกคลุมทั้งเมืองเทพสงครามเอาไว้ หากฝ่ามือนี้กดอัดลงมา เพียงพอที่จะทำให้เมืองเทพสงครามที่กว้างใหญ่เท่าอาณาจักรหนึ่งกลายเป็นพื้นที่เรียบ กลายเป็นซากปรักหักพัง!
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีดังกล่าว มีรอยยิ้มอันเยือกเย็นที่ดูเหยียดหยามปรากฏตรงมุมปากหลัวซิว เขายกนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว ราวกับกระบี่เทพที่เฉียบคมถึงขีดสุดเล่มหนึ่งจึงพุ่งทะยานขึ้นฟ้า
เสียงฉึกดังขึ้น มือใหญ่ที่บดบังท้องฟ้านั่นถูกโจมตีจนแตกสลายทันที ยิ่งกว่านั้นคือกระบี่เทพที่กลายมาจากนิ้วมือหนึ่งนิ้วนี้ ยังคงยืดออกอย่างต่อเนื่อง กดอัดไปทางเรือรบของหอยอดอัมพรที่ลอยอยู่กลางนภาสูง
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว สีหน้าของผู้แข็งแกร่งจำนวนมากของหอยอดอัมพรจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบพากันลงโจมตี ปลดปล่อยพลังอมตะและเรียกของขลังอาวุธสงครามออกมา โจมตีไปทางนิ้วมือนั่นของหลัวซิว
เสียงโลหะกระทบกันดังก้องหู พลังอมตะที่กึ่งจ้าวมหาเทพปลดปล่อยออกมา ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับนิ้วมือของหลัวซิวได้เลยแม้แต่น้อย มาตรแม้นว่าเป็นศัตราวุธราชาชั้นยอด ก็สร้างริ้วรอยไว้บนนิ้วได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนที่ริ้วรอยเหล่านั้นจะหายไปอย่างรวดเร็ว
มีเพียงของขลังอาวุธระดับจ้าวมหาเทพ ถึงจะต้านทานแนวโน้มการกดอัดของนิ้วมือนิ้วนี้ได้
นี่จึงทำให้ทุกคนตกใจมากจนหน้าถอดสี หรือว่าร่างยุทธ์ร่างเนื้อของคนดังกล่าวบรรลุถึงร่างยุทธ์ระดับจ้าวมหาเทพแล้ว?
เวิ่ง!
เมื่อเห็นว่านิ้วมือของหลัวซิวกำลังจะกดอัดเข้ามาแล้ว จึงมีม่านแสงชั้นหนึ่งเลื่อนขึ้นมาจากเรือรบ ปลดผนึกค่ายคุ้มกันใหญ่
เรือรบที่ผู้แข็งแกร่งสิบกว่าคนควบคุมนั้น ต้องเป็นเรือรบระดับจ้าวมหาเทพอยู่แล้ว การเปิดค่ายคุ้มกันใหญ่นั้นมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย
อย่างไรก็ตามสำหรับหลัวซิวที่มีฎีกาค่ายแล้ว ขอแค่ช่วงระยะความต่างของค่ายกลไม่ต่างกันมากนัก เขาก็แทบจะสามารถมองข้ามได้เลย ท่ามกลางสายตาจำนวนมากที่ดูเหลือเชื่อ นิ้วมือของเขาถึงขั้นมองข้ามม่านแสงคุ้มกัน กดอัดเข้าไปได้อย่างปลอดภัย
อั่ก! อั่ก! อั่ก! ......
มีสตรีงดงามที่อยู่ในชุดกระโปรงยาวสีฟ้าน้ำแข็งเดินออกมาจากด้านในเรือรบ นางดูสาวมาก ๆ แต่ทว่าเนื่องจากวิชายั้งอายุ อันที่จริงนางฝึกตนมาหลายหมื่นปีแล้ว
“เทพธิดาปิงเวย?”
เมื่อเห็นว่าสตรีที่งดงามและเย็นชาดั่งภูเขาน้ำแข็งคนนี้ปรากฏ กึ่งจ้าวมหาเทพทั้ง 20 คนฝั่งสำนักเซียนเทียนหยุนและตระกูลตวนมู่ ล้วนดูแปลกใจอย่างควบคุมไม่ได้
ต้องท้าวความก่อนว่าในบรรดาวัยรุ่นอัจฉริยะยุคก่อน เทพธิดาปิงเวยนี่ก็เป็นผู้ที่ชื่อเสียงด้านลบโด่งดังมาก ๆ ระยะเวลาในการฝึกตนมากสุดก็แค่หมื่นต้น ๆ แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพคนหนึ่งแล้ว
ในทุก ๆ มหาโลกา ผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวมหาเทพล้วนเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญจนสามารถส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวมได้แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในสำนักจักรพรรดิหรือแดนศักดิ์สิทธิ์ชั้นยอด ก็ล้วนเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งสูงส่ง
เทพธิดาปิงเวยนี่ไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว ยื่นนิ้วสีครามดุจหยกนั่นออกมาจิ้มลงกลางอากาศที่ว่างเปล่าทีหนึ่ง นิ้วมือของหลัวซิวที่ถูกแช่แข็งจึงค่อย ๆ แตกร้าวแล้วพังทลาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...