ตั้งแต่โบราณกาลจวบจนปัจจุบัน จักรพรรดิเทพที่เคยบังเกิดในมหาโลกายอดอัมพรนั้นมีเยอะมาก ทว่ากลับไม่ใช่จักรพรรดิเทพทุกคนที่สามารถหลอมสร้างอาวุธจักรพรรดิของตัวเองออกมาได้ สาเหตุหลักนั้นเป็นเพราะวัตถุดิบเหล็กเศษณ์ทองเซียนในการหลอมสร้างอาวุธจักรพรรดินั้น หายากเกินไป ล้ำค่ามากเกินไป
ดังนั้นในกองกำลังที่มีการถ่ายทอดสืบสานแข็งแกร่งในดินแดนหนึ่ง จึงมีอาวุธจักรพรรดิน้อยมาก ๆ และอาวุธจักรพรรดิส่วนมากก็เป็นสมบัติล้ำค่าที่ตกทอดมา
การที่ตระกูลตวนมู่ใช้โอสถหาความตายก็ทำให้เทพธิดาปิงเวยรู้สึกแปลกใจมาก ๆ แล้ว ไม่นึกเลยว่าสำนักเซียนเทียนหยุนจะใช้แม้กระทั่งสมบัติล้ำค่าอย่างอาวุธจักรพรรดิหรือ?
นี่จึงทำให้เทพธิดาปิงเวยรู้สึกว่าเจ้าหอมั่นใจในตัวเองมากเกินไปแล้ว เชื่อมั่นมากเกินไปว่าชื่อเสียงอันโด่งดังของสำนักจักรพรรดิสามารถข่มสำนักเซียนเทียนหยุนและตระกูลตวนมู่ได้
ผู้ที่ยึดกุมอาวุธจักรพรรดินั้นก็เป็นกึ่งจ้าวมหาเทพคนหนึ่งเช่นกัน ถึงแม้ผลการฝึกตนจะไม่สูงมาก ทว่ากลับเป็นลูกศิษย์ที่บรรพอาจารย์เทียนหยุนภาคภูมิใจ และเป็นอัจฉริยะที่หนุ่มที่สุดจากศิษย์ทั้งหมดของบรรพอาจารย์เทียนหยุน ซินโป๋หราน
ตั้งแต่ซินโป๋หรานนี่เหยียบย่ำลงบนเส้นทางการฝึกยุทธ์ ก็ชื่นชอบในธนูกับศรจนถึงขีดสุด และมีพรสวรรค์ในด้านนี้สูงมาก ๆ ด้วย ถึงแม้ผลการฝึกตนของเขายังไม่สามารถกระตุ้นพลานุภาพของอาวุธจักรพรรดิอย่างเกาทัณฑ์มเมฆาม่วงชิ้นนี้ออกมาได้ไม่มากนัก แต่ถ้าเกิดจะข้ามขั้นยิงสังหารจ้าวมหาเทพขั้น 3 ที่ถูกรุมโจมตีละก็ กลับไม่ใช่เรื่องยาก
ณ บัดนี้วินาทีนี้ เทพธิดาปิงเวยไม่สามารถใจเย็นได้อีกต่อไปแล้ว แต่ถึงแม้นางจะร้อนรนใจมากเพียงใด ทว่าก็ไม่สามารถจัดการปัญหาใด ๆ ได้ เดิมทีนึกว่าอาศัยฮู้เทวปิดฟ้าจะเหนื่อยหนเดียวและสบายไปทั้งชาติได้แน่นอน ทว่ากลับไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าจะมีเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้?
ฟึ่บ!
ซินโป๋หรานปล่อยสายธนูออกแล้ว ภายในพริบตาก็ลูกธนูดอหนึ่งเปล่งแสงแพรวพรายดั่งเสา กลายเป็นรุ้งยาวฉีกกระชากท้องฟ้า พร้อมกับพลังออร่าอันสูงเทียมฟ้าที่ทำลายล้างทุกอย่าง กวาดล้างทุกสรรพสิ่ง พุ่งตรงไปยังเทพธิดาปิงเวยที่กำลังถูกทหารกล้าตาย 20 คนรุมโจมตีโดยตรง
อย่างไรก็ตามในเสี้ยววินาทีที่วิกฤตอันตรายนี้ หลัวซิวที่นั่งดูเสือกัดกันมาโดยตลอดก็เคลื่อนไหวแล้ว เงาร่างของเขากระพริบทีหนึ่ง ก่อนจะปรากฏกลางนภา แล้วเขม็งทองลูกธนูอาวุธจักรพรรดิที่ยิ่งอยู่ยิ่งบินใกล้เข้ามา!
วินาทีนี้ ราวกับเวลาถูกหยุดนิ่งตลอดกาล!
ไม่ว่าจะเป็นเทพธิดาปิงเวยก็ดี หรือซินโป๋หรานก็ช่าง สำหรับพวกเขาแล้ว ไม่ได้นำหลัวซิวที่นั่งดูเสือกัดกันมาไว้ในสายตาเลย
เปิดพลังสายเลือดออกโดยสิ้นเชิง!
โคจรยันต์ค่ายทั้ง 99 ยันต์ที่สลักจารึกอยู่บนร่างเนื้ออย่างสุดกำลังสามารถ!
บวกกับร่างยุทธ์ระดับจ้าวมหาเทพของหลัวซิว จนถึงบัดนี้นี่ก็คือสภาวะที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา
“น่าเสียดายที่ท้ายที่สุดผลการฝึกตนของข้าก็ต่ำเกินไปอยู่ดี หากข้ามีผลการฝึกตนแดนมกุฎเทพ ข้ามีวิธีการที่นับไม่ถ้วนสำหรับการทลายการโจมตีระดับนี้”
รูม่านตาของหลัวซิวหดลง เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าแค่อาศัยสภาวะที่แข็งแกร่งที่สุด ก็ต้านทานธนูนี้ของอาวุธจักรพรรดิเกาทัณฑ์มเมฆาม่วงไม่ได้เช่นกัน ยังต้องหยิบยืมพลังของเกณฑ์อีกถึงจะเพียงพอ
โคจรหมื่นจักรวาลไร้รูป เงาสะท้อนของวัฏสงสารปรากฏด้านหลังหลัวซิว เขาก้าวเท้าออกไปหนึ่งก้าว เงาสะท้อนของวัฏสงสารที่ใหญ่โตสูงตระหง่านก็หายเข้าไปในร่างกายเขา พลังของเกณฑ์ได้ปลุกเสกบนร่างกายเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...