ส่วนจีเสี่ยวจื่อ หนิงหานยู่และซิงเฉินนั้น กลับเดินขึ้นเรืออนัตตาพร้อมกับเขาในฐานะผู้ติดตาม
บางทีอาจจะเป็นเพราะบุพเพสันนิวาส หรืออาจจะเป็นเพราะความบังเอิญ เรืออนัตตาที่หลัวซิวนั่งในครั้งนี้ในครั้งนี้คือเรืออนัตตาสรรพหมายเลข 6
เขายังจำได้อยู่ว่าครั้นเมื่อเดินทางไปยังมหาโลกายอดอัมพรครั้งแรก เรืออนัตตาที่นั่งนั้นคือยอดอัมพรหมายเลข 3 ซึ่งไปถึงมหาโลกายอดอัมพรพร้อมกับสรรพหมายเลข 6 และเรืออนัตตาทั้งสองลำก็ค้นพบดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์พร้อมกัน ต่อมาเนื่องจากการหายไปของหนวดอสูรกลืนดารา ยังส่งผลให้ผู้อาวุโสชุดคลุมยาม่วงบนเรืออนัตตาทั้งสองลำปะทะกันยกใหญ่ด้วย
เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงหนวดเส้นนั้นของอสูรกลืนดารา จิตสำนึกของหลัวซิวจึงเข้าสู่โลกาจุดลมปราณใบหนึ่งในร่างกาย
นวดเส้นนี้ของอสูรกลืนดาราถูกเขาเก็บซ่อนมานานมาก ๆ แล้ว การกลั่นมันให้กลายเป็นอาวุธนั้น มีความหมายต่อหลัวซิวไม่มาก ในทางตรงกันข้ามเลือดเนื้อบนหนวดของอสูรกลืนดารามีพลังบริสุทธิ์แฝงซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นวัตถุดิบชั้นดีสำหรับการกลั่นยา
หนวดที่ยาวหลายพันเมตร เหมือนดั่งภูเขาหลายลูกที่เชื่อมต่อกัน ถูกหลัวซิวตัดแบ่งอย่างต่อเนื่อง แล้วสกัดแก่นสารที่อยู่ภายในออกมา สุดท้ายก็กลั่นโอสถแก่นแท้ออกมาได้แสนกว่าเม็ด
เนื่องจากเป็นยาที่ผนึกรวมมาจากแก่นสารเลือดเนื้อ ดังนั้นหลัวซิวจึงตั้งชื่อให้มันว่าโอสถแก่นแท้
สำหรับหลัวซิวที่ยึดกุมความลึกลับและมหัศจรรย์ของคัมภีร์โอสถ ถ้าเกิดเขาจะกลั่นยาชนิดหนึ่ง ขอแค่ทราบระดับประสิทธิผลของตัวยา เขาก็สามารถอนุมานผ่านคัมภีร์โอสถ เรียบเรียงทฤษฎีหนึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ยิ่งกว่านั้นคือเขาสามารถอนุมานตำรับยาที่สมบูรณ์ออกมาได้อีกด้วย
ในมหาโลกาพันสามโอสถแก่นแท้เป็นสิ่งที่หาเป็นสิ่งที่หาพบได้น้อยมาก ๆ ทว่าหาพบได้บ่อยมากในโลกามหาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งแปด มันคือทรัพยากรการฝึกตนอย่างหนึ่งที่สามารถทดแทนแก้วเทว ในโลกามหาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งแปด ก็มีเพียงผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับสี่เป็นต้นไป ถึงจะมีปัญญาใช้ เนื่องจากเงื่อนไขพื้นฐานของการกลั่นโอสถแก่นแท้ ก็คือจำเป็นต้องใช้เลือดเนื้อของอสูรโหดเทพมารระดับสี่ ถึงจะสามารถสกัดมันออกมาได้
จากโลกะอัมพรเทวไปถึงสรรพมหาโลกา เวลาล่วงเลยไปครึ่งปีแล้ว แต่พวกจีเสี่ยวจื่อที่อยู่ในโลกาศุภรกลับฝึกตนไปหกปีกว่าแล้ว
จากการที่แดนกฎของหลัวซิวเพิ่มขึ้น ประสิทธิผลของโลกาศุภรก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน การเพิ่มและลดระดับความเร็วของห้วงเวลาสิบกว่าเท่านั้น ก็เป็นเพียงการใช้สอยกฎเวลาขั้นพื้นฐานสุด
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ หลัวซิวดูเหมือนจะไม่ได้เพ็ญตน แต่แท้จริงแล้วเขาตกตะกอนตบะของตนเองมาโดยตลอด ญาณเทวร่างมนุษย์ที่อยู่ในตัวหยั่งรู้ยิ่งอยู่ยิ่งกระชับรัดกุม คลื่นตัวสำนึกที่แผ่กระจายออกมาเริ่มใกล้เคียงจ้าวมหาเทพอย่างแท้จริงแล้ว
นอกเหนือจากนี้แล้วยังมีความลี้ลับของฎีกาค่าย หลัวซิวก็ตระหนักและอนุมานมาโดยตลอดเช่นกัน ผสมผสานหลอมรวมฎีกาค่ายเข้ากับวิถีหมื่นจักรวาลไร้รูปของตน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...