มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2196

บนดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่แรงโน้มถ่วงน่าทึ่ง หลัวซิวเลือดอาบท่วมตัว ผิวหนังแตกร้าว แต่ใต้เท้าเขากลับมีอสูรกายที่ลำตัวใหญ่โตมากจนน่าทึ่งหมอบคลานอยู่

นี่คืออสูรกายตัวหนึ่งที่มีสายเลือดของอสูรโบราณดารา อีกทั้งมันบรรลุถึงระดับจ้าวมหาเทพแล้ว ร่างญาณของอสูรกายเกะกะระราน เพื่อสังหารมันหลัวซิวก็ทุ่มแรงไปครั้งแล้วครั้งเล่า จนได้รับบาดเจ็บไม่น้อย

มองดูศพอสูรกายที่นอนอยู่ในกองเลือด หลัวซิวรู้สึกทอดถอนใจเล็กน้อย ขณะที่เขานั่งเรืออนัตตาเมื่อครั้นนั้น ในละแวกของดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ดวงนั้นก็มีอสูรกลืนดาราตัวหนึ่งวนเวียนอยู่เช่นกัน ซึ่งมีศักยภาพระดับจ้าวมหาเทพ

เมื่อนั้นเขาแค่สามารถมองดูอยู่ไกล ๆ ไม่กล้าเข้าใกล้เลยด้วยซ้ำ แต่ปัจจุบันเขากลับสามารถสังหารอสูรกายระดับนี้ได้ด้วยกำลังแรงของตนเอง

อสูรกายระดับจ้าวมหาเทพเท่ากับเทพมารระดับสี่ ในเนื้อเลือดของมันมีแก่นแท้พลังที่มากมายมหาศาลแฝงซ่อนอยู่ ซึ่งสามารถนำมากลั่นแปรเป็นโอสถแก่นแท้

นอกจากอสูรกายแล้ว ก็สามารถกลั่นแปรผู้แข็งแกร่งคนอื่น ๆ ให้กลายเป็นโอสถแก่นแท้ได้เช่นกัน ดังนั้นทรัพยากรการฝึกตนอย่างโอสถแก่นแท้ จึงเรียกได้เลยว่าหลอมสร้างมาจากเลือดสด ยิ่งเป็นผู้แข็งแกร่งที่แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ หลังจากถูกสังหารแล้วจำนวนโอสถแก่นแท้ที่สามารถกลั่นแปรได้ก็จะมากเท่านั้น

ยกตัวอย่างเช่นผู้แข็งแกร่งอย่างอสูรกลืนดารา เนื่องจากมันเป็นอสูรโบราณดารา แก่นแท้จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ลำตัวใหญ่โตมโหฬาร แค่หนวดเส้นหนึ่งของมันก็สามารถกลั่นแปรเป็นโอสถแก่นแท้แสนกว่าลูกแล้ว

แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว อสูรกายที่หลัวซิวสังหารกลับด้อยกว่าอสูรกลืนดาราตัวนั้นมาก ๆ หลังจากทำการกลั่นแปรทั้งลำตัวของมันแล้ว ก็ได้โอสถแก่นแท้มาแค่สองล้านกว่าเม็ด

ในจำนวนนี้ ช่องจิตของอสูรกายระดับจ้าวมหาเทพตัวนี้ถูกหลัวซิวกลั่นแปรเป็นโอสถญาณจิงช่องจิตเป็นผลึกที่ผนึกรวมมาจากวิญญาณดั้งเดิมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เมื่อกลั่นแปรมันให้กลายเป็นโอสถญาณจิง จึงมีพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์อัดแน่นอยู่ภายใน เมื่อกลืนกินกลั่นแปรโอสถญาณจิง สามารถทำให้ตัวสำนึกยิ่งใหญ่และแข็งแรงขึ้น จนสามารถบุกเบิกตัวหยั่งรู้

หลัวซิวไม่ได้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาจุดลมปราณที่สมบูรณ์ให้ซิงเฉินแต่อย่างใด เนื่องจากเคล็ดเทพสงครามที่สมบูรณ์ก็มีเคล็ดวิชาในการเปิดจุดลมปราณแฝงซ่อนอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว อีกทั้งมันยังมุ่งเป้าไปที่ฐานร่างของตระกูลเทพสงครามเป็นพิเศษด้วย เมื่อเปรียบเทียบกับเคล็ดวิชาจุดลมปราณสมบูรณ์แบบแล้ว เคล็ดเทพสงครามเหมาะสมกับซิงเฉินที่กำเนิดจากตระกูลเทพสงครามมากกว่า

หลังจากผ่านการขัดเกลามามากจนนับไม่ถ้วน พอจะพูดได้เลยว่าศักยภาพของซิงเฉินรุดก้าวหน้ารวดเร็วมาก เลือดบรรพบุรุษเทพสงครามได้ปรับแก้ฐานร่างและศักยภาพของเขา แม้ปัจจุบันเขาจะเป็นเพียงมกุฎเทพขั้น 3 แต่อาศัยร่างเทพสงครามที่เกะกะระราน เขาสามารถเข่นฆ่ากับมกุฎเทพช่วงกลาง ตลอดจนช่วงปลายโดยตรงได้อย่างสมบูรณ์

อีกทั้งตระกูลเทพสงครามเป็นตระกูลที่คงอยู่เพื่อการสู้รบตั้งแต่กำเนิดแล้ว ถึงแม้จีเสี่ยวจื่อจะยึดกุมกฎปริภูมิ อีกทั้งผลการฝึกตนเลื่อนขั้นไปถึงมกุฎเทพช่วงกลางแล้ว แต่เมื่อประลองกันโดยตรง นางก็ถูกซิงเฉินกดอัดจนตกเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบเช่นกัน!

สามารถพูดได้อย่างไม่ลังเลใจเลยว่าซิงเฉิน ณ ปัจจุบัน คือนักรบคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายหลัวซิวแล้ว สักวันหากเขาสามารถเติบโตขึ้นไปถึงระดับขั้นอย่างบรรพบุรุษ เขาต้องเป็นผู้แข็งแกร่งที่สามารถกวาดล้างเก้าสวรรค์สิบปฐพีได้อย่างแน่นอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ