มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2217

“ไม่มีอะไรจะอธิบาย หลัวซิวเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสเสวียนคง และเป็นเพื่อนของตระกูลจี้ของเรา ศิษย์อัจฉริยะเหล่านั้นของพวกเจ้าไม่เก่งเท่าเขา สมแล้วที่พวกเขาตายไป!”

หญิงชราจากตระกูลจี้พูดอย่างเย็นชา นางเป็นคนที่มีระดับผลการฝึกฝนสูงที่สุดในบรรดาผู้อาวุโสทั้งสาม และนางมีผลการฝึกฝนจักรพรรดิเทพช่วงกลาง

“ช่างกล้าพูดมากนัก! ตระกูลจี้จะต่อสู้กับสำนักจักรพรรดิแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในมหาโลกาพันสามรึ?”

เจ้าหอยอดอัมพรตะคอกอย่างเย็นชา และข้างหลังเขา ผู้อาวุโสไท่ซ่างสองคนของหอยอดอัมพรก็ปล่อยกลิ่นอายผลการฝึกฝนเช่นกัน ทั้งสองคนเป็นจักรพรรดิเทพ

ตระกูลจี้มีจักรพรรดิเทพสามคนใน และหอยอดอัมพรก็มีจักรพรรดิเทพสามคนเช่นกัน พวกเขาได้เปรียบกว่ามากยังมีแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ของสำนักจักรพรรดิที่เฝ้าดูอยู่

“ตระกูลจี้นั้นหยิ่งยโสเกินไป แม้ว่าครั้งหนึ่งพวกเจ้าจะเคยเป็นตระกูลใหญ่ในโลกมหาศักดิ์ แต่พวกเจ้าก็ล่มสลายไปแล้ว มิฉะนั้นพวกเจ้าคงไม่ตกลงมาในมหาโลกาพันสามของเรา”

“ถูกต้อง ถ้ารวมทุกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของสำนักจักรพรรดิ ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพไม่มีหนึ่งพันคนก็มีแปดร้อย หรือว่าตระกูลจี้ของเจ้าจะต้านทานได้?”

หลายเสียงก็ดังก้องไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดี

“ตระกูลจี้ของข้าไม่เคยกลัวความท้าทายใด ๆ ! หากพวกเจ้าต้องการต่อสู้ก็มาต่อสู้!” ท่าทางของหญิงชราของตระกูลจี้นั้นแข็งกร้าวมาก

รัศมีอันทรงพลังลอยอยู่ในอนัตตา สำนักจักรพรรดิเช่นตระกูลมู่สรรพสิทธิ์，ตระกูลหงกลียุคและหอยอดอัมพรนั้นแข็งแกร่งตามใจตนเองมาเสมอ มีครั้งไหนที่จะถูกคนอื่นท้าทายพวกเขาต่อหน้าเช่นนี้?

อย่างไรก็ตาม กองกำลังเช่น ตระกูลหงกลียุคก็สืบทอดมาจากโลกมหาศักดิ์เช่นกัน พวกเขารู้ประวัติศาสตร์บางส่วนของตระกูลจี้และพวกเขารู้ว่าตระกูลนี้เคยเป็นตระกูลชั้นนำในโลกมหาศักดิ์

ด้วยความรุ่งโรจน์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดในอดีต แม้ว่ากระตู่จี้จะไม่แข็งแกร่งอย่างในอดีต แต่เมื่อปรากฏตัวออกมาจะต้องไม่ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างสำนักอื่นๆ

สำนักจักรพรรดิจากทุกทิศทุกทางออกมากดดัน ตระกูลจี้แข็งแกร่งและสถานการณ์ในตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ทักสองฝ่าย

ในขณะนี้ ประตูของโลกาแดนปริศนาของตระกูลจี้สว่างวาบ แล้วร่างของหลัวซิวก็ก้าวออกมาจากข้างใน

ทันใดนั้น สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่หลัวซิว ด้วยการตรวจสอบและเจตนาฆ่า

“ข้าว่านะทุกคน ขอข้าพูดอะไรสักคำได้ไหม?” หลัวซิวมองไปรอบ ๆ แม้ว่าจะมีผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพอยู่มากมาย แต่เขาก็ยังสงบและเยือกเย็น

“ทะนงตน! เป็นแค่ผู้น้อย เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะพูดที่นี่?” เฒ่าประหลาดตวนมู่ตะโกนด้วยความโกรธ และทันใดนั้น แรงผลักดันของจักรพรรดิเทพก็พุ่งเข้าหาหลัวซิว

จี้เสวียนคงอยู่ข้างๆ เขา ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะนิ่งเฉย ๆ เจาสะบัดแขนเสื้อของเขาต่อต้านออร่าของเฒ่าประหลาดตวนมู่ได้อย่างง่ายดาย

“ข้าจะมีสิทธิ์พูดหรือไม่นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้า ไอ้แก่ การที่พวกเจ้าระดมคนมากมายมาที่นี่ก็เพื่อสิ่งล้ำค่าของแดนเทวนิรันกาล”

หลัวซิวชำเลืองมองเฒ่าประหลาดตวนมู่อย่างดูถูกเหยียดหยาม จากนั้นพูดช้าๆ อย่างมีสติ “สิ่งล้ำค่าสามอย่างของแดนเทวนิรันกาล ดอกไม้หนึ่งดอก หินหนึ่งก้อน และกระบี่หนึ่งเล่ม หินนิรันดร์ไม่ได้อยู่ในมือของข้า กระบี่ตรีภพก็ ไม่ได้อยู่ในมือของข้าเช่นกัน มีเพียงดอกถานฮวาเก้ากลีบที่อยู่ในมือของข้า”

“ข้าวางแผนที่จะมอบดอกถานฮวาเก้ากลีบนี้ให้กับผู้อาวุโสของตระกูลจี้...”

ในขณะที่พูด หลัวซิวพลิกฝ่ามือแล้วกลีบดอกเก้ากลีบสีสันสดใสก็ปรากฏขึ้นแล้วลอยอยู่บนฝ่ามือของเขา

สำหรับตระกูลจี้ หลัวซิวไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ แม้ว่าในอดีตเขาจะเป็นไท่ซ่างฉิง แต่เขาอุทิศตนเพื่อแสวงหาวิถียุทธ์ แม้ว่าเขาจะรู้จักกับผู้คนมากมาย แต่เขาก็ไม่ได้มีความรู้สึกมากนัก

แต่หลัวซิวแตกต่างจากไท่ซ่างฉิง บางทีอาจเป็นเพราะจี้หวูชวง เขาอยากชดเชยให้กับตระกูลจี้ ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะให้ดอกถานฮวาเก้ากลีบกับตระกูลจี้