ทว่าสตรีผู้มีนามว่าตงโหรวนี่กลับแตกต่างกัน นางคือจ้าวมหาเทพคนหนึ่ง อีกทั้งไม่ใช่จ้าวมหาเทพทั่วไปด้วย แต่เป็นจ้าวมหาเทพขั้น 7!
ผู้บำเพ็ญมารจ้าวมหาเทพขั้น 7 คนหนึ่ง เป็นสิ่งที่ไม่ต้องคิดก็แทบจะสามารถยืนยันได้เลยว่าคนดังกล่าวต้องมาจากโลกาบรรพมารอย่างแน่นอน!
ในขณะที่หลัวซิวมองทะลุตัวตนความเป็นมาของคนดังกล่าวได้ภายในสายตาเดียว ตงโหรวนั่นก็สัมผัสได้เช่นกัน ก่อนที่นางจะหันขวับไปทางหลัวซิว
นี่จึงทำให้หลัวซิวขมวดคิ้วลงอีกครั้ง และอดไม่ได้ที่จะอุทานคำว่าแย่แล้วในใจ เนื่องจากเขาสังเกตเห็นว่าสิ่งที่สายตาของตงโหรวนั่นสนใจไม่ใช่เขา แต่เป็นอสูรดูดจิตที่เกาะอยู่บนไหล่เขา
เผ่าพันธุ์มาร อสูรกายและอสูรโหดในยุคหลังไม่คงอยู่ในยุคที่เก่าแก่ที่สุดอย่างไท่ชู เล่ากันว่าอสูรดูดจิตคือสายเลือดของอสูรโบราณดาราคงอยู่ตั้งแต่ยุคไท่ชู
อสูรดูดจิต ในฐานะที่เป็นอสูรโบราณดาราที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุดเมื่อหลายแสนล้านปีก่อน สำหรับเผ่าพันธุ์มารในยุคหลังแล้ว ออร่าสายเลือดของมันก็เหมือนดั่งออร่าของผู้บุกเบิก มันจะดึงดูดความสนใจของเผ่าพันธุ์มารได้สูงมาก และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ครั้นเมื่ออยู่ในแดนเทวนิรันกาล ทันทีที่พบหน้ากันผู้สืบทอดบรรพมารคนนั้นก็ขออสูรดูดจิตกับหลัวซิวทันที
และเห็นได้ชัดเจนเลยว่าสตรีผู้มีนามว่าตงโหรวนี่ แข็งแกร่งกว่าผู้สืบทอดบรรพมารเมื่อครั้นนั้นมากอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้อสูรดูดจิตจะเก็บซ่อนพลังออร่าของตัวเองแล้ว แต่พลังสายเลือดนั่นกลับปกปิดได้ยากมาก ๆ ถูกนางสัมผัสได้แล้ว
“เหอะ ๆ ช่างเป็นเจ้าตัวน้อยที่น่ารักยิ่งนัก”
แม้ตงโหรวจะสัมผัสออร่าสายเลือดปานผู้บุกเบิกได้จากตัวตงโหรว แต่เนื่องจากออร่าผลการฝึกตนของอสูรดูดจิตถูกอำพราง ฉะนั้นนางจึงดูไม่ออกว่ารายละเอียดผลการฝึกตนของอสูรดูดจิตเป็นอย่างไรกันแน่
แต่นางกลับสังเกตเห็นว่าเจ้าของอสูรน้อยตัวนั้น เป็นเพียงชายหนุ่มที่มีผลการฝึกตนมกุฎเทพขั้น 2 คนหนึ่ง จึงคิดว่าสายเลือดของอสูรน้อยตัวนี้บริสุทธิ์ แต่ศักยภาพน่าจะไม่แข็งแกร่ง
“ผู้เพื่อนยุทธ์ท่านนี้ อสูรน้อยตัวนี้เป็นของเจ้าหรือ สามารถยกมันให้ข้าได้หรือไม่?”ตงโหรวย่างเท้าเดินตรงมา แววตามีมนต์ขลังเล็กน้อย ยิ้มหวานพลางเพ่งมองมาทางหลัวซิว
ด้วยเหตุนี้นางจึงเก็บความคิดดูถูกกลับมา จากสรรพนามผู้เพื่อนยุทธ์ในตอนแรก ก็เปลี่ยนเป็นสหาย
“ข้าน้อยเป็นเพียงคนต่ำต้อยไร้ชื่อคนหนึ่งเท่านั้นแหละ”หลัวซิวยิ้มอ่อน ไม่ได้เปิดโปงร่างแท้ของฝ่ายตรงข้ามโดยตรง เป็นเพราะเขาไม่อยากให้ตัวเองเข้าไปผูกติดกับเรื่องราวที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตน
“ตงโหรวล่วงเกินไปเอง”
ตงโหรวก็ไม่ได้ตามตื้อเช่นกัน แค่มองหลัวซิวด้วยสายตาที่มีเลศนัยรอบหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ถอยกลับไป
สายตาของชายหนุ่มสำนักเซียนเทียนหยุนนั่นร่วงลงบนตัวหลัวซิว “ข้าน้อยเผิงเล่อเสียน ใต้เท้าไร้มารยาทเช่นนี้ หรือว่าไม่กล้าแม้แต่จะทิ้งชื่อและสมญานามไว้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...