ทว่าดูจากคำพูดของฝ่ายตรงข้าม หลัวซิวก็ฟังออกเช่นกันว่าลิ่งฮู๋จื่อเซวียนนี่มองตัวตนของเขาไม่ทะลุปรุโปร่ง สิ่งที่ดึงดูดเขาคือค่ายกลของตัวเอง
เห็นเพียงสายตาของลิ่งฮู๋จื่อเซวียนร่วงลงบนรูเล็ตธรรมดา ๆ ชิ้นนั้นในมือหลัวซิวแล้วพูด: “ไม่ทราบว่าสหายมีนามว่ากระไรหรือ เป็นนักค่ายเทพระดับใด?”
“เหตุใดข้าจึงต้องบอกเจ้าด้วย?”หลัวซิวไม่เก็บมาใส่ใจ ลักษณะท่าทีที่ยโสอวดดีอย่างลิ่งฮู๋จื่อเซวียน ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจมาก ๆ
“ข้าสามารถมอบโอกาสและโชคหนึ่งให้แก่เจ้าได้”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนหัวเราะเบา ๆ ราวกับทุกอย่างล้วนถูกควบคุมอยู่ในเงื้อมมือ
เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ หลัวซิวก็รู้สึกสนใจขึ้นมาเล็กน้อยจริง ๆ ว่าโอกาสโชคนั่นคืออะไรกันแน่ เขาเข้าใจดีมาก ๆ เลยล่ะว่าลิ่งฮู๋จื่อเซวียนมาจากโลกมหาศักดิ์ ในมหาโลกาพันสาม สิ่งที่สามารถทำให้เขารู้สึกสนใจได้นั้นมีไม่เยอะหรอกนะ
ในขณะเดียวกัน หลัวซิวก็สังเกตเห็นอย่างน่าทึ่งเช่นกันว่าผลการฝึกตนของลิ่งฮู๋จื่อเซวียนนี่บรรลุถึงมกุฎเทพขั้น 6 ภายในระยะเวลาสั้น ๆ อีกทั้งใช้เวลาอีกไม่นาน ก็น่าจะสามารถบรรลุถึงมกุฎเทพขั้น 7 แล้ว
ด้วยเหตุนี้จึงแสดงให้เห็นว่าทรัพยากรการฝึกตนของลิ่งฮู๋จื่อเซวียนนี่พอเพียงมาก ๆ หลัวซิวคาดเดาว่าการที่บนตัวเขามีโอสถแก่นแท้หลักล้านเม็ดนั้น ยังเป็นจำนวนที่น้อยเลย
“เจ้าสามารถเรียกข้าว่าไท่ซ่าง ข้าคือนักค่ายเทพระดับปรมาจารคนหนึ่ง”หลัวซิวตอบกลับเช่นนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้ชื่อปลอม ซึ่งตั้งมาจากไท่ซ่างฉิง แต่ขาดคำว่าฉิง
“ไท่ซ่าง?”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนขมวดคิ้วลงเล็กน้อย คำว่าไท่ซ่างนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความสูงศักดิ์สุดยอด คนดังกล่าวใช้คำนี้มาเป็นชื่อของตัวเอง ท่าทางการพูดบาตรใหญ่มากจนน่าทึ่งจริง ๆ แม้แต่ผู้ที่หยิ่งผยองเป็นหนึ่งไม่เป็นสองอย่างลิ่งฮู๋จื่อเซวียน ยังรู้สึกไม่พอใจมาก ๆ
“ที่แท้ก็คือผู้เพื่อนยุทธ์ไท่ซ่างนี่เอง ข้าชื่อลิ่งฮู๋จื่อเซวียน”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนสลัดความรู้สึกไม่พอใจทิ้งชั่วคราว แล้วพูดชื่อตัวเองออกมา
“ไม่ทราบว่าโอกาสโชคที่ผู้เพื่อนยุทธ์ลิ่งฮู๋กล่าวถึงนั้นคือกระไรหรือ?”หลัวซิวยิ้มพลางถาม
ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนอมยิ้มพลางยกกาเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา เทเหล้าให้ตัวเองหนึ่งแก้วพลางตอบกลับ: “ผู้เพื่อนยุทธ์ไท่ซ่างทราบความเป็นมาของสองคนที่เดินขึ้นไปในเมื่อครู่นี้หรือไม่?”
“โอ๊ะ? พูดเช่นนี้ก็หมายความว่าผู้เพื่อนยุทธ์ลิ่งฮู๋ทราบหรือ?”หลัวซิวรู้สึกตะลึงเล็กน้อย ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนนี่ไม่ใช่คนในมหาโลกาพันสาม ดูท่าเรื่องราวที่เขาทราบน่าจะมีไม่น้อยเลย
ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนหัวเราะเบา ๆ “สตรีผู้มีนามว่าตงโหรวนั่นมาจากโลกาบรรพมาร กำเนิดจากเผ่าพันธุ์จิ้งจอกฟ้าหิมาลัย”
“เผิงเล่อเสียนนั่นคืออดีตอัจฉริยะของสำนักเซียนเทียนหยุน ช่วงนี้เพิ่งบรรลุสู่แดนจ้าวมหาเทพ อายุยังไม่ถึงหนึ่งหมื่นปีก็กลายเป็นผู้อาวุโสในแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งแล้ว แต่นี่ยังไม่ใช่จุดสำคัญ จุดสำคัญคือเขายังมีอีกตัวตนหนึ่ง นั่นก็คือศิษย์สนิทของบรรพอาจารย์จักรพรรดิเทพแห่งสำนักเซียนเทียนหยุน!”
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความสามารถด้านข่าวกรองของลิ่งฮู๋จื่อเซวียนนี่ไม่เลวเลยจริง ๆ หากไม่ทราบความเป็นมาของเขา หลัวซิวคงนึกว่าไอ้หมอนี่คือผู้มีอิทธิพลในเมืองเทียนหยุนแล้ว
และในเวลานี้เอง ก็มีคนสองคนเดินลงมาจากชั้นสอง แล้วมุ่งหน้าตรงมายังทางหลัวซิวและลิ่งฮู๋จื่อเซวียน
“ผู้อาวุโสเผิงให้เจ้าไปพบท่าน”หนึ่งในนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นในเชิงออกคำสั่ง
“สำนักเซียนเทียนหยุนไม่มีคนแล้วหรือ? จึงส่งพวกเจ้าทั้งสองคนมาทดสอบหยั่งเชิงข้า?”
หลัวซิวมองทั้งสองคนด้วยสายตาที่เรียบนิ่งรอบหนึ่ง เผิงเล่อเสียนคิดจะทำอะไรกันแน่ มองเพียงแวบเดียวเขาก็มองทะลุปรุโปร่งแล้ว ก็แค่อยากให้เบื้องล่างสองคนนี้มาทดสอบความลึกตื้นของศักยภาพตนเอง
“ช่างปากดียิ่งนัก มึงคิดว่าตัวเองคือผู้ใด บังอาจไม่นำสำนักเซียนเทียนหยุนของเราไปไว้ในสายตา?”
ทั้งสองฝ่ายลงมือโจมตีโดยตรง มีพลังออร่าผลการฝึกตนแดนมกุฎเทพขั้นสูงระเบิดออกมาจากร่างกาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...
รอตอนต่อไปครับ...
มีแบบเสียเงินไป3900ตอนแล้ว ไครมีงบลองไปอ่านดู ตอน1-3บาท https://web.hinovelasia.com/h5/invitation/download.html?lang=th&code=TH1GXOM...