“ลิ่งฮู๋เอ๊ยลิ่งฮู๋ เจ้าโง่เง่าเช่นนี้ แต่แม่นางชีชีกลับฉลาดเช่นนี้ เกรงว่าชาตินี้เจ้าคงไม่คู่ควรกับนางแล้วล่ะ”
หลัวซิวส่ายหน้าแล้วพูดแขวะคำหนึ่ง: “ศักยภาพของญาณมรณะไร้เศียรนั่นแข็งแกร่ง ผู้อาวุโสตระกูลมู่และเฒ่าประหลาดเทียนหยุนร่วมมือกันยังยากที่จะต่อกรด้วย ยิ่งกว่านั้นคือขณะที่เราปรากฏตัว พวกมันทั้งสองคนยังไม่มีเวลาถอยออกมาจัดการพวกเรา ถึงได้ทำให้เรามีโอกาสสยบมู่จื่อเซียวได้”
หลัวซิวพูดขนาดนี้แล้ว หากลิ่งฮู๋จื่อเซวียนยังฟังไม่เข้าใจอีกละก็ เช่นนั้นเขาก็โง่จริง ๆ แล้วล่ะ
“ให้ตายเถอะ เจ้านี่มันหน้าเนื้อใจเสือเสียจริง เจ้าหมายความว่าเราจะแอบย้อนกลับไป ดูซิว่าจะฉกฉวยผลประโยชน์ได้หรือไม่?”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนเบิกตากว้าง เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่วางแผนเก่งมาก ๆ แล้ว ไม่นึกเลยว่าไท่ซ่างหลอกลวงนี่จะโหดกว่าตัวเองซะอีก กล้าวางแผนลอบทำร้ายแม้กระทั่งผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพสองคน
เมื่อนั้นแม้เขาจะวางแผนลอบทำร้ายจักรพรรดิเทพสี่คน แต่สิ่งที่อาศัยกลับเป็นพลังของค่ายกลที่หลัวซิวจัดวางไว้ แต่ครั้งนี้กลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ครั้งนี้ต้องเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเทพสองคนอย่างแท้จริงเชียวนะ พอจะพูดได้เลยว่าความเสี่ยงนั้นไม่น้อยเลย
“เป็นญาณมรณะที่อยู่ไม่ต่ำกว่าเทพมารระดับเจ็ดครั้นเมื่อยังมีชีวิต ทั้งตัวล้วนมีแต่ของล้ำค่า หากภายในร่างกายยังมีเศษพลังและเลือดหลงเหลืออยู่อีกละก็ ไม่ว่าจะนำมันมากลั่นเป็นยาหรือกลืนกินฝึกตนโดยตรง ก็ล้วนเป็นของชั้นเลิศ”หลัวซิวพูด
“เอาเลย!”ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนกล้าหาญมาก ๆ มิเช่นนั้นเมื่อครั้นนั้นเขาก็คงไม่ไปวางแผนลอบทำร้ายจักรพรรดิเทพถึงสี่คน และยิ่งกล้ามีความคิดที่มุ่งหวังคลังสมบัติของสำนักเซียนเทียนหยุน
ชีชีก็ไม่มีความเห็นต่อเรื่องนี้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ในฐานะที่เป็นอัจฉริยะที่กำเนิดจากโลกมหาศักดิ์ และตัวนางก็กำเนิดจากกองกำลังใหญ่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นนางหรือลิ่งฮู๋จื่อเซวียน แท้จริงแล้วต่างยังปกปิดอุบายไพ่เด็ดคุ้มกันชีวิตที่ยังไม่เคยใช้งานอยู่
หลัวซิวหัวเราะเบา ๆ จากนั้นเขาก็วางค่ายกลซ่อนงำใหม่อีกครั้ง ก่อนที่ทั้งสามจะย้อนกลับไปโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง
“อย่าได้ดูถูกญาณมรณะไร้เศียรนั่นเชียว”หลัวซิวยิ้มอย่างมีเลศนัย ผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์ที่กลายเป็นญาณมรณะ ถึงแม้จะสูญเสียความทรงจำและประสบการณ์วิถียุทธ์ไปแล้ว แต่ก็มีสัญชาตญาณครั้นเมื่อยังมีชีวิตหลงเหลืออยู่บ้าง และอุบายที่ผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์ปลดปล่อยออกมาโดยสัญชาตญาณนั้น แท้จริงแล้วกลับเป็นอุบายที่แข็งแกร่งที่สุดครั้นเมื่อพวกเขายังมีชีวิตอยู่
เรือรบม่วงทองลอยอยู่กลางนภา ภายใต้การโจมตีจากกลุ่มคนตระกูลมู่ ญาณมรณะไร้เศียรได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง ถูกโจมตีจนกระเด็นออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ชุดเกราะพัง ๆ ที่เขาสวมใส่อยู่บนตัวกลับมีแสงสีดำเป็นประกายอยู่เป็นระยะ พลังโจมตีส่วนมากล้วนถูกหักล้าง สามารถพูดได้เลยว่าบาดแผลแท้จริงที่เขาได้รับนั้น แทบจะมีแค่กระจิดริด
“ตู้มม!”
ทันใดนั้นเอง ก็มีพลังออร่าน่ากลัวปานน้ำหลากที่สูงเทียมฟ้าปะทุออกมาจากตัวญาณมรณะไร้เศียร กระบี่พัง ๆ เล่มนั้นราวกับฟื้นตื่นคืนมา ปราณกระบี่ทั้งหลายที่แวววาวจับตาถึงขีดสุดปรากฏกลางนภา ฉีกกระชากท้องฟ้าที่ครอบปฐพี เหมือนดั่งมังกรตัวหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...